=== สรุปหลักดูวอลุ่ม 10 ข้อ ===
จากหนังสือ "เทคนิคอลอนาไลซิส"

.
1. โวลุ่มการซื้อขายเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับทุกตลาด แต่ปริมาณสถานะคงค้างจะมีในเฉพาะตลาดฟิวเจอร์เท่านั้น
.
2. โวลุ่มการซื้อขายที่รวมจำนวนการเทรดในทุกสัญญา และปริมาณสถานะคงค้างจะมีใช้ในเฉพาะตลาดฟิวเจอร์เท่านั้น
.
3. ถ้าราคาเคลื่อนไหวอย่างมีแนวโน้มราคาที่ชัดเจน และโวลุ่มการซื้อขายพร้อมด้วยปริมาณสถานะคงค้างเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ราคาตลาดนั้นมักจะเคลื่อนไปตามแนวโน้มราคาที่มีอยู่ในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง
.
4. ถ้าราคาเคลื่อนไหวเป็นแนวโน้มราคาที่ชัดเจน แต่โวลุ่มการซื้อขายและสัญญาคงค้างลดลงเรื่อยๆ ราคาตลาดก็มักจะเคลื่อนไปตามแนวโน้มนั้นด้วยความไม่มั่นคง และพร้อมที่จะกลับตัวเปลี่ยนทิศทางได้ตลอดเวลา
.
5. สัญญาณเตือนมักจะเกิดให้เห็นในโวลุ่มการซื้อขายก่อน แล้วค่อยเกิดตามในกราฟราคา แรงซื้อและแรงขายของนักลงทุนในตลาดจะสะท้อนออกมาจากโวลุ่มการซื้อขายให้เห็นก่อนบ่อยครั้ง
.
.
.
6. เส้น OBV (On Balance Volume) ทั้งแบบดั้งเดิมและแบบประยุกต์ มีประโยชน์มากต่อการวัดความเข้มข้นของแรงกดดันที่นักลงทุนในตลาดมีอยู่ ทำให้สามารถคาดการณ์ทิศทางของแรงซื้อและแรงขายได้ล่วงหน้า
.
7. ในตลาดฟิวเจอร์ ระหว่างที่ราคามีแนวโน้มราคาเป็นขาขึ้น เมื่อปริมาณสถานะคงค้างเริ่มคงที่ และไม่เพิ่มขึ้นอีกต่อไป หรือเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง จะเป็นสัญญาณเตือนถึงการเกิดจุดกลับตัวของแนวโน้มราคาที่กำลังใกล้จะเกิดขึ้นในไม่ช้า
.
8. ในตลาดฟิวเจอร์ เมื่อราคาสร้างจุดสูงใหม่ หรือเกิดการแกว่งตัวสร้างเป็นรูปแบบการกลับตัวของราคา หากปริมาณสถานะคงค้างเพิ่มขึ้นสูงมากอย่างผิดปกติ นั่นไม่ใช่สัญญาณเชิงบวก แต่จะเป็นสัญญาณเตือนให้เพิ่มความระมัดระวัง เพราะหากราคาเกิดการกลับตัวแล้ว ราคาจะร่วงลงอย่างรุนแรง เนื่องจากมีนักลงทุนเป็นจำนวนมากที่คาดการณ์ตลาดผิดทิศทาง
.
9. ในตลาดฟิวเจอร์ เมื่อราคาเกิดการแกว่งตัวในกรอบจำกัด หรือกำลังสร้างรูปแบบราคา แล้วปริมาณสถานะคงค้างค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้นตลอดช่วงระยะเวลานั้น หากราคาเกิดการทะลุเส้นกรอบรูปแบบราคาไปแล้ว ราคาจะเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
.
10. โวลุ่มการซื้อขายและปริมาณสถานะคงค้าง สามารถใช้เป็นปัจจัยประกอบการพิจารณาความน่าเชื่อถือของจังหวะการทะลุของราคา และแนวโน้มราคาที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น
.
.
.
จากหนังสือ เทคนิคอล อนาไลซิส
.