
10 มิถุนายน 2565 ดาวโจนส์ปิด -600 กว่าจุด มหาวิบัติเศรษฐกิจ วิกฤติไวรัส-สงครามนิวเคลียร์ ถล่มโลก ข้าวจะยาก หมากจะแพง เราจะพบกับสภาพเศรษฐกิจหนักหนาสาหัสรุนแรงกว่าครั้งไหนๆ
ข้อความข้างต้น หรือ อะไรทำนองนั้นมักจะปรากฏในกลุ่มหุ้น กลุ่มไลน์นักลงทุนแต่เช้า
แต่พอถามไปว่าถ้าล้างพอร์ทตรงนี้ Short/Put ไปรัวๆ มันจะลงยับใช่ไหม ก็จะไม่ได้คำตอบอะไร มีแต่สร้างแพนิคไปวันๆ อย่างน่าเบื่อหน่าย
วันไหนลงแรงก็ เราเตือนแล้ว วันไหนเขียวแรงก็อยู่ๆมี Long/Call กับซื้อหุ้นมากับเค้าด้วย ผมไม่เห็นประโยชน์อันใดเลยครับ ใครอยู่ในกลุ่มพวกนี้ก็พาตัวเราออกมาดีกว่า
มันจริงที่ว่าดาวโจนส์ที่เป็นดัชนียุคโบราณคำนวณจากหุ้น 30 ตัว แต่เวลาปิดลบ ปิดบวก มักจะสร้างอารมณ์ร่วมในเชิงดีร้ายให้นักลงทุน อย่างไรก็ตามค่าความสัมพันธ์ของ DJIA&SET นั้นน้อยกว่า 0.50 ด้วยซ้ำ เราจึงเห็นวันที่ดาวโจนส์+900 กว่าจุดแต่ปู่เซตปิด -9 จุด และก็ได้เห็นวันที่ดาวโจนส์ -1000 กว่าจุด แต่เซตก็แค่พักตัวตามเทคนิคอลปกติ
อยากแนะนำว่าอย่าไปหลงตามมวลชนหันมามองตลาดที่เราเทรดอยู่ มันจะดีจะร้ายให้ดูจาก ข้อมูล&สัญญาณ ที่เกิดในตลาดหุ้นนั้นจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าครับ
สำหรับ "ตลาดหุ้นไทย" เราจะอ้างอิงกรอบของ Point Of Control&SMA200 ที่แทนกลุ่มของนักลงทุนระยะยาวลงไปชาร์ท
เราจะได้กรอบดังนี้
มหัศจรรย์ปิดสิ้นวันมากกว่า 1643.00
เชิงบวก ดัชนีเคลื่อนไหว 1630-1643
POC ดัชนีเคลื่อนไหว 1580-1630
วิกฤติ ดัชนีปิดสิ้นวันต่ำกว่าขอบล่าง 1580 ต่อเนื่องกัน
ก็ดูไปตามนี้ครับ
