คำแนะนำ 3 ข้อ จากประสบการณ์ของ Anthony Bolton

"เราขายทำกำไรง่ายเกินไป แต่ขายขาดทุนยากเกินไป " – Anthony Bolton

1. It's easier to spot opportunities in smaller companies (บริษัทขนาดเล็กมักจะมีโอกาสทางการลงทุนที่น่าสนใจมากกว่า)
หุ้นขนาดใหญ่มักจะเป็นจุดสนใจของคนทั่วไป กองทุนขนาดใหญ่ เฮดจ์ฟันด์ นักวิเคราะห์โบรคเกอร์ ซึ่งหุ้นพวกนี้เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง กิจการมั่นคง แต่การแกว่งตัวของราคาหุ้นก็ไม่ได้หวือหวามากนัก นักลงทุนทั่วไปที่ไม่ได้มีความรู้มากนัก การลงทุนในหุ้นใหญ่ก็เป็นความปลอดภัยระดับหนึ่ง ในขณะที่หุ้นเล็ก มักจะเป็นหุ้นที่คนไม่สนใจ มันจะมีโอกาสซ่อนอยู่ในนั้นอยู่ที่ว่าเราหาเจอหรือไม่

ตัวอย่างเช่น หุ้นน้ำมันยักษ์ใหญ่ของอังกฤษอย่าง BP เป็นหุ้นที่ได้รับการแนะนำว่าเป็นหุ้นปลอดภัยและนักลงทุนทุกคนต้องมีติดพอร์ตโฟลิโอเอาไว้ ข่าวสารทุกอย่างทุกคนจะรับรู้หมด กองทุนทุกกองทุนถือหุ้นมัน โบรคเกอร์ก็มีบทวิเคราะห์กันแทบทุกสำนัก ดังนั้นแล้วมันก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ
"สำหรับบริษัทขนาดเล็กแล้ว ก่อนจะหาโอกาส ผมมักจะโทรนัดกับฝ่ายบริหารมานั่งพูดคุยเกี่ยวกับตัวบริษัท พวกเขาก็ให้การต้อนรับอย่างดี เพราะอย่างน้อยกองทุนที่ผมบริหารก็มีชื่อเสียง ผมมักจะมีข้อมูลบางอย่างที่เจาะลึกมากกว่านักลงทุนทั่วไป .. แต่มันจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะนัดทีมบริหารบริษัทใหญ่ๆแบบนั้น" Anthony Bolton กล่าว

2. Look for new opportunities – but don't forget about the shares you already own (มองหาโอกาสอยู่เสมอ แต่บางครั้งหุ้นที่คุณควรซื้อเพิ่ม อาจจะเป็นหุ้นที่คุณมีอยู่แล้ว)
Anthony Bolton เปิดเผยว่าเบื้องหลังความสำเร็จของเขา คือ ทีมวิจัยของบริษัทที่มีคุณภาพ พวกเขามีอาชีพตามติดบริษัทที่พวกเขากำลังทำบทวิเคราะห์อยู่และรายงานความเคลื่อนไหวของบริษัทให้ผมได้ทราบตลอดเวลา

ผู้จัดการกองทุนจำนวนมากต่างก็พยายามสร้างความแตกต่างของผลตอบแทนโดยการเข้าๆออกๆหุ้นอยู่หลายครั้ง แต่พวกเขากลับไม่รู้เลยว่าผลตอบแทนที่แท้จริงมาจากการ"ถือ" หุ้นคุณภาพดีต่างหาก

Anthony Bolton วิเคราะห์ว่า "ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการดูหุ้นในพอร์ตที่ผมถืออยู่ นานๆครั้งผมมักจะสนใจหุ้นตัวใหม่สักครั้ง การถือและซื้อเพิ่มอาจจะเป็นกลยุทธ์ที่ดีกว่าการพยายามหาหุ้นตัวใหม่เข้าพอร์ต"

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนรายย่อยไม่ใช่บริษัทกองทุน พวกเขาไม่สามารถโฟกัสหุ้นนับพันๆตัวได้อย่างพวกสถาบันทำ พวกเขามีเพียงแค่ 5-10 ตัวที่พวกเขาสนใจอยู่ก็เพียงพอแล้ว และที่สำคัญคือ อย่าลืมซื้อหุ้นที่มีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยเสมอ

3. Fundamentals and market sentiment are both important (การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน และการวิเคราะห์ทางเทคนิค ต่างก็สำคัญทั้งคู่)
เคยมีคนจำนวนมากถาม Anthony Bolton ว่าระหว่างพื้นฐานและเส้นกราฟอะไรสำคัญกว่า สำหรับมุมมองเขาแล้ว เขาคิดว่าทั้งสองอย่างสำคัญเท่าๆกัน ถึงแม้ว่าคุณจะซื้อหุ้นดีในขณะที่ตลาดย่ำแย่ มันก็ไม่ใช่เรื่องราวที่ดีมากนัก คุณก็ยังมีผลงานที่ย่ำแย่อยู่เหมือนเดิม

แต่เขาก็เสริมอีกว่า ยังไงการจับจังหวะตลาดก็เป็นเรื่องยากมาก ถึงแม้ว่าเขาจะบริหารกองทุน Fidelity China Special Situations fund ที่ลงทุนในประเทศจีนโดยตรง ในช่วง 18 เดือนแรก เขาขาดทุนมากถึง 30% ก่อนที่จะกลับมาทำกำไรได้ในเวลาต่อมา

"ตลาดหุ้นมีความสุดโต่งเกินไป" Anthony Bolton กล่าวเสริม

ที่มา : http://www.businessinsider.com/
สรุปโดย SiTh LoRd PaCk