เปิดไส้ในแผนลงทุน ปตท.สผ. เดินหน้า 7 โปรเจ็กต์ 61,000 ล้าน
ต้องยอมรับว่าปี 2564 ยังคงเป็นปีที่ท้าทายสำหรับธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะสัมพันธ์โดยตรงต่อความต้องการใช้พลังงานและราคาน้ำมัน
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ได้เริ่มปรับตัวทั้งในส่วนของโครงสร้างองค์กรและการดำเนินงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดต้นทุนโดยรวมเพื่อให้บริษัทมีความแข็งแกร่งพร้อมรับกับความผันผวน
และได้ทบทวนแผนการลงทุน 5 ปี ภายใต้กลยุทธ์ execute and expand ในปีนี้ เพื่อให้บริษัทสามารถรักษากำลังการผลิตตอบสนองความต้องการพลังงานของประเทศ และยังเติบโตได้โดยที่ยังมีโครงสร้างการเงินที่แข็งแกร่ง จากกระแสเงินสดในการดำเนินงานแต่ละปี
นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปตท.สผ. เปิดเผยว่า แผนการลงทุน 5 ปี (2564-2568) บริษัทได้จัดสรรงบประมาณรวม 23,637 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 734,845 ล้านบาท โดยจะเริ่มในปี 2564 ที่ 4,196 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 132,174 ล้านบาท
โดยแบ่งเป็นรายจ่ายลงทุน (capital expenditure หรือ CAPEX) จำนวน 2,588 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 81,522 ล้านบาท และรายจ่ายดำเนินงาน (operating expenditure หรือ OPEX) จำนวน 1,608 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบเท่า 50,652 ล้านบาท
เป้าหมายเพื่อรองรับแผนงานหลัก ทั้งการรักษาปริมาณการผลิตจากโครงการผลิตหลักที่สำคัญ ได้แก่ โครงการเอส 1 โครงการบงกช โครงการอาทิตย์ โครงการในประเทศมาเลเซีย และโครงการซอติก้าในประเทศเมียนมา
รวมถึงเตรียมความพร้อมสำหรับการดำเนินการโครงการจี 1/61 (แหล่งเอราวัณ) และโครงการจี 2/61 (แหล่งบงกช) โดยได้จัดสรรรายจ่ายการลงทุนจำนวน 1,943 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบเท่า 61,204 ล้านบาท
และการเพิ่มปริมาณการผลิตในอนาคต โดยมุ่งเน้นและผลักดันโครงการหลักที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา ได้แก่ โครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน และโครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ให้สามารถเริ่มการผลิตได้ตามแผน และเร่งการพัฒนาโครงการมาเลเซีย ซาราวัก เอสเค 410 บี
ซึ่งประสบความสำเร็จในการเจาะสำรวจเมื่อปลายปีที่แล้วให้สามารถเข้าสู่ขั้นตอนของการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (final investment decision) โดยบริษัทได้จัดสรรรายจ่ายการลงทุนในส่วนนี้เป็นจำนวนเงิน 493 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 15,530 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังเร่งกิจกรรมการสำรวจเพื่อค้นหาทรัพยากรรองรับการเติบโตในระยะยาว โดยได้จัดสรรรายจ่ายการลงทุน 152 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบเท่า 4,788 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายในการเจาะหลุมสำรวจและประเมินผลสำหรับโครงการสำรวจในประเทศมาเลเซีย และเม็กซิโก
และยังเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนไป โดยศึกษาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ เช่น โครงการ Gas to Power ในประเทศเมียนมา เพื่อต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแหล่งก๊าซธรรมชาติที่บริษัทมีการดำเนินการอยู่แล้ว, การขยายธุรกิจของบริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด (เออาร์วี) รวมทั้งการแสวงหาโอกาสการลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียนอีกด้วย
ทั้งหมดนี้หากสามารถดำเนินการตามแผนการลงทุน 5 ปีสำเร็จ บริษัทยังคงรักษากำลังการผลิตจากโครงการหลัก เร่งพัฒนาโครงการสำคัญให้ได้ตามแผนที่วางไว้
รวมถึงแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ ตั้งเป้าหมายเพิ่มปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยปีละ 6% ซึ่งจะทยอยเพิ่มจาก 375,000 บาร์เรลในปี 2564 ไปสู่ 462,000 บาร์เรลในปี 2568
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมุลจาก