ห้องเม่าปีกเหล็ก

" ประเทศสารขัณฑ์ " จะเจริญยิ่งกว่า " สิงคโปร์ " ถ้า?

โดย ศักดิ์
เผยแพร่ :
68 views

เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า " ชาวสารขัณฑ์ " เปรียบได้กับ " ศรีธนญชัย " ที่มีความฉลาดหลักแหลม แล้วทําให้ชีวิตเอาตัวรอดได้เป็นวันๆไป แต่ก็ไม่มีอะไรสําเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน  " ชาวสารขัณฑ์ " ชอบสนุกสนาน โดยเฉพาะงานเลี้ยงฉลอง จะฉลองงานเลี้ยงได้ทุกตรุษทุกเทศกาลประจําปี ไม่ว่าจะเป็นตรุษจีน ตรุษฝรั่ง หรือตรุษไทย นี่ยังไม่รวมงานแต่ง งานบวช งานเลี้ยงรุ่นต่างๆ เป็นต้น คําที่ " ชาวสารขัณฑ์ " ชอบใช้มากที่สุดคือคําว่า " ไม่เป็นไร " เพราะอะไรก็ได้ ไม่เคยซีเรียส จริงจังกับชีวิตเลย แต่ก็เป็นการแสดงออกถึงความมีนํ้าใจที่ดีงามได้เป็นอย่างดี  ทําให้ชีวิตของ " ชาวสารขัณฑ์ " เรียกได้ว่า " ไม่สบาย แต่ก็ไม่ถึงกับลําบาก "

คําว่า " ไม่เป็นไร "  นี่แหละครับ นอกจากจะแสดงความมีนํ้าใจที่ดีงามได้เป็นอย่างดีแล้ว ก็เป็นหนึ่งในการทําลายความเจริญก้าวหน้าของ " ชาวสารขัณฑ์ " ได้เป็นอย่างดีด้วย ยกตัวอย่างเช่น การเลือกตั้งทั่วไปเลื่อนมาแล้ว 4 ครั้ง แต่ในมุมมองของ " ผู้นําชาวสาระขัณฑ์ " ก็จะบอกว่า  " ไม่เป็นไร ในเมื่อมันเลื่อนมาได้ 4 ครั้งแล้ว จะเลื่อนออกไปอีกซักครั้งสองครั้ง หรือแม้กระทั่งสามครั้ง ก็คงจะ " ไม่เป็นไร "! 

" เพื่อนผู้รู้ใจ " คิดว่า " ประเทศสารขัณฑ์ " จะเจริญยิ่งกว่า " สิงคโปร์ "  ได้ ถ้า  " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " เป็นผู้นําของ " ประเทศสารขัณฑ์ " แต่กว่าจะเจริญยิ่งกว่า " สิงคโปร์ " ได้ " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " ก็คงจะเคี้ยวเข็ญและเข็ญเคี้ยวกันน่าดู และในเมื่อ " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " เป็นประธานาธิบดีที่ดีที่สุดของประเทศสหรัฐอเมริกาและทําให้ประเทศสหรัฐอเมริการักษาความเป็นมหาอํานาจอันดับ 1 ของโลกที่กําลังจะถูกแย่งชิงจากจีนได้  ก็คงจะบริหารจัดการ " ประเทศสารขัญฑ์ " ให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร  เพราะโครงสร้างของประเทศสหรัฐอเมริกามีความยุ่งยาก สลับซับซ้อนและมีการแข่งขันกันมากกว่า " ประเทศสารขัณฑ์ " เสียอีก

และถ้า " เพื่อนของ " เพื่อนผู้รู้ใจ " ผู้นี้ เข็ญ " ประเทศสารขัณฑ์ " ขึ้นได้ ก็จะได้ชื่อว่าเป็น  " ประเทศสารขัณฑ์ มหาอํานาจ ! " ทัดเทียมกับประเทศสหรัฐอเมริกา ทันที

หมายเหตุ : 1) ปัจจุบัน " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " ก็ได้ช่วย " ประเทศสารขัณฑ์ " ในทางอ้อม ดังนี้ คือ :

1.1) เปิดสงครามการค้ากับจีน เพื่อที่จะไล่นักลงทุนที่ไปแล้วหรือจะไปลงทุนในประเทศจีน ให้ย้ายฐานการลงทุนมายัง " ประเทศสารขัณฑ์

1.2) ขอร้องเพื่อนซี้ซาอุฯไม่ให้ลดกําลังการผลิตนํ้ามัน ราคานํ้ามันจะได้ถูกลง และจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของ " ประเทศสาระขัณฑ์ " ตามวัฏจักราคานํ้ามัน Wti ( USD Per Barrel ) ดังนี้ คือ :

1.2.1)  ปี ค.ศ 1973                                        =      3.14

1.2.2) ปี ค.ศ 1974                                         =     10.41 ( วิกฤตการณ์พลังงานครั้งที่ 1 )

1.2.3)  ปี ค.ศ 1978                                        =     12.91

1.2.4)  ปี ค.ศ 1979                                        =     29.19 วิกฤตการณ์พลังงานครั้งที่  2 )

1.2.5) ปี ค.ศ 1998                                         =    12.28

1.2.6)  ปี ค.ศ 2004                                        =    46.00  

1.2.7)  ก.ค ปี ค.ศ 2008                                 =  147.00 ( วิกฤตการณ์พลังงานครั้งที่ 3 และ All Time High )

1.2.8)  ก.พ ปี ค.ศ 2016                                 =    26.00

1.2.9) วันที่ 3 ตุลาคม ปี ค.ศ 2018                  =    76.90 ( High รอบล่าสุด  )

1.2.10) วันที่ 25 ธันวาคม  ปี ค.ศ 2018           =    42.53  ( Low รอบล่าสุด )

1.2.11) วันที่ 4 มกราคม  ปี ค.ศ 2019             =    47.96

2) ในกาลต่อมา กลุ่มประเทศ OPEC ได้ตกลงลดกําลังการผลิตลง 1.2 ล้าน Barrel ต่อ วัน เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 และมีผลทันทีในเดือนมกราคม ปี พ.ศ 2562 เป็นต้นไป ทําให้ราคานํ้ามันปรับตัวขึ้นมาจากจุดตํ่าสุดในรอบที่แล้วที่ 42.53 USD Per Barrel เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 มาอยู่ที่ 47.96 USD Per Barrel ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม ปี พ.ศ 2562 จนถึงปัจจุบัน เพื่อนซี้ซาอุฯ จึงรีบขอโทษขอโพย " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " เป็นการใหญ่ แล้วบอก " เพื่อนฯ " เพิ่มเติมไปว่า " ถ้าราคานํ้ามันมันปรับเพิ่มขึ้นมาก แล้วทําให้ "เพื่อนฯ" เดือดร้อน เดี๋ยว "อั๊ว" จะเบี้ยวกลุ่มประเทศ OPEC เอง โดยจะแอบเพิ่มกําลังการผลิตนํ้ามันเป็นการภายในโดยไม่บอกให้โครรู้ เพื่อที่จะไม่ให้ราคานํ้ามันสูงเกินไป ตามที่"ลื๊อ"ขอร้องมา ไม่ต้องเป็นห่วงน่ะ พวกมันไม่รู้หรอก พวกมัน " ซื่อบื่อ" จะตาย! เพื่อนรัก! "อั๊ว"ทําได้เพราะ"อั๊ว"เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุด "ลื๊ว" ก็รู้ดีนี่นา! "

3) จากตัวอย่างข้างต้น จะเห็นว่า " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " ควบคุมกลไกตลาดโลกไว้ในกํามือแทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น " การปรับดอกเบี้ยของ Fed Fund Rate ", " สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน " และ "  ราคานํ้ามันในตลาดโลก "  เป็นต้น และในเมื่อ " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " ควบคุมเกือบทุกอย่างในตลาดโลกไว้ได้แล้ว สาอะไรกับตลาดหุ้น! ที่จะควบคุมไม่ได้! และในที่สุดตลาดหุ้นก็จะต้องถูกควบคุมโดย " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น " การปั่นและทุบหุ้นรายวัน " เพื่อหลอกกิน " เม่า "  และการกําหนดทิศทางตลาดหุ้นในระยะยาวๆน่ะ คร๊าบ พี่น้อง!

4) สําหรับวลีเด็ดที่ " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " จัดการกับ Fed เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 จาก @realDonaldTrump คือ :

4.1) " The only problem our economy has is the Fed. They don’t have a feel for the Market, they don’t understand necessary Trade Wars or Strong Dollars or even Democrat Shutdowns over Borders. The Fed is like a powerful golfer who can’t score because he has no touch - he can’t putt! " 7:55 AM - 24 Dec 2018

แปลเป็นไทยว่า :

4.2) " ปัญหาเดียวที่มีอยู่สําหรับเศรษฐกิจของเราตอนนี้ก็คือ Fed. พวกเขาไม่เข้าใจความรู้สึกของตลาด พวกเขาไม่เข้าใจความจําเป็นของการทํา " สงครามการค้า " หรือ "  ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาที่แข็ง " หรือ " การที่พรรค Democratic ต้องการ Shutdown สําหรับงบประมาณสร้างกําแพงกั้นชายแดน "  พวกเขาเหมือนนัก Golf ผู้มีอํานาจ แต่ไม่เคยทําคะแนนได้เพราะไม่เคยลงมาสัมผัสของจริง -ไม่สามารถแม้แต่จะพัดลูกลงหลุมได้ ด้วยซํ้าไป

5) สําหรับวลีเด็ดที่ " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " จัดการกับ OPEC เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 จาก @realDonaldTrump คือ :

5.1) " Hopefully OPEC will be keeping oil flows as is, not restricted. The World does not want to see, or need, higher oil prices! "

แปลเป็นไทยว่า :

5.2) "หวังว่ากลุ่มประเทศ OPEC จะพยายามให้นํ้ามันไหลลื่นไปเท่าที่มันจะเป็น ไม่เข้มงวดมากจนเกินไป โลกไม่ต้องการที่จะเห็น หรือต้องการให้นํ้ามันมีราคาสูง "

6) สําหรับวลีเด็ดที่ " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " แนะนําให้ช้อนซื้อหุ้น เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 จาก ( www.bloomberg.com  คือ :

6.1) Trump Urges Buying the Dip After Stocks Sink on D.C. Dysfunction

By Alyza Sebenius

December 25, 2018, 11:08 PM GMT+7

Trump speaks from the Oval Office in Washington on Dec. 25. Photographer: Zach Gibson/Pool via Bloomberg

President Donald Trump suggested that a recent swoon in U.S. stock markets is a buying opportunity for investors, even though many analysts blame his policies and Washington gridlock for the plunge.

“We have companies -- the greatest in the world, and they’re doing really well,” Trump told reporters at the White House on Tuesday. “They have record kinds of numbers. So I think it’s a tremendous opportunity to buy. Really a great opportunity to buy.”

แปลเป็นไทยว่า :

6.2) " Trump แนะนําให้นักลงทุนถือโอกาสที่หุ้นตกลงมานี้เข้าช้อนซื้อ เพราะราคาหุ้นที่ตกลงมามีราคาถูกมาก และถือเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของนักลงทุนเลยทีเดียว เดี๋ยวข้าพเจ้าฯ จะปั่นขึ้นไปเองไม่ต้องห่วง และพอข้าพเจ้าฯปั่นขึ้นไปแล้ว ก็อย่าลืมขายซะละ! ( 2 -3 ประโยคหลังนี้ ผู้โพสต์เพิ่มเติมขึ้นมาเองเพื่อเป็นสีสันนะคร๊าบ! พี่น้อง! ) "

7) สําหรับวลีเด็ดที่ " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " สําหรับการเจรจาการค้ากับจีน เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 จาก @realDonaldTrump คือ :

7.1) " My meeting in Argentina with President Xi of China was an extraordinary one. Relations with China have taken a BIG leap forward! Very good things will happen. We are dealing from great strength, but China likewise has much to gain if and when a deal is completed. Level the field! "  4:54 AM - 3 Dec 2018

แปลเป็นไทยว่า :

7.2)  " การประชุมที่ประเทศอาร์เจนตินากับประธานาธิบดี Xi ของจีนได้ผลดี ความสัมพันธ์กับจีนมีความก้าวหน้ามาก เป็นสิ่งที่ดีมาก พวกเราเจรจากันด้วยความแน่นแฟ้นและยิ่งใหญ่ แต่คาดว่าจีนน่าจะได้อะไรกลับไปมากถ้าการเจรจาเสร็จสิ้นสมบูรณ์ และได้ลงไปถึงระดับล่างจริงๆ " และขอเพิ่มเติมข้อมูลจาก " เพื่อนผู้รู้ใจ " เพื่อให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า " สหรัฐอเมริกาได้เปรียบจีนอยู่มาก "  ดังนี้ คือ :

" ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2559 ( ซึ่งเป็นวันก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งที่แล้ว 1 วัน และ " เพื่อนของ " เพื่อนผู้รู้ใจ" " ผู้นี้ ได้รับการเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา  ) จนถึงปัจจุบัน ความมั่งคั่งของสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นมากกว่าจีน = +47.01% - 19.44% + 22.18% = +49.75%" และ :

สิ่งหนึ่งที่ " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่าง เอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " ได้ขี่จีนกับ ประธานาธิบดี Xi Jinping มาตลอดก็คือการที่จีนขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐอเมริกา โดยกระซิบบอกกับ  Xi " ว่าจะไม่มีชาติใดในโลกนี้ที่ชาติตัวเองไปขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของชาติอื่นมาแล้วจะเป็นมหาอํานาจอันดับ 1 ของโลกได้ น่ะ Xi น่ะ! "

 

 

 

 


ศักดิ์