เรื่องเล่าจากหญิงแม้น

ฝนตกช่วงประมานสี่โมงเย็นติดต่อกันสองสามวันแล้ว ยามเมื่อฝนตกลงสู่พื้น

 ฝนอาจจะทำให้คนเหงา

ฝนอาจจะทำให้คนเปียก

ฝนอาจจะทำให้คนไม่สบาย

ฝนอาจจะทำให้คุณคิดถึงใครบางคน

ฝนอาจจะทำให้คนเศร้า

ฝนอาจจะทำให้ใครเซ็ง

ฝนอาจจะทำให้คุณไปตามนัดสาย

ฝนอาจจะทำให้คนชุ่มชื่น

ฝนอาจจะทำให้ใครต่อหลายคนมีอารมณ์ต่างๆนาๆ

วันนี้ตั้งใจทำสปาเก็ตตี้ไว้ให้ลูกสาวไว้ทานตอนกลับจากโรงเรียน แต่ลูกกลับอยากกินข้าวกับไข่เจียว ฮาๆกลายเป็นว่าเราเข้าใจไปเองว่าเค้าน่าจะชอบในสิ่งที่เราทำไว้ให้ คิดเองเออเองตัดสินใจในความชอบความรุ้สึกแทนเค้าแล้วทึกทักเอาเองว่าเค้าต้องการในสิ่งที่เราอยากให้ แต่ในความเป็นจริงการตัดสินใจที่แท้จริงอยู่ที่ตัวผู้เสพ

คืนนี้ตั้งใจว่าจะดูบอลคู่ไทยกับซาอุฯ ระหว่างรอก็เปิดโน๊ตบุ๊คท่องอินเตอร์เน็ตไปเรื่อยเปื่อย ทำให้อดคิดถึงความหลังตามประสามนุษย์ที่เกิดในยุค 70 ว่ายุคสมัยนี้การเสพข่าวสารมันช่างสะดวกจริง เวปฯเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆมีมากมายให้เสพ นึกสมัยตัวเองเข้ามาเป็นเม่านักลงทุนใหม่เมื่อเกือบยี่สิบปีที่แล้ว การเสพข่าวสารมันช่างยากเย็นซะจริง ยุคนั้นเทรดหุ้นค่าคอมโบรกฯล้านละห้าพัน เดี่ยวอย่างที่รู้ๆกันอยู่ สมัยนั้นใครมีบิสนิวส์ดูนี้สุดยอด เดี่ยวนี้เหรอต้องข้อมุลแบบไหนละจะเอาแบบฟรีหรือเสียตังค์

เคยมีคนถามว่าตลอดช่วงเวลาที่เป็นเม่ามาลงทุนในตลาดหุ้นจนถึงวันมีเคล็ดลับอะไรในการเลือกหุ้นลงทุน

อืม..คิดๆ..ก็ไม่ได้มีเคล็ดลับตื่นเช้ามาก็หาเวปฯอ่านข่าวทั่วไปเกียวกับหุ้นว่าวันนี้หุ้นตัวไหนมีข่าวบ้างพวกนักวิเคราะห์ดังเชียร์หุ้นตัวไหนบ้าง วันนี้มีซุบซิบเกี่ยวกับหุ้นตัวไหนบ้าง เพราะจากประสบการณ์ของตัวเองหุ้นที่เล่นเก็งกำไรระยะสั้นส่วนใหญ่ก็เล่นจากพวกหุ้นที่มีข่าว ส่วนถ้าจะลงทุนในหุ้นพวกมีปันผล กิจการเติบโตอันนั้นก็ว่ากันไปอีกเรื่องนึงในการหาข้อมูล

อืม..แล้วพวกบทความคุณภาพที่เขียนเกี่ยวกับการลงทุนละมีประโยชน์และนำมาใช้ได้ไม่...

พวกบทความงานเขียนดีมันมีประโยชน์แน่นอนอยุ่แล้วแต่จะเอามันมาใช้ตอนไหนล่ะ เคยได้ยินประโยคนี้ไม่..

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน...

คำถามคือ ถ้าผมอ่านบทความเรื่องการลงทุนเล่นหุ้นสักตัว  บอกว่าต้องทำแบบนั้น ต้องทำแบบนี้ " อย่างนั้นดี อย่างนั้นไม่ดี หุ้นตัวนั้นดีแบบนั้น ดีแบบนี้ ถ้าจะซื้อก็ขอแนะนำ เพราะกระแสดี, อนาคตไกล, เจ้าของหัวทันสมัย, บลาๆๆๆๆ" แต่สุดท้ายก็ลงท้ายที่ประโยคด้านบนอีกเช่นเคย...

คำถามคือ ถ้ามันดีจริง แล้วเราทำตามเขาก็น่าจะได้ดีสิ ทำไมต้องศึกษาอีก และมันมีความเสี่ยงเหรอที่จะทำตามทั้งที่เขาอวยว่ามันดีหนักหนา ทำไมไม่เหมือนหนังสือสอนทำขนม ที่ทำตามแล้วก็ได้ขนม, หนังสือสอนเลข ที่บวกตามแล้วก็ได้คำตอบที่ถูก

แสดงว่าสุดท้ายการตัดสินใจก็อยู่ที่ตัวเรา, เขาแค่ลงท้ายไว้เพื่อบอกความหมายแฝงว่า...

"ถ้ามึงเล่นตามกูแล้วเจ๊งขึ้นมา กูไม่รับผิดชอบนะครับ" ฮาๆขำๆนะ

เขียนมาถึงตอนนี้บอลคู่ไทยกับซาอุเริ่มการแข่งแล้ว หันไปดูดาวโจนส์ ลบอยู่ -3.18 จุด คงต้องขอตัวไปลุ้นบอลก่อนไว้มีโอกาสค่อยมาเล่าเรื่องราวไร้สาระบ้างมีสาระบ้างตามประสา ก็อยากเขียนอะไรดีๆเหมือนกับคนอื่นเค้าบ้างเหมือนกันแต่ถนัดแนวเล่าสู่กันฟังมากกว่า แต่ก็พยายามทำดีที่สุดในจุดที่ยืน เหมือนคำกล่าวของคุณ แพท ภาววิทย์ กลิ่นประทุม ช่างเป็นคำพูดที่โดนซะจริงๆ  "ทำดีที่สุดในจุดที่ยืน" อย่างน้อยวันนี้เราก็ยังได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำ ได้ทำในสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข ได้แบ่งปันสิ่งที่เราคิดว่าดีให้แก่นักลงทุนรายย่อยด้วยกัน สังคมแห่งการแบ่งปัน เพราะชีวิตมันมีอะไรมากกว่าแค่เรื่องของการลงทุน ว่ามั้ย

หญิงแม้น