คาด SET วันนี้ดิ่งต่อ รับน้ำมันทรุดหนัก เผยโฉม 8 หุ้นเด่น ไตรมาส 4 เติบโต
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ ประเมิน SET อ่อนตัว 1,365 - 1,370 จุด แม้คาดการณ์ว่า FED จะคงดอกเบี้ย 5.25 - 5.50% ในการประชุมครั้งนี้หลังดัชนี CPI ทั่วไปของสหรัฐ +3.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามคาด อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงแรงจากความกังวลด้าน Demand จะเป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน อีกทั้ง Fund flow ต่างชาติที่ไหลออก ต่อเนื่องจะกดดันให้ดัชนีอ่อนตัวลง
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน Selvectie buy หุ้น GULF GPSC BGRIM SCGP SCC EPG อานิสงส์ต้นทุนพลังงานอ่อนตัวลง KCE HANA อานิสงส์เงินบาทอ่อนตัวลง และ WHA AMATA CBG TU ITC AUCT PLANB SABINA แนวโน้มไตรมาส 4/66 เติบโต
ส่วนหุ้นแนะนำวันนี้ EPG (ซื้อ/เป้า IAA Consensus 8.75 บาท) ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วสะท้อนจากผลกำไรสุทธิในไตรมาส 2/67 (ก.ค. - ก.ย.66) เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 431 ล้านบาทสูงสุดในรอบ 9 ไตรมาส ขณะที่วันนี้ได้ Sentiment บวกจาก ราคาน้ำมันดิบร่วงแรงส่งผลดีต่อแนวโน้มต้นทุนการผลิตที่ลดลงหนุนให้ GPM เพิ่มขึ้น
III (ซื้อ/เป้า 14.80 บาท) ราคาร่วงลงราว 23% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาทำให้ Valuation เริ่มน่าสนใจ ระยะสั้นมี Sentiment บวกอัตราระวาง ขนส่งทางอากาศฟื้นตัวแรงส่งผลบวกโดยตรงต่อธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบิน (GSA) ซึ่งในตลาดหุ้นไทยมี III ดำเนินการเพียงผู้เดียวโดยถือหุ้นผ่าน ANI ซึ่งกำลังจะเข้าซื้อขายพรุ่งนี้เป็นวันแรก)
ประเด็นสำคัญวันนี้ สหรัฐรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ย. In line กับที่ตลาดคาดไว้ทั้งเงินเฟ้อทั่วไปและเงินเฟ้อพื้นฐาน โดยมีอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline CPI) ใน เดือน พ.ย. ที่ 3.1% ลดลงจาก 3.2% ในเดือน ต.ค. ตามที่ตลาดคาด ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ทรงตัวที่ระดับ 4% เท่ากับเดือน ต.ค. และเป็นไป ตามที่ตลาดคาดไว้เช่นกัน
อีกทั้งน้ำมันดิบร่วงต่ำสุดในรอบ 6 เดือน กังวลเฟดคงดอกเบี้ยสูงนานกดดันดีมานด์น้ำมัน โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.71 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 68.61 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเงินเฟ้อลดลงช้ากังวลเฟดคงดอกเบี้ยสูงเป็นเวลานาน กดดันดีมานด์ในอนาคต และไม่มั่นใจข้อตกลงของกลุ่ม OPEC ลดการผลิต 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันเพราะเป็นแบบสมัครใจไม่ได้บังคับ
ขณะที่คืนนี้มี FED Meeting จับตาถ้อยแถลงของประธานเฟด, Dot Plot และ คาดการณ์ GDP ปีหน้าของสหรัฐ: เราคงมุมมองเดิมคาดเฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ ระดับ 5.25-5.5% ตามเดิม ซึ่งตลาดรับรู้ไปแล้ว แต่มีสิ่งที่ต้องติดตามเพิ่มและอาจ สร้างความผันผวนให้กับตลาด คือ การกล่าวถ้อยแถลงของประธานเฟดหลังการ ประชุม, FED Dot Plot บอกแนวโน้มและจำนวนครั้งในการลดดอกเบี้ยปีหน้า รวมไปถึงคาดการณ์ GDP ของสหรัฐเพื่อหาสัญญาณการเกิด Recession