โดย stock-news
เผยแพร่ : 
66 views"กรุ๊ปลีส" ชงบอร์ดซื้อหุ้นคืนฟื้นวิกฤติศรัทธา 17 มี.ค.นี้ ด้าน "J Trust" ออกโรงหนุนซื้อคืนด้วยกำลังเจรจาขออนุญาต ก.ล.ต.ญี่ปุ่น ผู้บริหารยันลูกหนี้สิงคโปร์ และไซปรัสไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ ส่วนการเข้าลงทุนที่ศรีลังกาแม้ราคาหุ้นลงแรงแต่ไม่ต้องบันทึกด้อยค่า ด้านราคาหุ้นเปิดดิ่งฟลอร์เป็นครั้งที่ 4 ก่อนจะเด้งปิดชนซิลลิ่งภาคบ่าย ฟาก ตลท.กำลังตรวจสอบคำชี้แจง หากไม่เคลียร์จะขอข้อมูลเพิ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ บมจ.กรุ๊ปลีส หรือ GL เปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการวานนี้ ชี้แจงในประเด็นที่ผู้สอบบัญชีตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการให้กู้ยืมต่อบริษัทย่อยในสิงคโปร์ และบริษัทย่อยที่สิงคโปร์ได้นำเงินไปให้กู้ยืมต่อแก่ผู้กู้ 2 กลุ่มในเกาะไซปรัส ( ถือหุ้นโดยครอบครัวนักธุรกิจชาวกัมพูชา) และสิงคโปร์ (ถือหุ้นโดยครอบครัวนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น) รวมถึงข้อสงสัยในประเด็นอื่นๆ ที่เกิดขึ้น โดยมี นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานคณะกรรมการบริหาร เป็นผู้ให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชน
*** ยันผู้กู้สิงคโปร์ และไซปรัส ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้
บริษัทฯ ยืนยันว่าการปล่อยกู้ให้ผู้กู้สิงคโปร์ และไซปรัส ไม่ต้องกังวล เพราะ 2 กลุ่ม นี้ ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้และเป็นพันธมิตรกับบริษัทมานาน แต่จากที่ราคาหุ้นของ GL ร่วงหนักนั้น ทำให้จะต้องเรียกหลักประกันเพิ่มจากกลุ่มไซปรัส ภายในเดือน มี.ค.นี้ โดยหลักประกันจะเป็นที่ดิน และ อสังหาริมทรัพย์ฯ
ส่วนกลุ่มสิงคโปร์นั้น ไม่ต้องเรียกหลักประกันเพิ่ม เพราะได้รับการันตีจากบริษัทแม่ของกลุ่มผู้กู้สิงคโปร์ และยืนยันว่าการทำงบการเงินของบริษัทถูกต้อง ไม่มีปัญหา เพียงแค่ผู้สอบบัญชีตั้งข้อสังเกตุการปล่อยกู้ให้กับผู้กู้ 2 รายดังกล่าว เนื่องจากเป็นเม็ดเงินสูง นอกจากนี้ บริษัทได้บันทึกการปล่อยกู้ของ 2 บริษัท ในงบการเงินของบริษัทตั้งแต่ไตรมาส 4/58 แล้ว ไม่ใช่เพิ่งบันทึกในงบการปี 59
*** เตรียมชงบอร์ดอนุมัติซื้อหุ้นคืน 17 มี.ค.นี้ หลังร่วงหนัก
อย่างไรก็ตาม หลังราคาหุ้น GL ร่วงหนักตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาที่จะซื้อหุ้นคืน ซึ่งถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเรียกความเชื่อมั่น โดยจะนำเรื่องดังกล่าว เสนอในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท วันที่ 17 มี.ค.นี้ โดยบริษัทฯ มีกระแสเงินสดเพียงพอ ณ สิ้นปี 59 บริษัทฯ มีกระแสเงินสดประมาณ 2.5 พันล้านบาท และจะได้รับเงินเพิ่มอีก 1.5 พันล้านบาทจากJ Trust ในวันที่ 20 มี.ค.นี้ เพื่อชำระเงินจากการใช้สิทธิในหุ้นกู้แปลงสภาพ
การซื้อหุ้นคืนจะช่วยเรียกความเชื่อมั่นให้กับบริษัทได้ในระยะสั้น หลังราคาร่วงลงแรง อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารยังคงยึดมั่นภารกิจหลัก คือ การสร้างผลประกอบการให้เติบโตในระยะยาว ซึ่งถือว่าเป็นวิธีเรียกความเชื่อมั่นที่ดีที่สุด โดยยันว่าปีนี้กำไรสุทธิของบริษัทจะเติบโต 1 เท่าตัว จากปี 59
" ที่ราคาหุ้นร่วง เป็นความผิดของผม ต้องขอโทษทุกคนด้วย ซึ่งนักลงทุนเสียหาย ผมเสียหายมากกว่าเพราะเป็น
ผู้ถือหุ้นใหญ่ สิ่งที่ทำได้ คือการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และทำผลการดำเนินงานให้ดีเติบโต ซึ่งจะทำให้นักลงทุนกลับมาเชื่อมั่นอีกครั้ง ปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทำให้ผมแข็งแกร่งมากขึ้น ยืนยันข่าวลือทั้งหมดไม่เป็นความจริง ทั้งการแครี่เทรด และถูก ก.ล.ต.ญี่ปุ่นปรับ และไม่ได้ขายหุ้น GL แล้วหนี เพราะ ส่วนตัวไม่เคยซื้อขายหุ้น GL มา 10 ปี แล้ว " นายมิทซึจิ โคโนชิตะ
ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว
*** "J Trust" ออกโรงหนุนซื้อหุ้นเพิ่ม
ทั้งนี้ ราคาหุ้น GL ร่วงหนัก ทำให้ J Trust ซึ่งเป็นพันธมิตรของบริษัท ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น มีแผนที่จะซื้อหุ้นของ GL เพิ่ม จากปัจจุบันถืออยู่ 6.5% ซึ่งขณะนี้ J Trust อยู่ระหว่างปรึกษา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ญี่ปุ่น ว่าสามารถซื้อหุ้นได้หรือไม่ เพราะกังวลว่าจะเป็นการใช้ข้อมูลภายใน เนื่องจากการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกัน แต่ก่อนหน้านี้ J Trust ได้ซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) ของ GL จำนวน 8.1 ล้านหน่วย
*** แจงแม้ราคาหุ้น CCF ปรับลงแรงแต่ไม่ต้องบันทึกด้อยค่า
ส่วนกรณี GL เข้าซื้อหุ้น บริษัท Commercial Credit & Finance (CCF) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศศรีลังกา 29.99 % เป็นการเข้าถือหุ้นในระยะยาว ซึ่งแม้ว่าปัจจุบันราคาหุ้นของ CCF ปรับตัวลดลงมาก แต่บริษัทไม่จำเป็นต้องบันทึกด้อยค่าจากการที่ราคาหุ้นปรับลงมา หลักการนี้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีทั่วโลก กรณีการตั้งด้อยค่าการลงทุน จะทำเฉพาะกรณีบริษัทที่เข้าไปลงทุนมีผลขาดทุนเท่านั้น
" เราไม่ต้องบันทึกด้อยค่าเงินลงทุนที่เข้าไปถือหุ้น CCF แม้ราคาหุ้นลดลงแรงกว่าตอนที่เราเข้าไปซื้อ เพราะตามมาตรฐานบัญชีทั่วโลก เขาไม่บันทึกกัน แม้ราคาหุ้นขึ้น หรือราคาหุ้นลง ไม่มีผู้สอบบัญชีที่ไหนที่เดินเข้ามาบอกให้บันทึกด้อยค่าการลงทุนเพราะราคาหุ้นลง แต่เขาจะให้บันทึกด้อยค่าต่อเมื่อบริษัทมีผลขาดทุนเท่านั้น ซึ่งผลการดำเนินงานของ
CCF ปี 59 ดีกว่าที่เราประมาณการไว้ " นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานคณะกรรมการบริหาร กล่าว
*** ตลท.เผยอยู่ระหว่างตรวจสอบคำชี้แจงของ GL
นางเกศรา มัญชุศรี ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางตลาดหลักทรัพย์ฯอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลการชี้แจงของ GL เมื่อค่ำวานนี้ (13 มี.ค.) ว่า ข้อมูลครบถ้วนตามที่ส่งคำถามไปหรือไม่ ซึ่งหากข้อมูลไม่สามารถตอบคำถามได้ชัดเจน ตลท.จะส่งหนังสือไปยัง GL เพื่อขอคำชี้แจงเพิ่มเติมต่อไป
ทั้งนี้ ทางตลท.ไม่สามารถช่วยเหลือนักลงทุนในด้านราคาหุ้นได้ จึงขอวอนให้นักลงทุนศึกษาข้อมูลบริษัทและรูปแบบในการดำเนินธุรกิจก่อนการลงทุนทุกครั้ง และตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ได้เข้าไปตรวจสอบบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มธุรกิจลีสซิ่ง เนื่องจากยังมีการประกอบธุรกิจตามปกติ แต่จะเฝ้าดูเป็นกรณีไปเท่านั้น
*** ราคาหุ้นผันผวนหนักเปิดเช้าแตะฟลอร์ ปิดซิลลิ่ง
ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น GL ผันผวนหนักมากวานนี้ (14 มี.ค.60) โดยเปิดตลาดมาราคาดิ่งแตะฟลอร์ทันที เป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 1 สัปดาห์เศษ โดยเปิดที่ 12.40 บาท จากราคาปิดวันก่อนหน้าที่ 17.70 บาท แต่พอเปิดมาช่วงบ่าย ราคาหุ้นเด้งขึ้นมาชนซิลลิ่ง 23.00 บาท ก่อนจะปิดที่ระดับซิลลิ่ง 23.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.30 บาท หรือ 29.94% มูลค่าการซื้อขาย 8.5 พันล้านบาท
นอกจากนี้ GL ยังติด 1 ใน 5 อันดับแรกของหุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายผิดปกติ ประจำวันที่ 14 มี.ค. 60 ด้วยปริมาณการซื้อขายผิดปกติ 392% หรือซื้อขายอยู่ที่ 511 ล้านหุ้น จากค่าเฉลี่ย 5 วันก่อนหน้าที่ 130 ล้านหุ้น
