ไปอ่านบทวิเคราะห์ของกสิกรมาครับ น่าสนใจมาก
------------------------------
EEC หรือ โครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เป็นแผนยุทธศาสตร์ต่างประเทศภายใต้ไทยแลนด์ 4.0 ที่ต่อยอดความสำเร็จมาจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ Eastern Seaboard ที่ดำเนินมาตลอดกว่า 30 ปีที่ผ่านมา โครงการนี้เป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้ประเทศมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ด้วยการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ย 8% ต่อปีจนกระทั่งวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง จากการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม 32 แห่ง รองรับโรงงานกว่า 5,000 โรง การสร้างท่าเรือน้ำลึกแห่งแรกของไทยบริเวณแหลมฉบังและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ส่งผลให้พื้นที่ภาคตะวันออกกลายเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมสำคัญ อาทิ ศูนย์การผลิตปิโตรเคมีที่มีขนาดใหญ่เป็น 1 ใน 5 ของเอเชีย และศูนย์กลางการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ หรือ “Detroit of the East” ด้วยความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานเดิมนี้เอง ประกอบกันทำเลที่ตั้งที่มีความได้เปรียบในการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค รวมทั้งชื่อเสียงและมาตรฐานระดับโลก โครงการ EEC จึงเป็นความหวังใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศในยุคอุตสาหกรรม 4.0
ที่มา : https://www.scbeic.com/th/detail/product/3544
------------------------------
เดินหน้า อีอีซี
KS Research คาดว่าตลาดจะกลับมาให้ความสนใจต่อกลุ่มนิคมฯอีกครั้ง หลังวานนี้รองนายกรัฐมนตรี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กล่าวในงานสัมนา โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก "อีอีซีไม่มีไม่ได้" โดยยืนยันว่าโครงการอีอีซีมีความจำเป็นที่จะต้องเกิดให้ได้ และรัฐบาลจะผลักดันโครงการอีอีซีจนถึงวันสุดท้าย แม้จะเหลือเวลาทำงานอีกแค่ 1 ปี สำหรับ พ.ร.บ.อีอีซี คาดว่า สนช.จะพิจารณาแล้วเสร็จภายในไม่กี่วันนี้ และจะผลบังคับใช้เดือน ก.พ. ซึ่งจะทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจเข้ามาลงทุนมากขึ้น
กลุ่มนิคมฯซึ่งปรับลดลงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามความกังวลเลื่อนเลือกตั้งและการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่จะรุนแรงมากขึ้น โดย AMATA ร่วง 11.5% WHA ลง 3.6% TICON ลบ 1.3% KS Research มองเป็นโอกาสในการเข้าเก็บเพิ่ม คาดว่าด้วยความความคืบหน้า พ.ร.บ.อีอีซี ที่ใกล้จะประกาศใช้เร็วๆนี้ และการยืนยันเดินหน้าโครงการอีอีซีของรัฐบาล จะทำให้กลุ่มนิคมฯโดยเฉพาะที่อยู่ในบริเวณพื้นที่อีอีซี ทั้ง AMATA และ WHA พลิกกลับมานำตลาดอีกครั้ง
KS Research เลือก AMATA เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม โดย พ.ร.บ.อีอีซีที่กำลังจะประกาศใช้ จะช่วยเพิ่มยอดขายที่ดินปี 2561 ขึ้นจากระดับต่ำในปี 2560 และจะช่วยเพิ่มมูลค่าที่ดินให้สูงขึ้นด้วย ทั้งนี้ด้วยการที่ อมตะ ซิตี้ ชลบุรีและอมตะ ซิตี้ ระยองจะเป็นส่วนหนึ่งของ 21 เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ (SIPZ) ทำให้โครงการทั้งสองสามารถมอบสิทธิประโยชน์ด้านภาษีและที่ไม่ใช่ภาษีที่น่าดึงดูดมากที่สุดให้กับกลุ่มนักลงทุนได้ ส่วนธุรกิจรายได้ประจำก็เติบโตอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมต้นทุนการดำเนินงานแล้ว สำหรับในระยะยาว การพัฒนาโครงการในเวียดนามและเมียนมาจะช่วยสร้างศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่งให้กับ AMATA ได้ ส่วนประเด็นทางการเมืองที่อาจกระทบต่อราคาหุ้นในระยะสั้นก็จะช่วยสร้างจุดเข้าซื้อที่ดีขึ้นสำหรับนักลงทุนระยะยาว ราคาหุ้นปัจจุบันถือว่าน่าสนใจมาก ด้วย Upside ที่สูงถึง 26% จากมูลค่าพื้นฐาน 31.5 บาท แนะนำซื้อต่อเนื่อง
ดัชนี VIX Index พุ่ง 25% ทำจุดสูงสุดในรอบ 2 เดือนที่ 13.84 จุด สะท้อนความผันผวนของ S&P500 Index ที่มีมากขึ้น ทั้งนี้แม้ VIX Index จะยังห่างไกลจากระดับที่ต้องเฝ้าระวังความเสี่ยงการปรับฐานหนักที่ 20-25 จุด แต่ก็ประมาทการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วของ VIX Index ไม่ได้ มองว่าความเสี่ยงที่มีมากขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐจะเป็น Sentiment ลบสำหรับตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ รวมถึง SET Index ที่จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย
มูลค่าการซื้อขายใน SET Index วานนี้มีเพียง 5.43 หมื่นล้านบาทต่ำที่สุดตั้งแต่เปิดปี 2561 มา และต่ำกว่ามูลค่าเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีที่ 7.85 หมื่นล้านบาทค่อนข้างมาก สะท้อนว่าการปรับเพิ่มขึ้นของดัชนี 0.47% ได้รับการสนับสนุนจากเม็ดเงินลงทุนใหม่ๆที่น้อยลง ทำให้เริ่มเห็นระดับสภาพคล่องที่จำกัดมากขึ้น นับจากนี้จึงควรระวังแรงขายทำกำไรเพื่อระบายของหรือเพื่อสลับการลงทุน ซึ่งจะทำให้ดัชนีเข้าสู่โหมดพักตัวและกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบที่จำกัดระหว่าง 1,827 – 1,840 จุด กลยุทธ์การลงทุนในช่วงเวลานี้ควรหลีกเลี่ยงกลุ่มหุ้นที่ไม่เหลือ Upside และสลับมาเน้นลงทุนในหุ้นที่มี Upside สูง (เกิน 10%) AMATA SSP STEC COM7 ROBINS INTUCH TISCO JWD ADVANC BBL SPALI ORI SC เป็นต้น
ในกลุ่มหุ้นข้างต้น KS Research มอง SSP เริ่มน่าสนใจ หลังนักวิเคราะห์กลุ่มพลังงานได้ทำการปรับประมาณการณ์และราคาเป้าหมายขึ้นจนทำให้ Upside ที่สูงถึง 25.5% จากมูลค่าพื้นฐาน 10.10 บาท โดยคาดว่าผลประกอบการในงวด 4Q60 จะมีกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท -14% YoY และ -3% QoQ มองเป็นจุดต่ำสุด ในช่วงใกล้ประกาศงบราคาหุ้นอาจถูกกดดันด้วยความกังวลกำไรที่ย่ำแย่แต่จะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเพื่อลุ้นการ Turnaround ในปี 2561
กลยุทธ์การลงทุน : วันนี้คาด SET Index จะพักตัวในกรอบ 1,827-1,840 จุด เลือก AMATA BBL SSP เป็นหุ้นเด่น โดยยังคงมุมมองว่าดัชนีจะไปทดสอบ 1,850 และ 1,870 จุดในเดือน ก.พ. ให้ถือ Let profit run ในธีมการลงทุน
1) วัฐจักรการลงทุน นิคมฯและขนส่ง AMATA WHA TICON JWD ธนาคาร BBL TISCO รับเหมาฯ STEC PYLON
2) การฟื้นตัวของอุปโภคบริโภคในประเทศ ค้าปลีก CPALL CPN ROBINS อสังหา SC SPALI ORI การเงิน MTLS
3) การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและหุ้นชดเชยเงินเฟ้อ พลังงาน PTT PTTEP GUNKUL ปิโตรเคมี PTTGC IVL
ประกิต สิริวัฒนเกตุ
นักกลยุทธ์การลงทุน
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย