ห้องเม่าปีกเหล็ก

การมี License ส่งผลต่อการประสบความสำเร็จในการลงทุนขนาดไหน?

โดย Yoo
เผยแพร่ :
70 views

การมี License ส่งผลต่อการประสบความสำเร็จในการลงทุนขนาดไหน?

 

            เรามักได้ยินคำที่กล่าวถึงในแวดวงการลงทุนอยู่บ่อยครั้งว่า การครอบครองใบอนุญาตทางการเงินนั้น ไม่ได้มีผลต่อทักษะการลงทุนสักเท่าไหร่ หรือ คนที่ลงทุนประสบความสำเร็จตั้งมากมายก็ไม่เห็นต้องมีความรู้ทางการเงินตามทฤษฎีที่เรียนๆกัน

 

            วันนี้เราจึงขอนำเสนอ บทวิจัยที่ทำการศึกษา ถึง “ทักษะทางการเงิน” และ “ทักษะทางการเงินขั้นสูง” ว่ากลุ่ม ลูกค้าและผู้ให้บริการทางการเงินมีระดับทักษะทางการเงินแตกต่างกันหรือไม่อย่างไร พร้อมทั้งศึกษาถึงปัจจัยที่ทำให้กลุ่มตัวอย่างทั้ง 2 กลุ่มนั้นมีทักษะทางการเงินที่แตกต่างกัน

 

โดยทางผู้วิจัยจึงได้ทำการแบ่งกลุ่มตัวอย่างเป็น 2 กลุ่ม

  1. ลูกค้า
  2. ผู้ให้บริการทางการเงิน

 

            เมื่อได้ทำการวิเคราะห์เปรียบเทียบ พบว่า กลุ่มผู้ให้บริการทางการเงินมีระดับทักษะทางการเงินสูงกว่ากลุ่มลูกค้า อยู่ 3 ด้าน ประกอบไปด้วย ด้านพฤติกรรมทางการเงิน ด้านความรู้ทางการเงิน และด้าน ความรู้ในความเสี่ยงและผลตอบแทน

 


 

จากผลการวิจัยพบว่า

1.ด้านทัศนคติทางการเงิน  ไม่มีความแตกต่าง ระหว่างกลุ่มลูกค้าและผู้ให้บริการกันอย่างส้ินเชิง ทัศนคติทางการเงิน ระหว่างกลุ่มตัวอย่างทั้ง 2 กลุ่มนั้น ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญ

2.ด้านทักษะทางการเงิน พบว่าทักษะทางการเงินในเกือบทุกด้านของผู้ให้บริการ ทางการเงินสูงกว่ากลุ่มลูกค้าอย่างมีนัยยะสำคัญ

 

          ปัจจัยที่ส่งผลด้านบวกสำหรับทักษะทางการเงิน คือ ปัจจัยด้านเพศชาย,อาชีพนักเรียน-นักศึกษา,ระดับการศึกษา ต้ังแต่ปริญญาตรีขึ้นไป, ระดับรายได้กลาง-สูง ,ความกลัวความเสี่ยง (Risk Aversion),การใช้คำแนะนำจากผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน ตลอดจนจำนวนใบอนุญาตทางการเงิน จากผลการศึกษาน้ี สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของใบอนุญาตทางการเงินท่ีมีผลต่อระดับทักษะทางการเงิน

 

          ปัจจัยท่ีส่งผลกระทบทางลบกับระดับทักษะทางการเงินน้ันประกอบไปด้วย เพศ หญิง , ช่วงอายุ 26-35 ปี , สถานภาพการหย่าร้าง/หม้าย/แยกกันอยู่ , ระดับการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี , ระดับรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท , ความกลัวความเสี่ยง

 

 

ในส่วนของผู้ให้บริการทางการเงิน พบว่า

          ปัจจัยที่ส่งผลด้านบวกสำหรับทักษะทางการเงิน คือ ด้านเพศชาย , ระดับรายได้ ,ระดับการศึกษาตลอดจนจานวนใบอนุญาตทางการเงิน

          ปัจจัยที่ส่งผลด้านลบสำหรับทักษะทางการเงิน คือ เพศหญิง , ช่วงอายุ 26-35 ปี ระดับรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท และในด้านความมั่นใจของกลุ่มตัวอย่างผู้ให้บริการทางการเงิน

 

           จุดร่วมท่ีสำคัญของการวิเคราะห์ในส่วนน้ีพบว่า ปัจจัยด้านสถานภาพในส่วนของเพศ , รายได้ , การศึกษา, จำนวนใบอนุญาตทางการเงินตลอดจนความมั่นใจน้ัน มีลักษณะความสัมพันธ์ต่อทักษะทางการเงิน เป็นไปในรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน ท้ังในกลุ่มลูกค้าและผู้ให้บริการทางการเงิน

 

           นอกจากนี้ยังพบอีกว่า ระดับความมั่นใจ ของทั้ง 2 กลุ่มตัวอย่างมีผลในทิศทางลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ซึ่งการที่มีความมั่นใจในตนเองท่ีสูงข้ึน อาจจะทำให้เกิดผลกระทบในการตัดสินใจทางการเงินการลงทุน ขณะที่การครอบครองใบอนุญาตทางการเงินท่ีสูงข้ึนน้ันย่อมมีผลต่อระดับทักษะทางการเงิน

 

ในด้านทักษะทางการเงินขั้นสูง เป็นทักษะทางการเงินที่ได้เพิ่มคำถามในส่วนของ ความรู้ด้านความเสี่ยงและผลตอบแทนเพิ่มเข้าไป โดย

          ปัจจัยท่ีมีผลต่อระดับทักษะทางการเงินขั้นสูงในทางบวกน้ัน ประกอบไปด้วย ปัจจัยด้านเพศชาย,อาชีพนักเรียน-นักศึกษาและอาชีพอื่นๆ(ในท่ีนี้คือกลุ่มนักลงทุนอิสระ), ระดับการศึกษาต้ังแต่ปริญญาตรีข้ึนไป, ระดับรายได้กลาง-สูง ,ความกลัวความเสี่ยง (Risk Aversion), การใช้คำแนะนำจากผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน และจำนวนใบอนุญาตทางการเงินให้ผลในทางบวก พบว่า กลุ่มตัวอย่างลูกค้าที่มีอาชีพอื่นๆเป็นนักลงทุนอิสระ ซึ่งกลุ่มอาชีพดังกล่าว มีลักษณะเฉพาะคือมี ระดับทักษะทางการเงินในหมวดความรู้ในความเสี่ยงและผลตอบแทนอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ระดับ ทักษะทางการเงินขั้นสูง สูงตามไปด้วย

 

 

            จากผลการศึกษา พบว่าทักษะทางการเงิน และ ทักษะทางการเงินขั้นสูง  ของ กลุ่มตัวอย่างทั้ง 2 กลุ่ม นั้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ แต่เมื่อพิจารณาลงไปในรายละเอียดแล้ว พบว่าในด้านทัศนคติทางการเงิน เป็นทักษะเพียงด้านเดียวที่ไม่มีความแตกต่างกัน และนอกจากนี้ การถือครองใบอนุญาตทางการเงิน นั้น เป็นสิ่งที่รับรองได้ถึงการมีระดับทักษะทางการเงิน และระดับทักษะทางการเงินขั้นสูง

 

            จากบทวิจัยดังกล่าว เป็นเพียงการวิจัยตามการคัดเลือกปัจจัยจำนวนหนึ่งเท่านั้น สำหรับการลงทุนนั้น ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากที่ไม่ได้อยู่ในขอบเขตการวิจัยนี้ เช่น ประสบการณ์การลงทุนของนักลงทุน ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษาการลงทุน ล้วนมีผลอย่างมากต่อการสร้างผลตอบแทนในตลาดทุน ดังนั้น ผู้เขียนจึงมีความเห็นว่า หากมีความตั้งใจในการศึกษา มีจิตวิทยาการลงทุนที่ถูกต้องแล้ว การลงทุนก็จะไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถอีกต่อไป

 

 

 

- Yoo -

อ้างอิง : บทวิจัยการวัดระดับทักษะการเงินและการมีส่วนร่วมในตลาดทุน

            คุณวิศกรณ์ คีรีวรรณ


Yoo