Deglobalization ปรับตัวอย่างไร เมื่อโลกไม่ร่วมมือกันเหมือนเดิม

ตอนที่ผู้เขียนยังเป็นนักเรียน มักจะท่องจำตามๆ กันว่าโลกของเรามีความเป็น "โลกาภิวัตน์"
หรือมีศัพท์ที่เรียกว่า #Globalization คือ ส่งผลต่อการขยายกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศต่างๆ ในโลก ทั้งด้านการค้า การลงทุน การเงิน การเคลื่อนย้ายปัจจัยการผลิต การขนส่งและโลจิสติกส์ สองทศษวรรษที่ผ่านมานานาประเทศล้วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจของตนตามกระแสโลกาภิวัตน์
.
พูดง่ายๆ คือ ทั่วโลกมีการเชื่อมโยงกัน มีการร่วมมือกัน เพื่อให้เศรษฐกิจและเทคโนโลยีเติบโตไปด้วยกัน
แต่ปรากฏว่าในปัจจุบัน ภาพแบบนั้นได้เลือนหายไป กลายเป็นกระแส Deglobalization หรือ "การทวนกระแสโลกาภิวัตน์"
.
จริงๆ แล้วกระแส #Deglobalization ไม่ใช่เรื่องใหม่
แต่มีการพูดถึงต้ังแต่สมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีนโยบายกีดกันทางการค้า
และมักจะพูดออกสื่ออยู่เสมอว่า "Buy American, Hire American" หรือ ซื้อสินค้าอเมริกาด้วยคนอเมริกัน
.
พอเข้าสู่ยุคของโจ ไบเดน เขาเคยกล่าวปาฐกถาเกี่ยวกับความท้าทายอยู่ 2 เรื่อง คือ
1. Geopolitics Competitors หรือ คู่แข่งทางภูมิรัฐศาสตร์
2. Transantional Challenges หรือ โจทย์ท้าทายระหว่างประเทศร่วมกัน
ทางอเมริกาจึงวางกรอบเชิงกลยุทธ์ คือต้องการให้ระเบียบระหว่างประเทศ (International Order) มีลักษณะเสรี เปิดกว้าง รุ่งเรือง และปลอดภัย
ต้องการรักษาความเป็นประเทศมหาอำนาจในโลกเหนือขั้วอำนาจจีนและรัสเซีย
และต้องการเอาชนะคู่แข่งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีเจตนาจะเปลี่ยนขั้วอำนาจ สิ่งนี้นับเป็นวาระโลกเร่งด่วนที่สหรัฐฯ ต้องเร่งดำเนินการให้ลุล่วงภายในช่วงทศวรรษนี้
พูดง่ายๆ คือ ใครที่คิดจะมาท้าทายสหรัฐฯ หรือพยายามเปลี่ยนขั้วอำนาจ
ทางภาครัฐอเมริกาไม่ยอมอย่างแน่นอน...

อ่านต่อ : https://bit.ly/45TC8UF