ส่งงบไตรมาส 1/65 ของ 6 บจ.ใหญ่

บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยังทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/65 ออกมาไม่หยุด ล่าสุดถึงคิวของ 6 บริษัทใหย่ อย่าง BAM - BEM - BGRIM - CPF - RATCH และ SAWAD

.

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย จึงได้รวบรวมผลประกบการของทั้ง 6 บริษัทมาให้ได้ติดตามกัน ว่าในงวดนี้กำไรของบริษัทไหนจะเพิ่มขึ้น - ลดลง จากปัจจัยอะไรกันบ้าง

.

*โควิดคลาย ดันกำไร BAM พุ่ง 26%

บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM สรุปผลการดำเนินงานของ บจ. ไตรมาสที่ 1/65 มีกำไรสุทธิ 311.84 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 247.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.91%

.

บริษัท มีรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีสาเหตุหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้– ส่วนที่รับเงินแล้ว เพิ่มขึ้นถึง 59% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้นมาตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 64

.

* BEM กำไรดีขึ้น รับรายได้ทางด่วน - ต้นทุนลดช่วยหนุน

บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 336 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 31 ล้านบาท หรือ 10.2%

.

โดยรายได้จากการดำเนินงาน จำนวน 3,094 ล้านบาท ลดลง 0.5% ตามรายได้ค่าโดยสาร และรับจ้างเดินรถ แต่รายได้ทางด่วนเพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนการให้บริการและ ค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลงตามแผนควบคุมต้นทุน

.

* BGRIM กำไรสะดุด 96.2% ต้นทุนพลังงานพุ่ง - ขาดทุนค่าเงิน

บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผย ว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/65 มีกำไร 23.30ล้านบาท หรือ -0.03 บาท/หุ้น ลดลง 96.2% จากงวดเดียวกันปี 64 ที่มีกำไร 611 ล้านบาท หรือ 0.20 บาท/หุ้น

.

โดยกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสนี้ลดลง 94.79% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้น 100.4% ของราคาก๊าซธรรมชาติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจกลุ่มลูกค้า IU นอกจากนี้ยังมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง(จากสถานะสุทธิของหนี้และธุรกรรมอื่นที่เป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ)และส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมที่เกี่ยวข้อง

.

ส่วนรายได้ในไตรมาสนี้ บริษัทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 41.2% รับราคาขายไฟฟ้าต่อหน่วยให้แก่ กฟผ.-ลูกค้า เพิ่มขึ้น และการเติบโตจากโครงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และโครงการพลังงานลมในประเทศไทย และโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป. ลาว ขณะที่ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนาม รายได้รวมฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง

.

* หมูเวียดนาม - จีนราคาตก ทำกำไร CPF ชะลอ

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPFเปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/65 มีกำไร 2842.04 ล้านบาท หรือ 0.34 บาท/หุ้น ลดลง 59% จากงวดเดียวกันปี 64 ที่มีกำไร 6,945.46 ล้านบาท หรือ 0.85 บาท/หุ้น

.

โดยสาเหตุหลักที่ทำให้กำไรลดลง มาจากราคาสุกรในประเทศเวียดนามและประเทศจีนอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีระดับราคาสูงจากภาวะขาดแคลนสุกรจากโรคระบาด ประกอบกับราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์เพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน

.

* RATCH กำไรหด 24.4% เหตุต้นทุนพลังงาน - การเงินพุ่ง

บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 1/65 มีกำไรสุทธิ 1,579.35 ล้านบาท ลดลง 24.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,087.85 ล้านบาท

.

แม้บริษัทฯ มีรายได้รวม 18,249.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 109.7% มาจากรายได้ค่าพลังงานไฟฟ้า แต่ต้นทุนขายและการให้บริการจำนวน 15,494.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 153.9% จากการเดินเครื่องที่เพิ่มขึ้นและราคาเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้นตามสถานการณ์ตลาดโลก ประกอบกับต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น

.

* SAWAD กำไรวูบ 21.4% ตามรายได้ดอกเบี้ยลดลง

บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า ผลกำไรรวมสุทธิไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 1,117.89 ล้านบาท เทียบกับปีก่อน 1,422.17 ล้านบาท ลดลง 304.28 ล้านบาท หรือ 21.40%

.

โดยมีรายได้ดอกเบี้ย 1,725.39 ล้านบาท เทียบกับรายได้ดอกเบี้ยของปีก่อน 1,900.71 ล้านบาท ลดลง 175.32 ล้านบาท หรือ ลดลง 9.22% เนื่องจากในไตรมาสที่ 1/64 รายได้ดอกเบี้ยได้มีการรวมรายได้ดอกเบี้ยของบริษัทย่อย (บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด) ขณะที่รายได้อื่นอยู่ที่ 793.85 ล้านบาท ลดลง 111.50 ล้านบาท หรือ ลดลง 12.32% ซึ่งเป็นผลมาจากในไตรมาสที่ 1/64 มีการบันทึกกำไรจากการเปลี่ยนแปลงประเภทเงินลงทุนในบริษัทย่อยเป็นบริษัทร่วม ซึ่งเป็นรายการพิเศษ