เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า " ชาวสารขัณฑ์ " เปรียบได้กับ " ศรีธนญชัย " ที่มีความฉลาดหลักแหลม แล้วทําให้ชีวิตเอาตัวรอดได้เป็นวันๆไป แต่ก็ไม่มีอะไรสําเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน " ชาวสารขัณฑ์ " ชอบสนุกสนาน โดยเฉพาะงานเลี้ยงฉลอง จะฉลองงานเลี้ยงได้ทุกตรุษทุกเทศกาลประจําปี ไม่ว่าจะเป็นตรุษจีน ตรุษฝรั่ง หรือตรุษไทย นี่ยังไม่รวมงานแต่ง งานบวช งานเลี้ยงรุ่นต่างๆ เป็นต้น คําที่ " ชาวสารขัณฑ์ " ชอบใช้มากที่สุดคือคําว่า " ไม่เป็นไร " เพราะอะไรก็ได้ ไม่เคยซีเรียส จริงจังกับชีวิตเลย แต่ก็เป็นการแสดงออกถึงความมีนํ้าใจที่ดีงามได้เป็นอย่างดี ทําให้ชีวิตของ " ชาวสารขัณฑ์ " เรียกได้ว่า " ไม่สบาย แต่ก็ไม่ถึงกับลําบาก "
คําว่า " ไม่เป็นไร " นี่แหละครับ นอกจากจะแสดงความมีนํ้าใจที่ดีงามได้เป็นอย่างดีแล้ว ก็เป็นหนึ่งในการทําลายความเจริญก้าวหน้าของ " ชาวสารขัณฑ์ " ได้เป็นอย่างดีด้วย ยกตัวอย่างเช่น การเลือกตั้งทั่วไปเลื่อนมาแล้ว 4 ครั้ง แต่ในมุมมองของ " ผู้นําชาวสาระขัณฑ์ " ก็จะบอกว่า " ไม่เป็นไร ในเมื่อมันเลื่อนมาได้ 4 ครั้งแล้ว จะเลื่อนออกไปอีกซักครั้งสองครั้ง หรือแม้กระทั่งสามครั้ง ก็คงจะ " ไม่เป็นไร "! "
" เพื่อนผู้รู้ใจ " คิดว่า " ประเทศสารขัณฑ์ " จะเจริญยิ่งกว่า " สิงคโปร์ " ได้ ถ้า " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " เป็นผู้นําของ " ประเทศสารขัณฑ์ " แต่กว่าจะเจริญยิ่งกว่า " สิงคโปร์ " ได้ " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " ก็คงจะเคี้ยวเข็ญและเข็ญเคี้ยวกันน่าดู และในเมื่อ " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " เป็นประธานาธิบดีที่ดีที่สุดของประเทศสหรัฐอเมริกาและทําให้ประเทศสหรัฐอเมริการักษาความเป็นมหาอํานาจอันดับ 1 ของโลกที่กําลังจะถูกแย่งชิงจากจีนได้ ก็คงจะบริหารจัดการ " ประเทศสารขัญฑ์ " ให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร เพราะโครงสร้างของประเทศสหรัฐอเมริกามีความยุ่งยาก สลับซับซ้อนและมีการแข่งขันกันมากกว่า " ประเทศสารขัณฑ์ " เสียอีก
และถ้า " เพื่อนของ " เพื่อนผู้รู้ใจ " ผู้นี้ เข็ญ " ประเทศสารขัณฑ์ " ขึ้นได้ ก็จะได้ชื่อว่าเป็น " ประเทศสารขัณฑ์ มหาอํานาจ ! " ทัดเทียมกับประเทศสหรัฐอเมริกา ทันที
หมายเหตุ : 1) ปัจจุบัน " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " ก็ได้ช่วย " ประเทศสารขัณฑ์ " ในทางอ้อม ดังนี้ คือ :
1.1) เปิดสงครามการค้ากับจีน เพื่อที่จะไล่นักลงทุนที่ไปแล้วหรือจะไปลงทุนในประเทศจีน ให้ย้ายฐานการลงทุนมายัง " ประเทศสารขัณฑ์ "
1.2) ขอร้องเพื่อนซี้ซาอุฯไม่ให้ลดกําลังการผลิตนํ้ามัน ราคานํ้ามันจะได้ถูกลง และจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของ " ประเทศสาระขัณฑ์ " ตามวัฏจักราคานํ้ามัน Wti ( USD Per Barrel ) ดังนี้ คือ :
1.2.1) ปี ค.ศ 1973 = 3.14
1.2.2) ปี ค.ศ 1974 = 10.41 ( วิกฤตการณ์พลังงานครั้งที่ 1 )
1.2.3) ปี ค.ศ 1978 = 12.91
1.2.4) ปี ค.ศ 1979 = 29.19 ( วิกฤตการณ์พลังงานครั้งที่ 2 )
1.2.5) ปี ค.ศ 1998 = 12.28
1.2.6) ปี ค.ศ 2004 = 46.00
1.2.7) ก.ค ปี ค.ศ 2008 = 147.00 ( วิกฤตการณ์พลังงานครั้งที่ 3 และ All Time High )
1.2.8) ก.พ ปี ค.ศ 2016 = 26.00
1.2.9) วันที่ 3 ตุลาคม ปี ค.ศ 2018 = 76.90 ( High รอบล่าสุด )
1.2.10) วันที่ 25 ธันวาคม ปี ค.ศ 2018 = 42.53 ( Low รอบล่าสุด )
1.2.11) วันที่ 4 มกราคม ปี ค.ศ 2019 = 47.96
2) ในกาลต่อมา กลุ่มประเทศ OPEC ได้ตกลงลดกําลังการผลิตลง 1.2 ล้าน Barrel ต่อ วัน เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 และมีผลทันทีในเดือนมกราคม ปี พ.ศ 2562 เป็นต้นไป ทําให้ราคานํ้ามันปรับตัวขึ้นมาจากจุดตํ่าสุดในรอบที่แล้วที่ 42.53 USD Per Barrel เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 มาอยู่ที่ 47.96 USD Per Barrel ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม ปี พ.ศ 2562 จนถึงปัจจุบัน เพื่อนซี้ซาอุฯ จึงรีบขอโทษขอโพย " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " เป็นการใหญ่ แล้วบอก " เพื่อนฯ " เพิ่มเติมไปว่า " ถ้าราคานํ้ามันมันปรับเพิ่มขึ้นมาก แล้วทําให้ "เพื่อนฯ" เดือดร้อน เดี๋ยว "อั๊ว" จะเบี้ยวกลุ่มประเทศ OPEC เอง โดยจะแอบเพิ่มกําลังการผลิตนํ้ามันเป็นการภายในโดยไม่บอกให้โครรู้ เพื่อที่จะไม่ให้ราคานํ้ามันสูงเกินไป ตามที่"ลื๊อ"ขอร้องมา ไม่ต้องเป็นห่วงน่ะ พวกมันไม่รู้หรอก พวกมัน " ซื่อบื่อ" จะตาย! เพื่อนรัก! "อั๊ว"ทําได้เพราะ"อั๊ว"เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุด "ลื๊ว" ก็รู้ดีนี่นา! "
3) จากตัวอย่างข้างต้น จะเห็นว่า " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " ควบคุมกลไกตลาดโลกไว้ในกํามือแทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น " การปรับดอกเบี้ยของ Fed Fund Rate ", " สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน " และ " ราคานํ้ามันในตลาดโลก " เป็นต้น และในเมื่อ " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " ควบคุมเกือบทุกอย่างในตลาดโลกไว้ได้แล้ว สาอะไรกับตลาดหุ้น! ที่จะควบคุมไม่ได้! และในที่สุดตลาดหุ้นก็จะต้องถูกควบคุมโดย " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น " การปั่นและทุบหุ้นรายวัน " เพื่อหลอกกิน " เม่า " และการกําหนดทิศทางตลาดหุ้นในระยะยาวๆน่ะ คร๊าบ พี่น้อง!
4) สําหรับวลีเด็ดที่ " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " จัดการกับ Fed เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 จาก @realDonaldTrump คือ :
4.1) " The only problem our economy has is the Fed. They don’t have a feel for the Market, they don’t understand necessary Trade Wars or Strong Dollars or even Democrat Shutdowns over Borders. The Fed is like a powerful golfer who can’t score because he has no touch - he can’t putt! " 7:55 AM - 24 Dec 2018
แปลเป็นไทยว่า :
4.2) " ปัญหาเดียวที่มีอยู่สําหรับเศรษฐกิจของเราตอนนี้ก็คือ Fed. พวกเขาไม่เข้าใจความรู้สึกของตลาด พวกเขาไม่เข้าใจความจําเป็นของการทํา " สงครามการค้า " หรือ " ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาที่แข็ง " หรือ " การที่พรรค Democratic ต้องการ Shutdown สําหรับงบประมาณสร้างกําแพงกั้นชายแดน " พวกเขาเหมือนนัก Golf ผู้มีอํานาจ แต่ไม่เคยทําคะแนนได้เพราะไม่เคยลงมาสัมผัสของจริง -ไม่สามารถแม้แต่จะพัดลูกลงหลุมได้ ด้วยซํ้าไป
5) สําหรับวลีเด็ดที่ " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " จัดการกับ OPEC เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 จาก @realDonaldTrump คือ :
5.1) " Hopefully OPEC will be keeping oil flows as is, not restricted. The World does not want to see, or need, higher oil prices! "
แปลเป็นไทยว่า :
5.2) "หวังว่ากลุ่มประเทศ OPEC จะพยายามให้นํ้ามันไหลลื่นไปเท่าที่มันจะเป็น ไม่เข้มงวดมากจนเกินไป โลกไม่ต้องการที่จะเห็น หรือต้องการให้นํ้ามันมีราคาสูง "
6) สําหรับวลีเด็ดที่ " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " แนะนําให้ช้อนซื้อหุ้น เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 จาก ( www.bloomberg.com ) คือ :
6.1) Trump Urges Buying the Dip After Stocks Sink on D.C. Dysfunction
December 25, 2018, 11:08 PM GMT+7
Trump speaks from the Oval Office in Washington on Dec. 25. Photographer: Zach Gibson/Pool via Bloomberg
President Donald Trump suggested that a recent swoon in U.S. stock markets is a buying opportunity for investors, even though many analysts blame his policies and Washington gridlock for the plunge.
“We have companies -- the greatest in the world, and they’re doing really well,” Trump told reporters at the White House on Tuesday. “They have record kinds of numbers. So I think it’s a tremendous opportunity to buy. Really a great opportunity to buy.”
แปลเป็นไทยว่า :
6.2) " Trump แนะนําให้นักลงทุนถือโอกาสที่หุ้นตกลงมานี้เข้าช้อนซื้อ เพราะราคาหุ้นที่ตกลงมามีราคาถูกมาก และถือเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของนักลงทุนเลยทีเดียว เดี๋ยวข้าพเจ้าฯ จะปั่นขึ้นไปเองไม่ต้องห่วง และพอข้าพเจ้าฯปั่นขึ้นไปแล้ว ก็อย่าลืมขายซะละ! ( 2 -3 ประโยคหลังนี้ ผู้โพสต์เพิ่มเติมขึ้นมาเองเพื่อเป็นสีสันนะคร๊าบ! พี่น้อง! ) "
7) สําหรับวลีเด็ดที่ " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " สําหรับการเจรจาการค้ากับจีน เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 จาก @realDonaldTrump คือ :
7.1) " My meeting in Argentina with President Xi of China was an extraordinary one. Relations with China have taken a BIG leap forward! Very good things will happen. We are dealing from great strength, but China likewise has much to gain if and when a deal is completed. Level the field! " 4:54 AM - 3 Dec 2018
แปลเป็นไทยว่า :
7.2) " การประชุมที่ประเทศอาร์เจนตินากับประธานาธิบดี Xi ของจีนได้ผลดี ความสัมพันธ์กับจีนมีความก้าวหน้ามาก เป็นสิ่งที่ดีมาก พวกเราเจรจากันด้วยความแน่นแฟ้นและยิ่งใหญ่ แต่คาดว่าจีนน่าจะได้อะไรกลับไปมากถ้าการเจรจาเสร็จสิ้นสมบูรณ์ และได้ลงไปถึงระดับล่างจริงๆ " และขอเพิ่มเติมข้อมูลจาก " เพื่อนผู้รู้ใจ " เพื่อให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า " สหรัฐอเมริกาได้เปรียบจีนอยู่มาก " ดังนี้ คือ :
" ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2559 ( ซึ่งเป็นวันก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งที่แล้ว 1 วัน และ " เพื่อนของ " เพื่อนผู้รู้ใจ" " ผู้นี้ ได้รับการเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ) จนถึงปัจจุบัน ความมั่งคั่งของสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นมากกว่าจีน = +47.01% - 19.44% + 22.18% = +49.75%" และ :
สิ่งหนึ่งที่ " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " ได้ขี่จีนกับ ประธานาธิบดี Xi Jinping มาตลอดก็คือการที่จีนขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐอเมริกา โดยกระซิบบอกกับ Xi " ว่าจะไม่มีชาติใดในโลกนี้ที่ชาติตัวเองไปขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของชาติอื่นมาแล้วจะเป็นมหาอํานาจอันดับ 1 ของโลกได้ น่ะ Xi น่ะ! "