BA กลับมาเป็นที่จับตาของนักลงทุนอีกครั้งหลังจากที่กลุ่มสายการบินมีการปลดล๊อคธงแดง ICAO ทำให้เกิดแรงเก็งกำไรจำนวนมากดันหุ้นพุ่งพร้อมกับวอลุ่มที่เข้ามาเทรดเป็นจำนวนมาก นักวิเคราะห์มองปีนี้ทั้งปียังอ่อนแอ ระยะสั้นไตรมาส Q3/60 ลุ้นพลิกมีกำไร หลังจากที่ Q2/60 ขาดทุนหนัก อีกทั้งราคาก็ไหลลงทำจุดต่ำสุดอย่างต่อเนื่อง
BA ดำเนินธุรกิจสายการบิน ภายใต้ชื่อ “สายการบิน บางกอกแอร์เวย์ส” ณ วันที่ 31 ธ.ค.59 บริษัทฯ ให้บริการเที่ยวบินแบบประจำเส้นทางบินภายในประเทศ 16 เส้นทาง และบริการเที่ยวบินแบบประจำเส้นทางการบินระหว่างประเทศ 17 เส้นทาง อีกทั้งมีธุรกิจให้บริการสนามบินได้แก่ สนามบินสมุย สนามบินสุโขทัย สนามบินตราด และหน่วยลงทุนใน SPF หรือกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในสิทธิการเช่าสนามบินสมุย
BA ถือหุ้นใหญ่โดยกลุ่ม "ปราสาททองโอสถ" โดยการนำภายใต้คุณหมอประเสริญ ปราสาททองโอสถ ที่มีชื่อเสียงมากในหมู่นักลงทุน ที่ปั้น "เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ BDMS" ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
ดูเหมือนว่าหุ้น BDMS จะมีชื่อเสียงที่สร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้เป็นกอบเป็นกำ ตรงข้ามกับหุ้น BA ที่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน ซึ่ง BA เข้าเทรด SET เมื่อเดือน พ.ย.57 ที่ราคาไอพีโอ 25.00 บาท แต่ปัจจุบันพบว่า ราคาหุ้น BA ในกระดานยังต่ำกว่าราคาไอพีโอ โดยราคา BA ตลอดปีนี้สูงสุดที่ 23.10 บาทเมื่อเดือน ม.ค. และต่ำสุดที่ 17.50 บาท เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา
ด้านผลประกอบการบริษัทฯ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (58-59) กำไรสุทธิทรงตัวที่ 1.7 พันล้านบาท/ปี แต่กำไรครึ่งแรกปีนี้ลดลงมากเหลือเพียง 14 ล้านบาท ผลจากงวด Q2/60 ขาดทุนหนัก 533 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและภาษีสรรพสามิตน้ำมัน รวมถึงค่าเช่าเครื่องบินและค่าใช้จ่ายในการให้บริการผู้โดยสารที่ปรับตัวสูงขึ้น
ส่งผลให้หลังประกาศงบไตรมาส 2/60 โบรกฯ แห่ปรับลดประมาณการหุ้น BA ราคาเป้าหมายจากเกือบ 30 บาทลงมาเหลือราว 18-22 บาทเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นักกวิเคราะห์มองว่า ในแง่ราคาหุ้นมอง BA น่าสนใจมากที่สุด เพราะราคายัง Laggard กลุ่มและจะได้ผลประโยชน์จากการปลดล๊อคของ ICAO เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา
มาดูบทวิเคราะห์กันบ้างครับ
บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ข่าวการปลดธงแดงบวกต่อ THAI, AAV สั้นๆ แต่ระยะยาวชอบ BA มากกว่า แนะนำ Switch AAV (มูลค่าเหมาะสม 5.5 บาท) และ THAI (มูลค่าเหมาะสม 19.0 บาท) ที่เต็มมูลค่า ไปยัง BA มูลค่าเหมาะสม 22.40 บาท ซึ่งราคาหุ้นยัง laggards และเชื่อว่าผลประกอบการ จะเริ่มกลับมาฟื้นตัวตั้งแต่ Q3/60 จากผลบวกการเข้าสู่ช่วงท่องเที่ยวสมุย เส้นทางบินหลักที่ BA ให้บริการ
บล.กสิกรไทย กล่าวว่า การปลดธงแดง THAI จะได้รับประโยชน์สูงสุด เนื่องจาก 90% ของรายได้ THAI มาจากเที่ยวบินต่างประเทศ (สามารถที่จะเพิ่มเที่ยวบินไปยังประเทศที่อิงกับ ICAO ได้) ขณะที่ AAV และ BA แม้จะไม่ได้ประโยชน์ทางตรง แต่ภาพรวมของไทยที่ดูดีขึ้นเป็นการเพิ่มความเชื่อมี่นให้กับนักเดินทาง
สำรวจพื้นฐาน BA ยังคงอ่อนแอ เพราะโบรกฯ คาดว่ากำไรปีนี้จะลดลงราว 72% จากปีก่อน แต่ในช่วงสั้นงบไตรมาส 3/60 น่าจะพลิกมีกำไร QoQ จึงน่าจะเป็นสตอรี่บวกของ BA ได้อีกในระยะสั้นนี้ แต่การแข่งขันจะยังคงเข้มข้นต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง
บล.เคจีไอ ได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี60 ลง 74% เหลือ 490 ล้านบาท (-72% YoY) และปี61 ลง 69% เหลือ 643 ล้านบาท (+31% YoY) ซึ่งสะท้อนถึงผลประกอบการที่อ่อนแออย่างมากในช่วงครึ่งแรกปี 60 แต่คาดว่าผลประกอบการจะพลิกเป็นบวกได้ในQ3/60 โดยมีกำไรสุทธิ 350 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงผลการดำเนินงานของ BAใน Q3/60 จะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ QoQ แต่ก็คาดว่าจะยังลดลงถึง 47% YoY
การปลดธงแดงเป็นแค่ปัจจัยระยะสั้นของ BA แต่ระยะยาวแล้วทาง BA จะสามารถเรียกศรัทธาของนักลงทุนโดยการทำกำไรและจ่ายปันผลให้กับนักลงทุนได้หรือไม่ ดูเหมือนว่าจะเป็นงานหนักเอาการอยู่เหมือนกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาวะอุตสาหกรรมที่แข่งขันกันสูง ค่าตั๋วโดยสารมีแนวโน้มปรับลดลงเรื่อยๆ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เต็ม Capacity แต่กลับไม่สามารถสร้างกำไรให้กลุ่มการบินได้เป็นกอบเป็นกำ เหล่านี้เป็นปัจจัยเสี่ยงของอุตสาหกรรมการบินไม่ใช่แค่ BA เพียงอย่างเดียว แต่สำหรับ BA แล้ว เราต้องไม่ลืมว่าเขามีผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างหมอประเสริฐ และสินทรัพย์ที่ล้ำค่าอย่าง "สนามบินสมุย" เชื่อว่าหมอประเสริฐคงจะไม่อยู่เฉยๆแน่นอน ....
----------------------------------------
เขียนโดย คนเล่นหุ้น