ถือ KBANK ตั้งแต่ต้นปีติดลบ 11.53%
โบรกฯ ผสานเสียงเชียร์ “ซื้อ”
หลังราคาไม่แพง-ผลงานปี 66 สดใส

.
หุ้นธนาคาร มักจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ของนักลงทุนที่จะเข้าลงทุน ด้วยพื้นฐานของธุรกิจที่มีความมั่นคง และราคาที่ค่อนข้างมีความเสถียรภาพ รวมไปถึงนโยบายการจ่ายปันผลที่สม่ำเสมอ จึงถือเป็น Safe Haven ได้ดี แต่ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ก็มีกระแสข่าวเชิงลบที่เข้ามาทำลายบรรยากาศการลงทุน โดยเริ่มจากประเด็นข่าว Silicon Valley Bank (SVB) ที่ได้ยื่นล้มละลาย จนทำให้ราคาหุ้นธนาคารทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึงหุ้นธนาคารในไทยตอบรับกับกระแสเชิงลบ
.
ในวันนี้ทาง Wealthy Thai จึงจะพานักลงทุนไปสำรวจราคาหุ้นธนาคารอย่าง ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ที่ความเคลื่อนไหวของราคาตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน(ณ วันที่ 22 มีนาคม 2566) มีการปรับตัวลดลง 11.53% จนราคามาอยู่ที่ 130.50 บาท แต่การปรับตัวลงในครั้งนี้จะโอกาสให้เข้าสะสมหรือไม่ ทางเราจะพาไปถอดกลยุทธ์การลงทุนผ่านมุมมองผู้เชี่ยวชาญกัน
.
โดยบทวิเคราะห์ของบล.ทิสโก้ ให้คำแนะนำ "ซื้อ" พร้อมกับกำหนดราคาเป้าหมายที่ 160 บาท เนื่องจากมูลค่าราคาหุ้นในปัจจุบันที่ไม่แพง ในระยะสั้นยังมีปัจจัยอย่างการหาพันธมิตรสำหรับธุรกิจกองทุนรวม ที่กำลังหารือเกี่ยวกับการขายกิจการด้านบริหารสินทรัพย์ KASSET ซึ่งเมื่อข้อตกลงเกิดขึ้นก็จะช่วยผลักดันราคาหุ้นได้ในระยะสั้น
.
แต่อย่างไรก็ดี ได้มีการปรับลดคาดการณ์กำไรปี 66 ลง 3% โดยสาเหตุหลักมาจากต้นทุนเครดิตที่สูงขึ้นหลังจากเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในไตรมาส 4/65 และคำแนะนำจากผู้บริหารที่ประเมินไว้สูงกว่าที่คาด แต่ถูกชดเชยบางส่วนด้วยการเติบโตของสินเชื่อ และ NIM ที่สูงขึ้น
.
ด้านบทวิเคราะห์ของบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ได้ให้คำแนะนำ "ซื้อ"และกำหนดราคาเป้าหมายที่ 187 บาท เนื่องจากผลดำเนินงานของจะฟื้นตัวขึ้นเด่นในไตรมาส 1/66 จากฐานที่ต่ำในไตรมาส 4/65 และจะทยอยปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ รวมถึงราคาหุ้นที่ปรับตัวลงทำให้มีอัพไซต์มากขึ้น
.
สำหรับปัจจัยสนับสนุนต่อผลการดำเนินงานในปี 66 ด้วยการตั้งสำรองที่คาดจะผ่อนคลายลงต่อเนื่อง สอดรับกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่โตตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้น ประกอบกับบริษัทได้ตั้งสำรองจำนวนมากไปแล้วในไตรมาส 4/65 หากการตั้งสำรองปรับลดลงจะทำให้เห็นภาพการเติบโตของผลดำเนินงานที่สดใสมากขึ้น จึงคาดกำไรสุทธิในปี 66 จะอยู่ที่ 48,187 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 34.7%