หุ้นไทยปิดลบ 15.63 จุด แรงขายหุ้นแบงก์-พลังงานกดดัน
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 20 เมษายน ปิดที่ระดับ 1,565.10 จุด ลดลง 15.63 จุด (-0.99%) โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวสูงสุดที่ 1,582.30 จุด ต่ำสุดที่ 1,562.11 จุด มูลค่าการซื้อขาย 57,260.07 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 738.42 ล้านบาท ขณะที่กองทุนขายสุทธิ 1,380.95 ล้านบาท
นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีปรับตัวลงต่อ ซึ่งมีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ออกมากดดัน ทั้งในส่วนของ 2 แบงก์ใหญ่ คือ KBANK และ SCB ที่มีประเด็นความกังวลเกี่ยวกับสินเชื่อที่ให้กับ STARK ที่เป็นประเด็นกังวล รวมถึงแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงกดดัน
โดยปัจจัยกดดันดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงมากกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลดลงตามกัน โดยที่มีปัจจัยภายนอกเกี่ยวกับความกังวลในการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อเนื่อง หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงออกมาดี แม้ว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงก็ตาม ทำให้นักลงทุนอาจมีความกังวลและขายหุ้นออกมาปิดความเสี่ยง
อย่างไรก็ตามดัชนีได้ปรับลงหลุดแนวรับแรกที่ 1,585 จุด ไปแล้ว ทำให้มองแนวโน้มดัชนีเป็นภาพของการปรับฐานในระยะสั้น ซึ่งจะเห็นการปรับฐานลงมาในช่วงท้ายภาคบ่าย โดยที่แนวโน้มพรุ่งนี้อาจจะลุ้นรีบาวด์ได้ หลังจากดัชนีปรับลงมาค่อนข้างมาก และยังติดตามการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 ของกลุ่มแบงก์ที่เหลือที่จะทยอยออกมา โดยให้แนวต้าน 1,585 จุด แนวรับ 1,550 จุด
5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด
– KBANK มูลค่าการซื้อขาย 7,282.85 ล้านบาท ปิดที่ 126.00 บาท ลดลง 5.50 บาท
– KTB มูลค่าการซื้อขาย 4,999.31 ล้านบาท ปิดที่ 17.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท
– SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,618.89 ล้านบาท ปิดที่ 99.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
– BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,675.84 ล้านบาท ปิดที่ 29.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
– PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,543.66 ล้านบาท ปิดที่ 153.50 บาท ลดลง 4.50 บาท