ศุภชัย เจียรวนนท์ ตัวแทนภาคธุรกิจไทยบนเวที UNGC Virtual Leaders Summit 2020 ร่วมพูดคุยถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก พร้อมแนวทางการฟื้นฟู

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และนายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์สื่อขององค์การสหประชาชาติ เกี่ยวกับมุมมองต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากผลกระทบของวิกฤติโควิด-19 ว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เป็นสมาชิกของเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กตั้งแต่ปี 2546 ซึ่งมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามข้อตกลง 10 ประการของสหประชาชาติ ว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น

“วิกฤติครั้งนี้มีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อโลก ประเทศไทย และเครือซีพี แม้ว่าเราไม่ได้รับผลกระทบหนักเท่ากับอุตสาหกรรมอื่น ๆ อย่างการท่องเที่ยวหรือโลจิสติกส์ แต่เราก็ยังมุ่งมั่นที่จะเดินบนเส้นทางของการพัฒนาอย่างยั่งยืนเหมือนที่เคยทำมา ผมคิดว่า วิกฤติโควิด-19 เป็นเครื่องเตือนใจว่า เราต้องใช้ชีวิตบนพื้นฐานของความยั่งยืน ด้วยความรับผิดชอบ และบริหารจัดการชีวิตความเป็นอยู่และสุขภาพที่ดีขึ้นของผู้คนที่อยู่ร่วมกันในสังคม นอกจากนี้ ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยังก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของมนุษยชาติ เราได้พยายามช่วยเหลือประชาชนและรัฐบาล ในการรับมือตลอดจนริเริ่มโครงการแก้ไขปัญหาการจ้างงาน ซึ่งเครือฯ มีพนักงานประมาณ 350,000 คนทั่วโลก เราให้ความมั่นใจกับทุกคนว่าจะไม่มีการเลิกจ้าง ในทางตรงกันข้าม เรายังจ้างพนักงานส่งของเพิ่มอีก 20,000 คน ซึ่งช่วยให้ธุรกิจของเราดำเนินต่อไปได้” 

นายศุภชัย กล่าวว่า สิ่งที่กล่าวมานั้นเป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบของภาคเอกชน ที่จะไม่สร้างภาระให้กับประชาชนและรัฐบาลมากขึ้น เพราะก่อนที่เราจะลดจำนวนคนลง เราต้องหาวิธีอื่น ๆ เพื่อลดต้นทุน และรับมือกับพายุที่เกิดขึ้น แม้จะไม่มีแรงจูงใจและการสนับสนุนจากรัฐบาลเลยก็ตาม แต่ก็มีหลายสิ่งที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องเลิกจ้างพนักงาน เราจำเป็นต้องมองในระยะยาว ประเมินระยะเวลาของความไม่แน่นอนนี้ว่าจะอยู่กับเรานานแค่ไหน และดูสิ่งที่เราสามารถทำได้ เพราะทุกครั้งที่มีวิกฤติ ก็ย่อมมีโอกาส และวิกฤติครั้งนี้จะช่วยให้ธุรกิจเปลี่ยนแปลง กลับมาดีขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งผู้นำหรือผู้บริหารต้องสามารถแสดงให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้ ที่จะรักษาการจ้างงานและดูแลพนักงาน ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร ด้วยการออกจากคอมฟอร์ตโซน และเปิดรับการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงนั้น นายศุภชัย กล่าวว่าต้องสอดคล้องกับข้อตกลงในการดำเนินธุรกิจของเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กฯ (อย่างน้อยที่สุดจะต้องมีความรับผิดชอบขั้นพื้นฐาน ในด้านสิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น) และเป้าหมาย 17 ประการของการพัฒนาที่ยั่งยืน (ซึ่งเป็นพิมพ์เขียวของสหประชาชาติ เพื่ออนาคตที่ดีกว่าสำหรับทุกคน) ซึ่งตนมองว่า การพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นเรื่องที่ต้องทำให้เกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชนในประเทศ ซึ่งนั่นจะทำให้เราในฐานะบริษัทหรือองค์กรของประเทศได้รับประโยชน์ไปด้วย เพราะเราไม่ใช่องค์กรที่แสวงหาประโยชน์ให้ได้มากที่สุด แล้วก็ปิดตัวหนีไป

"เราตระหนักว่า ในฐานะที่เราบริษัท เป็นธุรกิจ และเป็นผู้บริโภค เรามีส่วนในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเราจำเป็นต้องจัดการกับขยะที่เราทำให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเศษอาหาร ขยะพลาสติกที่ไหลลงสู่มหาสมุทร ตลอดจนคาร์บอนฟุตพริ้นท์ นอกจากนี้ เรายังตระหนักถึงความไม่เท่าเทียมกัน ในเรื่องโอกาสทางการศึกษาที่ดี และการได้งานที่ดี ความตระหนักรู้นี้นำไปสู่ความเชื่อมั่นในการทำสิ่งที่ถูกต้อง โดยไม่มีอะไรเสีย แต่ช่วยให้ได้เรียนรู้เพิ่มเติมและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เราต้องสามารถดำเนินธุรกิจ โดยไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อสร้างผลกำไร นี่คือความหมายที่ถูกต้องของความยั่งยืน และถ้าเราไม่ทำเช่นนี้ เราจะลงเอยด้วยการจ่ายคืนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ว่าจะในแง่ของปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สังคมที่ไม่เท่าเทียมกันมากขึ้น หรือความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ดังนั้นทำไมเราไม่ทำไว้ด้วยกันทีเดียวเลยล่ะ”

นายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กฯ ยกตัวอย่างว่า หากทุกบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ยอมประกาศเป้าหมาย เช่น คาร์บอนฟุตพริ้นท์เป็นกลาง หรือปลอดขยะ ภายในปี 2573 หรือ 2593 แค่เพียงตั้งเป้าหมาย ก็จะช่วยเปลี่ยนโลก นั่นเป็นเพราะ ในขณะที่ผู้คนสามารถตระหนักได้ว่า การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่จำเป็น หลายคนก็ต้องเห็นตัวอย่าง เพื่อจะเชื่อว่าเป็นไปได้ หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ถ้าเธอทำได้ ฉันก็ทำได้ และในทางตรงกันข้าม หากบริษัทของคุณประสบความสำเร็จ สร้างผลกำไรได้ โดยไม่แยแสต่อการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศและปัญหาสิทธิมนุษยชนเลย งั้นฉันก็ทำได้เหมือนกัน ดังนั้น เราต้องเชื่อต่อไปและเป็นตัวอย่างที่ถูกต้อง

"UN Global Compact Virtual Leaders Summit 2020" จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 และ 16 มิถุนายน โดยนายศุภชัย จะร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ในหัวข้อ "Reflection on Change and Roadmaps to Recovery" ในวันที่ 15 มิถุนายน เวลา 20:15 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งจากวิกฤติโควิด-19 การประชุมสุดยอดในปีนี้ จะเป็นการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยเป็นการประชุมเต็มรูปแบบ ที่มีวิทยากรรับเชิญจากทั่วโลก

Global Compact เกิดขึ้นประมาณ 20 ปี โดยนายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ ในปีนี้จะมุ่งเน้นที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังวิกฤติโควิด-19 และแนวทางนำไปสู่สภาพภูมิอากาศโลกที่มีความยืดหยุ่นและสังคมคาร์บอนต่ำ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง 

------- 

ที่มาบทความ : https://news.un.org/en/story/2020/06/1066152