ห้องเม่าปีกเหล็ก

(WALL-E)conomics: โลกที่ถูกทิ้งไว้กับหุ่นยนต์

โดย littleboy
เผยแพร่ :
34 views

(WALL-E)conomics: โลกที่ถูกทิ้งไว้กับหุ่นยนต์

มนุษย์สร้างยานอวกาศสุดล้ำ และใช้ชีวิตอยู่บนนั้นกว่า 700 ปี

หรือกว่า 255,642 วัน บนยาน Axiom

กิน-นอน-ช้อป-ดูจอ บนเก้าอี้ตัวเดียว...

โดยไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวที่จะหันกลับไปถามว่า…

“โลกที่เราทิ้งไว้... ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”

ทั้งที่เรามีเทคโนโลยีก้าวหน้า

กลับไม่มีใครจัดการแม้แต่ “ขยะ” บนโลก

 

 

WALL-E จึงไม่ใช่แค่การ์ตูนรักไซไฟ

แต่มันคือกระจกสะท้อนระบบเศรษฐกิจ

ที่มุ่งผลิต เติบโต และบริโภคอย่างไม่หยุดยั้ง

“หลีกเลี่ยงต้นทุน” ที่ไม่มีใครบวกเข้าไปในราคา

Negative Externality: ราคาสินค้าไม่ได้รวม “ต้นทุนที่แท้จริง”

ผู้ผลิตผลิตสินค้า ผู้คนบริโภคอย่างไร้ขีดจำกัด ขยะกองพะเนินเต็มโลก

แต่ราคาสินค้าไม่เคยรวม “ค่าขจัดขยะ” หรือ “ค่าความเสียหายของระบบนิเวศ” เข้าไปเลย

ผลคือ โลกกลายเป็นถังขยะใบใหญ่—

เพราะต้นทุนเหล่านั้นถูกผลักไปให้ "คนรุ่นถัดไป" หรือไม่ก็ไม่มีใครรับผิดชอบเลย

Tragedy of the Commons: ทุกคนใช้ แต่ไม่มีใครดูแล

ในหนังเรื่อง WALL-E ไม่มีใครรับผิดชอบต่อโลก

เพราะโลกเป็นของ “ทุกคน” จนกลายเป็น “ไม่ใช่ของใคร”

ขยะล้น โลกพัง และทรัพยากรถูกใช้เกินพอดี

ทั้งหมดเกิดจากความคิดที่ว่า "ไม่ใช่หน้าที่ของเรา”

AI & Automation: มนุษย์ถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์

บนยาน Axiom...

มนุษย์ใช้ชีวิตอยู่บนเก้าอี้อัตโนมัติ มีหุ่นยนต์ดูแลทุกเรื่อง

ตั้งแต่อาหาร เสื้อผ้า ไปจนถึงการขยับตัว

นี่คือโลกที่ “เทคโนโลยีมาแทนแรงงาน” โดยสมบูรณ์

และมนุษย์ “ไม่ได้พัฒนาทักษะใดๆ” เลยตลอด 700 ปี

แรงงานหมดความหมาย

ทักษะกลายเป็นสิ่งล้าสมัย

และชีวิตของมนุษย์… เหลือเพียงบทบาทของ “ผู้บริโภค”

Monopoly: โลกที่ถูกควบคุมด้วยบริษัทเดียว

Buy-N-Large ไม่ได้ขายแค่ของ—แต่ “ปกครองโลก”

ไม่มีรัฐ ไม่มีระบบตรวจสอบ ไม่มีการแข่งขัน

คือระบบเศรษฐกิจที่ไม่มีใครคุม ไม่มีใครห้าม ไม่มีใครรับผิด

บริษัทเดียวกลายเป็นทั้งผู้ผลิต ผู้ควบคุม และผู้กำหนดชีวิตของมนุษย์ทั้งหมด

เมื่อ "การบริโภค" กลายเป็นเป้าหมายสูงสุด

มนุษย์ก็กลายเป็นเพียงกลไกในระบบอัตโนมัติ

 

และสิ่งที่ WALL-E เจอ... ไม่ใช่แค่ต้นไม้

แต่มันคือ “ความหวังเล็กๆ” ที่ยังงอกอยู่ใต้ซากปรักหักพัง

มันอาจจะกำลังบอกเราว่า…

การเติบโตที่แท้จริง ต้องไม่ใช่แค่การสะสมเทคโนโลยี

แต่คือการกลับมารับผิดชอบต่อสิ่งที่เคยละเลย

 

WALL-E อาจทำให้เราตั้งคำถามกับตัวเองว่า…

เรากำลังเดินหน้าไปสู่โลกแบบไหน?

โลกที่สะดวกสบายแต่ทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง?

หรือโลกที่เติบโตโดยไม่ทำลายรากของตัวเอง?

.

เรื่องและภาพ: พรปวีณ์ ธรรมวิชัย Economist, Bnomics

════════════════

 

เนื้อหาที่มาจาก. Bnomics by Bangkok Bank


littleboy