กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย กดหุ้นไทยดิ่งต่อ! คัด 6 หุ้นรับผลบวกบอนด์ยีลด์พุ่ง

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,430 - 1,440 จุด หลังตัวเลขเปิดรับสมัครงานของสหรัฐสูงกว่าคาดโดยพุ่งขึ้นเกือบ 700,000 ตําแหน่งบ่งบอกถึงตลาดแรงงานที่ยังแข็งแกร่ง
ทั้งนี้จึงคาดว่า FED จะปรับขึ้นและคงดอกเบี้ยระดับสูงเป็นเวลานานส่งผลให้ ค่าเงิน USD และ US bond yield พุ่งขึ้นซึ่งเป็นลบต่อกระแส Fund flow ต่างชาติ และภาวะการลงทุน จึงแนะนํารอซื้อช่วงอ่อนตัวแบบ Selective buy เช่นเดิม
โดยกลยุทธ์การลงทุน: Selvectie buy หุ้น TU ITC AAI ASIAN CFRESH MEGA KCE HANA อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า รวมทั้ง BBL SCB KBANK KTB BLA TLI อานิสงส์ US bond yield ดีดตัวขึ้น และ ADVANC INTUCH BEM BTS BDMS BCH กลุ่ม Defensive ช่วงตลาดพักตัว
หุ้นแนะนําวันนี้ CHG (ปิด 3.28 ซื้อ/เป้า 3.50 บาท) คาดมีกําไรสุทธิไตรมาสที่ 243 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%จากไตรมาสก่อน จากแรงหนุนของจํานวนผู้ป่วยในประเทศที่สูงขึ้นตามการ แพร่ระบาดของโรคต่างๆ อาทิ ไข้เลือดออก, ไข้หวัดใหญ่, มือเท้าปากในเด็ก
MEGA (ปิด 44 ซื้อ/เป้า 54 บาท) ได้ประโยชน์จาก Mega trend ของสังคมผู้ สูงวัย และ เทรนด์รักสุขภาพ หนุนยอดขายและรายได้โตต่อเนื่อง ระยะสั้นได้ ประโยชน์จากบาทอ่อนค่าเนื่องจาก MEGA มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 80% ของรายได้รวม
ส่วนประเด็นสําคัญ ดาวโจนส์ลดลง 431 จุด ( -1.29%) ปิดที่ 33,002 จุด หลังตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน (JOLTS) เพิ่มขึ้น 700,000 ตําแหน่ง สู่ระดับ 9.61 ล้านตําแหน่งในเดือน ส.ค. สูงกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 8.8 ล้านตําแหน่ง ปัจจัยนี้อาจจะผลักดันให้เฟด เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน พ.ย.
ขณะที่ กลุ่มท่องเที่ยวเหตุยิงกันในห้างพารากอนกระทบ Sentiment อิงจากเหตุ ระเบิดราชประสงค์เมื่อปี 2015 พบว่าหลังเกิดเหตุ 1 วัน SET ลดลง 2.6%, หุ้นใน กลุ่มท่องเที่ยวลดลงเฉลี่ย 9% โดยมี CENTEL ลดลงมากสุด 12.6% อย่างไรก็ตาม SETและหุ้นท่องเที่ยวใช้เวลาประมาณ 2 เดือนกลับสู่ระดับราคาเดิมโดยมี MINT ฟื้นตัวเร็วสุดภายใน 1 สัปดาห์ (มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศด้วยจึงได้รับ ผลกระทบจํากัดสุด) หากราคาหุ้นร่วงแรงยังมองเป็นโอกาส ซื้อ
สุดท้ายกลุ่มค้าปลีกน้ํามันมีประเด็นลบรัฐเตรียมแก้กฏหมายควบคุมค่าการตลาด: วานนี้ รมว.พลังงานร่วมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแก้ไขกฎหมายใหม่ให้อํานาจกระทรวงพลังงานควบคุมค่าการตลาดน้ํามันทุกประเภทเรามีมุมมองลบต่อ ข่าวดังกล่าวเพราะการออกกฎหมายจะต้องปฎิบัติตามต่างจากอดีตที่ขอความ ร่วมมือเท่านั้น ทั้งนี้ทุกๆ 20 สตางค์ของค่าการตลาดที่ลดลงจะกระทบคาดการณ์ กําไรบางจากประมาณ 9.7%, OR 7.4% และ PTG 18%
