บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุถึงสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น SCC ปิดซื้อขายเช้านี้บวก 2.44% สวนทางดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ที่ปิดลบ 16.45 จุด หรือ -1.07% เนื่องจากกำลังได้รับปัจจัยหนุน จากงบการเงินไตรมาส 2/64 ที่มีกำไรสุทธิ 1.7 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 84% จากปีก่อน ดีกว่าที่ Bloomberg consensus คาดไว้ถึง 26%
นอกจากนี้ SCC ยังได้รับปัจจัยหนุน จากการประกาศจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรก ที่อัตรา 8.5 บาท/หุ้น หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทน (Dividend Yield) ระดับ 2.1% โดยจะขึ้นเครื่องหมายผู้ซื้อไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล (XD) ในวันที่ 13 ส.ค.นี้ และ จ่ายเงินปันผลในวันที่ 27 ส.ค.64
ด้าน บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า SCC จะจ่ายเงินปันผลทั้งปี 64 คิดเป็น Dividend Yield ที่สูงระดับ 4.27% ใกล้เคียงกับระดับที่นักวิเคราะห์จาก IAA Consensus ประเมินไว้ที่ 4.4%
---------------
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า ผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 3/64 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงจาก 2 ไตรมาสแรกของปี และอาจเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ โดยมีเหตุผลหลัก จากสเปรดปิโตรเคมีต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงกลางไตรมาส 2/64 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ จะเป็นช่วงที่ธุรกิจวัสดุก่อสร้างของ SCC เข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่น ตามปัจจัยฤดูฝน ส่งผลให้ธุรกิจดังกล่าว มียอดขายลดลงต่ำกว่าช่วงอื่นๆของปีเป็นปกติอยู่แล้ว ประกอบกับปีนี้ ยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศที่ยังคงความรุนแรงอีกด้วย
สอดคล้องกับ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ที่ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 3/64 ของ SCC จะอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อน เนื่องจากคาดว่า สเปรด Polyethylene (PE)/Polypropylene (PP) จะลดลงจากไตรมาสก่อน เพราะต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น ประกอบกับ มีกำลังการผลิตใหม่เข้าสู่ตลาดมากขึ้น
ทั้งนี้ ในเดือนก.ค.64 สเปรด HDPE/PP ลดลง 23% และ 21% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับความสะอาดและสุขอนามัยยังคงสูงมาก รวมถึงธุรกิจบรรจุภัณฑ์มีการเติบโตทั้งจากการซื้อกิจการและขยายกำลังการผลิตภายในอย่างต่อเนื่อง
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า กำไรสุทธิไตรมาส 4/64 ของ SCC จะฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาส 3/64 โดยมีปัจจัยหนุนจากธุรกิจวัสดุก่อสร้างผ่านช่วงโลว์ซี่ซั่นไปแล้ว ประกอบกับ การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศ คาดสถานการณ์จะเริ่มผ่อนคลายมากขึ้นกว่าสถานการณ์ปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังคาดว่า สเปรดปิโตรเคมี จะเริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง ตามอุปสงค์การผลิตสินค้าช่วงเทศกาลมากขึ้น โดยเฉพาะอุปสงค์ในประเทศอินเดียที่คาดว่าจะกลับสู่ระดับปกติ นอกจากนี้ SCC ยังได้รับปัจจัยหนุนจากโรงงานในภูมิภาคจะปิดซ่อมบำรุงในช่วงต้นไตรมาส 4/64 ส่งผลให้ราคาเม็ดพลาสติกมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น โดยประเมินกำไรสุทธิปี 64 ของ SCC ไว้ที่ 4.4 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 31.42% จากปีก่อน