รู้จัก No Spend Month หยุดซื้อ ของไม่จำเป็น ทั้งเดือน เพื่อฝึกวินัยการเงิน - BillionMoney

ช่วงต้นเดือน ที่เงินเดือนเพิ่งออกแบบนี้ หลาย ๆ คนก็คงกำลังวางแผนใช้เงินอย่างสนุกสนาน เพื่อเป็นรางวัลให้กับความเหนื่อยยาก จากการทำงานในเดือนก่อน
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกดี ๆ เหล่านั้น ก็อาจจะอยู่กับเราได้ไม่นาน ถ้าหากใช้จ่ายเพลิน จนเริ่มมีเงินไม่เพียงพอ ที่จะใช้ไปทั้งเดือน
ซึ่งถ้าหากเราไม่อยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้นในเดือนต่อ ๆ ไป เราก็สามารถเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้จ่าย ด้วยการทดลองทำ No Spend Month
No Spend Month จะช่วยฝึกวินัยทางการเงินของเราได้อย่างไร ?
BillionMoney จะย่อยให้เข้าใจ
No Spend Month หรือถ้าแปลเป็นไทยได้ง่าย ๆ ว่า “เดือนนี้ไม่มีการใช้จ่าย”
ฟังดูแล้ว เหมือนจะเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะคนเราต้องกินต้องใช้ แถมยังต้องจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าห้อง
อย่างไรก็ตาม การทำ No Spend Month นั้น ไม่ใช่การห้ามไม่ให้เราใช้เงินแม้แต่บาทเดียวไปทั้งเดือน แต่คือการที่ในเดือนนั้น เราจะไม่ใช้จ่ายกับสิ่งที่ไม่จำเป็น
เช่น การซื้อเสื้อผ้าใหม่ กินร้านอาหารแพง ๆ หรือออกไปเดินช็อปปิงในห้าง เป็นต้น
โดยประโยชน์ที่จะได้รับจากการทำ No Spend Month อย่างแรกก็คือ การที่เราจะสามารถเก็บเงินได้ หรือมีเงินเก็บเพิ่มมากขึ้น จากการไม่ซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็น
ประโยชน์อย่างที่สองก็คือ การที่เราได้รู้จักควบคุมตัวเอง เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในปัจจุบันนี้ สภาพแวดล้อม และการมีโซเชียลมีเดีย ที่ทุกคนต่างพากันอวดเรื่องการใช้จ่ายของตัวเอง
ทำให้ในหลาย ๆ ครั้ง เราก็ซื้อของที่ไม่จำเป็นโดยไม่รู้ตัว จนรู้อีกที ก็มีเสื้อผ้า หรือสิ่งของที่เราไม่เคยได้หยิบออกมาใช้ อยู่เต็มไปหมด
เพราะฉะนั้น การลองข่มใจตัวเอง หรือหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองไม่ซื้อสิ่งของเหล่านี้ อย่างเช่น การลบแอปพลิเคชันช็อปปิง หรือเข้าโซเชียลมีเดียให้น้อยลง ระหว่างทำ No Spend Month ก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดพฤติกรรมแบบนี้ลง
อีกทั้งยังเป็นเหมือนการถอยออกมามอง พฤติกรรมการใช้จ่ายที่ผ่านมาของตัวเราเอง ซึ่งในบางครั้งอาจทำให้เราเห็นว่า สิ่งที่คิดว่าจำเป็นในวันนั้น จริง ๆ แล้ว มันอาจจะไม่ได้จำเป็นมากเท่าที่คิดก็ได้
และนอกจากการควบคุมตัวเองแล้ว ประโยชน์ที่เราจะได้รับจากการทำ No Spend Month ก็คือการเปิดโอกาส ให้เราได้ใช้ประโยชน์ จากสิ่งที่มีอยู่
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า หลาย ๆ คนมักจะซื้อของที่ไม่จำเป็นโดยไม่รู้ตัว จนบางครั้งสิ่งของเหล่านั้นก็มีอยู่เยอะมาก จนแทบไม่มีที่จะเก็บ
การทำ No Spend Month นี้เอง ก็เปิดโอกาสให้เราได้ลองหยิบเสื้อผ้าในตู้ และรองเท้าบนชั้นวาง ที่ซื้อมานานแล้ว แต่ยังไม่เคยได้ใส่ หรือลองหยิบสิ่งของที่เรามองว่า ไม่รู้จะซื้อมาทำไม มาลองใช้ประโยชน์ดู
ซึ่งในบางครั้ง ถ้าหากเราไปเจอสิ่งของที่ยังมีสภาพดี แต่เราไม่รู้จะเอาไปใช้ทำอะไร ก็สามารถนำไปแบ่งปันให้กับคนอื่น หรือนำไปขาย จนทำให้เรามีรายได้ในเดือนนั้นเพิ่มขึ้นก็ได้
อย่างไรก็ตาม การทำ No Spend Month ก็ไม่ได้มีแต่ข้อดีเสมอไป เพราะในบางครั้งการที่เราข่มใจตัวเองมาก ๆ ก็อาจทำให้ ในเดือนต่อมา เราจะระบายความอัดอั้น ด้วยการใช้เงินอย่างสิ้นเปลือง มากกว่าเดิมก็เป็นได้
นอกจากนี้ ในบางครั้งเราอาจจะมีความจำเป็น ที่ต้องใช้เงินฟุ่มเฟือยอยู่บ้าง เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับผู้อื่น เช่น ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงาน หรือออกไปเที่ยวกับสมาชิกครอบครัว ในวันหยุดยาว
ทำให้การจะประหยัดอดออมทั้งเดือน กลายเป็นเรื่องที่ยาก จนเกินไป
ถ้าเป็นอย่างนั้น เราอาจลองลดความเข้มข้นลง จากการทำ No Spend Month เป็นการทำ No Spend Week แทนก็ได้ เพื่อปรับตัว ก่อนที่จะเริ่มทำ No Spend Month ให้ได้เต็มเดือนในอนาคต
หรือไม่เช่นนั้น ก็อาจจะเลือกเวลาในการทำ No Spend Month ให้เหมาะสมก็ได้ เช่น เริ่มทำ No Spend Month ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเดือนที่สั้นที่สุด
จากตรงนี้เองจะเห็นได้ว่า การทำ No Spend Month จะช่วยให้เราเรียนรู้ที่จะควบคุมตัวเอง แถมยังได้กลับมาสำรวจ พฤติกรรมการใช้จ่ายของตนเอง ว่าที่ผ่านมาเราใช้เงินไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็นมากน้อยแค่ไหน
เพราะฉะนั้น ถ้าหากในเดือนนี้เรารู้สึกว่า อยากจะมีเงินเก็บเพิ่ม หรืออยากจะเลิกซื้อของตามใจตัวเอง จนมากเกินไป
การเริ่มทำ No Spend Month ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ก็ดูจะเป็นทางเลือก ที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน..
References
-http://thaimoneyadvice.com/no-spend-month-may-help-you/
-https://wealthtender.com/.../the-far-reaching-benefits.../
-https://www.nerdwallet.com/.../financial-needs-versus-wants