โนมูระคาด "ราคาอาหาร" ในเอเชียพุ่งขึ้นอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า "สิงคโปร์-เกาหลีใต้-ฟิลิปปินส์" รุนแรงสุด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2565 ว่า ตามรายงานของ Nomura Holdings Inc. ระบุว่าราคาอาหารในเอเชียมีแนวโน้มจะร้อนแรงขึ้นอีกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยสิงคโปร์ เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเห็นการขึ้นราคาที่รุนแรงที่สุด
Nomura กล่าวในรายงานว่า ราคาอาหารในเอเชียยกเว้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 5.9% ต่อปีในเดือนพฤษภาคม จาก 2.7% ในเดือนธันวาคม โดยอัตราดังกล่าวจะเร่งขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี เนื่องจากความล่าช้าประมาณ 6 เดือนระหว่างการเคลื่อนไหวของต้นทุนอาหารทั่วโลกและผลกระทบในเอเชีย ปัญหาต่างๆ เช่น การล็อกดาวน์จากการระบาดใหญ่โควิด-19 ของจีน การระบาดของไข้หวัดหมูของไทย และคลื่นความร้อนของอินเดียทำให้เกิดความวิตก
“การรับรู้ของผู้บริโภคเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อได้รับอิทธิพลอย่างมากจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ซื้อบ่อย เช่น อาหาร และอาจนำไปสู่การคาดการณ์เงินเฟ้อที่สูงขึ้น” แถลงการณ์ระบุ พร้อมเสริมว่าจาการ์ตาและมะนิลาต้องขึ้นระดับค่าจ้างขั้นต่ำแล้วเพื่อรองรับ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น
โนมูระกล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อแพร่กระจายไปไกลกว่าซีเรียลและน้ำมันที่บริโภคได้ไปยังหมวดหมู่อื่นๆ เช่น เนื้อสัตว์ อาหารแปรรูป หรือแม้แต่การรับประทานอาหารนอกบ้าน ซึ่งข้าวที่จนถึงขณะนี้ยังคงมีสต็อกเพียงพอ อาจประาบกับปัญหาขาดแคลนต่อไปหากความต้องการเพิ่มขึ้น เนื่องจากประเทศต่างๆ แสวงหาทางเลือกอื่นแทนข้าวสาลีราคาแพง
นั่นเป็นสัญญาณเตือนสำหรับผู้นำเข้าอาหารรายใหญ่อย่างสิงคโปร์ ซึ่งคาดว่าอัตราเงินเฟ้ออาหารจะเพิ่มขึ้นเป็น 8.2% ในช่วงครึ่งหลัง จาก 4.1% ในขณะนี้ อินเดียมีแนวโน้มที่จะเห็นเงินเฟ้อด้านอาหารเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 9.1% เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ตามการประมาณการของ Nomura
ในขณะที่ธนาคารกลางของเอเชียในขั้นต้นให้คำมั่นที่จะมองผ่านผลกระทบด้านกำลังการผลิต Nomura กล่าวว่าผลกระทบรอบที่สองที่ปรากฏขึ้นจะทำให้นโยบายการเงินปกติเร็วขึ้น