หุ้นไทยปิดบวก 0.08 จุด วอลุ่มซบเซา 7 หมื่นล้าน ขาดปัจจัยใหม่หนุน

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 23 มีนาคม ปิดที่ระดับ 1,677.95 จุด เพิ่มขึ้น 0.08 จุด (+0.00%)โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 1,686.14 - 1,676.88 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 70,229.50 ล้านบาท 

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งในกรอบแคบ อิงทางแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยได้แรงหนุนจากโมเมนตัมเชิงบวกในตลาดต่างประเทศ แต่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ที่จะเข้ามาเป็นแรงส่งให้ตลาดปรับตัวขึ้นแรงได้

ขณะที่การลงทุนวันนี้ก็มีแรงเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หลังนักลงทุนตอบรับข่าวการปรับลดอันดับเครดิตธนาคารพาณิชย์ไปแล้ว รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ(Bond Yield) ที่ปรับตัวขึ้น 2.4% ก็เป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นกลุ่มดังกล่าวด้วย นอกจากนี้หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ก็ปรับตัวขึ้นได้ดี หลังจากปรับตัวลงไปพอสมควร คล้ายกันกับหุ้นเทคโนโลยีในตลาดโลก อีกทั้งค่าเงินบาทก็อยู่ในโทนอ่อนค่า จึงเป็นการเพิ่มแรงเก็งกำไรเข้ามาด้วย    

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ คาดว่า ตลาดน่าจะยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบ โดยนักลงทุนรอดูการเปิดเผยตัวเลขการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ในวันพรุ่งนี้ คาดว่าส่งออกจะเติบโตได้ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ปัจจัยในต่างประเทศ ก็ยังต้องติดตามในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อ และนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยให้แนวรับ 1,670 จุด และแนวต้านที่ 1,690 จุด

5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด          

- KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,759.12 ล้านบาท ปิดที่ 158.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

- CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,252.06 ล้านบาท ปิดที่ 65.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

- PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,089.44 ล้านบาท ปิดที่ 152.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

- KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,805.10 ล้านบาท ปิดที่ 65.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

- EA มูลค่าการซื้อขาย 1,720.43 ล้านบาท ปิดที่ 93.75 บาท  เพิ่มขึ้น 0.25 บาท