‘INTUCH 'เดินหน้าแผน5ปี ลุยลงทุนธุรกิจใหม่
“อินทัช”ตั้งเป้า5 ปี สร้างผลตอบแทนการลงทุนมากกว่าตลาด2%-เอ็นเอวี แตะ3.2แสนล้าน ยัน มีกระแสเงินสด 2 พันล้าน ลงทุนธุรกิจใหม่ เกี่ยวกับดิจิทัล
นางทมยันตี คงพูลศิล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานบริหารการลงทุนและการลงทุนสัมพันธ์ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH เปิดเผยว่า จากที่บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สัดส่วน 18.93% และอยู่ระหว่างทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (เทนเดอร์ออฟเฟอร์)ที่ราคาหุ้นละ 65 บาทนั้น ยังไม่สามารถตอบได้ว่าโครงสร้างการบริหารงานและแผนธุรกิจจะเปลี่ยนไปหรือไม่ ซึ่งต้องขอรอดูความชัดเจนในการทำดีลดังกล่าวแล้วเสร็จ
สำหรับขณะนี้้บริษัทยังคงนโยบายการดำเนินต่างๆ ตามเดิม เดินหน้าแผนระยะยาว 5 ปี (ปี 2564-2568) สร้างผลตอบแทนการลงทุนให้กับผู้ลงทุนมากกว่าตลาดหลักทรัพยฯ ไม่น้อยกว่า 2 % และมีมูลค่าทรัพย์สิน (NAV) ที่ระดับ 320,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่ 220,000 ล้านบาท พร้อมกันนี้ยังลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทเลคอม มีเดียเทคโนโลยีและดิจิทัล
สำหรับธุรกิจ InVent การเข้าลงทุนกลุ่ม Venture Capital(VC) ยังคงมองหาการลงทุนเพิ่มในช่วงที่เหลือของปีนี้ ในกลุ่มที่เกี่ยวข้องธุรกิจดิจิทัล , การให้บริการ 5จี , เอ็ดดูเคชั่นเทคโนโลยี และเฮลธ์เทค
ปัจจุบัน มีมูลค่าพอร์ตการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 1,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% จากเดิมใช้เงินลงทุนตั้งต้นที่ 991 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดในมือราว 2,000 ล้านบาท เพียงพอเข้าลงทุนใหม่ๆ ซึ่งแต่ละปีบริษัทเข้าลงทุนกลุ่ม VC สตาร์ทอัพ ราว 200 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2564 เข้าลงทุนแล้ว 1 ราย คือ บริษัท โคนิเคิล จำกัด (Conicle) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีการศึกษา (EdTech) รวมถึงได้เซ็นสัญญาลงทุนในกองทุน Fund of Funds ประเทศอิสราเอลไปแล้ว โดยจะทยอยลงทุนทั้งสิ้น 4 ปี ซึ่งปีนี้ยังไม่มีนโยบายลงทุนในรูปแบบกองทุนดังกล่าวเพิ่ม
นางทมยันตี กล่าวว่า แนวโน้มรายได้ของบริษัทในฐานะโฮลดิ้งส์ขึ้นกับรายได้ของบริษัทย่อย คือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือ ADVANC คาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตขึ้นบ้างเล็กน้อยจากปีก่อน เน้นขยายฐานจำนวนผู้ใช้งาน 5 จีบนเครือข่ายเอไอเอสเป็นหลักเป้าหมาย 1 ล้านรายในปีนี้ จากปัจจุบันกว่า 720,000 ราย รวมถึงขยายธุรกิจอินเทอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ในบ้านและเอ็นเตอร์ไพรส์ใช้เชิงดิจิทัล ที่มีแนวโน้มความต้องการใช้งานเพิ่มขึ้น เป็นโอกาสหารายได้เพิ่มของเอไอเอสที่จะใช้ 5 จีมาเพิ่มเติมในบริการต่างๆ
ทางด้านรายได้ของไทยคม รอความชัดเจนเข้าร่วมบริหารจัดการไทยคม 4 และ 6 กับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือNT รวมถึงการเข้าประมูลวงโครจรใหม่ของกสทช .ซึ่งบริษัทพร้อมหนุนธุรกิจไทยคมให้เติบโตต่อไป
อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทจะมีการติดตามติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและผลกระทบจากการเพร่ระบาดโควิด -19ที่จะมีผลต่อธุรกิจอย่างใกล้ชิด หลังจากไตรมาส 1 ปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม3,714 ล้านบาท ลดลง 8% และกำไรสุทธิ 2,660.61 ล้านบาท ลดลง 3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของส่วนแบ่งกำไรจากADVANCและไทยคมลดลง
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก