ภาพรวมการลงทุนในเดือน ต.ค.ประเมินตลาดหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวได้บ้าง หนุนจาก
(1) การผ่อนคลายดอกเบี้ยที่ตลาดเริ่มให้มุมมองมากขึ้นที่ FED จะ ขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.50% หนุนจากปัจจัยบวกด้านเงินเฟ้อที่ดูมีความน่าจะเป็น ลดลงต่อเนื่องตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์
(2) ปัจจัยด้านฤดูกาล หากพิจารณา SET INDEX ช่วง 4Q22 พบว่ามักให้ผลตอบแทนที่เป็นบวก
(3) ปัจจัยบวก จากเศรษฐกิจไทยอย่างการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้น Upside ยังดู จ ากัดผลพวงจากตลาดหุ้นไทยเสี่ยงถูกปรับลดประมาณการช่วงถัดไป เชิงกล ยุทธ์จึงแนะนักลงทุนทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่ราคาปรับลงมา (ADVANC CPALL MINT) ส่วนหุ้นแนะนำภายในเดือน ต.ค. ได้แก่ ธนาคาร (BBL KBANK SCB) ส่งออก (ASIAN TU)
.

.
บล.พาย ออกบทวิเคราะห์ กลยุทธ์เดือน ต.ค. ระบุว่า หากพิจารณาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายๆชนิด อาทิ น้ำมันดิบ BRT และราคาแก๊สธรรมชาติ พบว่าราคาน้ำมันดิบและแก๊ส ธรรมชาติเฉลี่ยในเดือน ก.ย.ปรับลดลงมา 6.5% และ 8.6% ตามลำดับ ดังนั้น มีความเป็นไปได้ที่เงินเฟ้อสหรัฐฯสำหรับเดือน ก.ย.ที่มีกำหนดรายงานช่วงวันที่ 13 ต.ค. เชื่อว่าจะไม่เป็นปัจจัย กดดันตลาดหุ้นอย่างมีนัยยะมาก ผลจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เริ่ม ปรับลดลงมา แต่อย่างไรก็ตามเป็นเพียงการประเมินเบื้องต้นเท่านั้น เพราะต้องดูราคาสินค้าอื่นๆประกอบด้วย (อสังหาฯ ค่าบริการทาง การแพทย์ ราคาขายรถยนต์)
.
.
ดังนั้น หากทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมามิได้ร้อนแรงมาก หรือใกล้เคียงคาดก็มีความเป็นไปได้ที่ ตลาดจะปรับมุมมองกับดอกเบี้ย ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 26 ก.ย. ตลาดเชื่อว่าในการประชุมต้นเดือน พ.ย. FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ย อีก 0.75% ด้วยน้ำหนัก 74.2% แต่หากเงินเฟ้อออกมา มิได้ร้อนแรงมากนักหรือต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ ก็มีความเป็นไปได้ ที่ตลาดจะปรับมุมมองต่อดอกเบี้ยใหม่ในทิศทางที่เข้มงวดน้อยลง (บวกกับตลาดหุ้น) ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้น Dow Jones ก็ปรับลงมา จากจุดสูงสุดก่อนหน้า 13% เรียกได้ว่า Price In ปัจจัยลบไปพอสมควร
.
.
หากเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ข้างต้น บล.พายคาดว่า มีความเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวได้บ้างในเดือนนี้และเป็นปัจจัยหนุนต่อ SET อย่างไรก็ตาม หากเงินเฟ้อสหรัฐฯประกาศ ออกมาร้อนแรงหรือสูงกว่าตลาดคาดตลาดหุ้นก็มีโอกาสปรับตัวลง
.
.
เมื่อพิจารณาปัจจัยฤดูกาลพบว่าในช่วง ต.ค. - ธ.ค. (ไตรมาสสี่ของ ทุกปีพบว่า) หากย้อนหลังกลับไป 31 ปีย้อนหลัง (1990 –2021) พบ ข้อมูลน่าสนใจคือช่วงเดือน ต.ค. ของทุกๆปี ตลาดมักจะให้ ผลตอบแทนเป็นบวก (55%) ขณะที่พิจารณาไปยังเดือน พ.ย. ของ แต่ละปีพบว่าข้อมูลที่ได้ก็ใกล้เคียงกันกล่าวคือตลาดหุ้น พ.ย. มักให้ ผลตอบแทนเป็นบวกเมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. และสุดท้ายเดือน ธ.ค. พบว่าความน่าจะเป็นในการปรับขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน พ.ย. ยิ่ง สูงขึ้นด้วยโอกาส 19 ครั้งจากทั้งหมด 31 ครั้ง
.
.
ดังนั้น เมื่อนำปัจจัยฤดูกาลมาประกอบกับปัจจัยพื้นฐานอย่างประเด็นผ่อนคลายเงินเฟ้อและดอกเบี้ยประกอบกับตลาดหุ้น Dow Jones ก็ปรับลงมาแล้ว 13% จากจุดสูงสุดเดิม จึงมีความเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นเดือน ต.ค. จะเห็นการฟื้นตัวได้ขณะเดียวกันประเทศไทยมีปัจจัยบวกหนุนจากการท่องเที่ยว
.
.
ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยในเดือน ส.ค. ที่ 1.174 ล้านราย (+4.5%MoM) และมีแนวโน้มจะเร่งขึ้นต่อในช่วง ต.ค. - ธ.ค. เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาล
.
.
แม้จะมีมุมมองว่าตลาดหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวหนุนจากหลายๆปัจจัย บวกที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม Upside ด้านบนเชื่อว่าจำกัด เนื่องจากตลาดหุ้นไทยเสี่ยงจะถูกปรับลดประมาณการกำไรในช่วงถัดไป
.
.
หากพิจารณาราคาน้ำมันดิบ Brent กับทิศทางกำไรของ SET จะพบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างกันค่อนข้างชัดเจน ด้วยค่า Correlation 60% ส่วนนึงเป็นเพราะว่ากลุ่มพลังงานมีมูลค่าอุตสาหกรรม (Market Capitalization) ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯและ ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ยังเป็นปัจจัยมหภาคขนาดใหญ่ที่คอยกดดันตลาดหุ้น สะท้อนผ่าน Bloomberg Consensus ปรับเพิ่มโอกาสที่สหรัฐฯเข้าสู่ถดถอยมากขึ้นต่อเนื่อง
.
.
ล่าสุดให้โอกาสที่สหรัฐฯจะเข้า สู่การถดถอยใน 1 ปีจากนี้ราว 50%
.
.
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน บล.พายแนะนำนักลงทุนระยะกลาง - ยาว มองเป็นจังหวะเริ่มทยอยสะสมในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีที่ราคาปรับลงมาลึก (ADVANC CBG CPALL KCE MINT) ส่วนหุ้นแนะนำประจำ เดือน ต.ค. ที่มีปัจจัยบวก อาทิ ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB) หุ้นส่งออก (ASIAN TU) รับแรงหนุนจากเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า .
.
SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 139.00 บาท) คงประมาณการอัตราการเติบโต ของกำไรสุทธิที่ 12% YoY (ยังไม่รวมผลบวกจากโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้) สำหรับปี 2022 และ 11% YoY ในปี 2023 หนุนจากการตั้ง สำรองหนี้ฯ ที่ลดลงและรายได้การดำเนินงานที่สูงขึ้น ขณะที่คาดถึงอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 4.9% ในปี 2022 นอกจากนี้มองว่าการประกาศ ยกเลิกการซื้อ Bitkub ทำให้ตัดความกังวลที่ถ่วงราคาหุ้น SCB ออกไป
.
.
โดยการยกเลิกการซื้อ Bitkub จะไม่ส่งผลต่อประมาณการผลการดำเนินงานของ SCB
.
.
TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 24.30) คาดว่าผลประกอบการงวด 3Q22 ของ TU ยังเป็นอีกไตรมาสที่ออกมาดีจากปัจจัยบวกเรื่องธุรกิจอาหารสัตว์และอาหารทะเลแปรรูปยังเติบโตดีรวมกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง 9%YoY โดยเราคาด ก าไรสุทธิที่ 2,039 ลบ. (+5%YoY,26%QoQ)
.
.
วทัญ จิตต์สมนึก
ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย