TKS ผนึก SYNEX ขึ้นแท่น Tech Ecosystem Builder
เชื่อคว้างานบัตรเลือกตั้ง วางเป้าปี 66 รายได้โต 10%
ส่วน SYNEX เตรียมปิดดีล M&A 1 ราย

.
TKS และ SYNEX กางแผนปี 2566 ประกาศวิสัยทัศน์ ขึ้นแท่น Tech Ecosystem Builder โดย TKS เชื่อมีโอกาสรับงานพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ขณะที่ SYNEX มองรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 10%พร้อมหาโอกาส M&A อยู่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านบริการ (Service) คาดหวังจะสามารถสรุปได้ 1 ดีลในปีนี้ มองตลาดสินค้าคอนซูเมอร์ ยังคงเติบโต รับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่
.
นายจุติพันธุ์ มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS เปิดเผยถึงทิศทางการเติบโตทางธุรกิจในปี 2566 ภายใต้วิสัยทัศน์ “Tech Ecosystem Builder” ว่า TKS จะเดินหน้ากลยุทธ์ในการขยายการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยี (Tech) อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีการเจรจาหลายราย ซึ่งจะเข้ามาต่อยอดอีโคซิสเต็มของบริษัท ในด้านเทคโนโลยีได้
.
โดยล่าสุด ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT จำนวน 280,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 21.03% เมื่อรวมกับที่ถืออยู่เดิมจะถือหุ้นใน AIT ที่ 22.48% ซึ่งเชื่อว่าการเข้าลงทุนใน AIT จะช่วยสนับสนุนการเติบโตนอกเหนือจากสามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก AIT แล้ว ยังสามารถขยายขอบเขตการลงทุนและกระจายการลงทุนไปยังธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างธุรกิจผู้รับเหมาระบบสารสนเทศและการสื่อสารแบบครบวงจร (System Integrator หรือ SI) ให้บริการในกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน
.
ทั้งนี้มีลักษณะการขายเป็นแบบเบ็ดเสร็จ หรือ เทิร์นคีย์ (Turn Key) ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การวางแผนงาน การออกแบบระบบงาน การดำเนินการติดตั้ง การฝึกอบรม และการซ่อมบำรุงรักษา ซึ่งจะเป็นการต่อยอดธุรกิจเดิมที่ทางกลุ่มบริษัทได้ดำเนินการอยู่แล้ว และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกลุ่มบริษัท ในการเป็นส่วนหนึ่งของ Tech Ecosystem Builder ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าผลประกอบการของบริษัทในปีนี้จะสูงกว่าปีก่อนได้
.
“ปี 2566 เชื่อว่ายังเห็นการเติบโตที่ดีของ TKS แม้จะมียอดขายบางส่วนลดลง แต่บางกลุ่มก็เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังเชื่อว่ารายได้จะเติบโตได้ราว 10% ซึ่งยังเดินหน้าในการขยายการลงทุนใหม่ๆ ตามกลยุทธ์การเป็น Tech Ecosystem Builder ที่ผ่านมาก็ได้มีการสร้าง Ecosystem ไว้จำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านของ TKS ที่หลายคนมีความกังวลก่อนหน้านี้ว่าจะไม่เห็นการเติบโต จากธุรกิจเดิม แต่จริงๆ แล้วธุรกิจเดิมได้มีการวางรากฐานไว้อย่างแข็งแกร่ง การมีธุรกิจใหม่ยิ่งเข้ามาช่วยเสริม ดังนั้นน่าจะเห็นการลงทุนใหม่ๆ ต่อเนื่อง” นายจุติพันธุ์ กล่าว
.
ส่วนธุรกิจเดิมด้านการพิมพ์ มีการวางรากฐานอย่างแข็งแกร่ง ผลประกอบการยังรักษาระดับได้ และในปีนี้จะมีการเลือกตั้ง บริษัทก็มีโอกาสที่จะได้รับงานพิมพ์บัตรเลือกตั้งด้วย นับว่าเป็นอัพไซด์ให้แก่ธุรกิจด้วย รวมไปถึงบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX บริษัทในเครือก็สร้างการเติบโตได้ดี จากความต้องการไอทียังมีต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามในการเลือกตั้งครั้งก่อนบริษัทได้รับงานสำหรับการเลือกตั้งใช้บัตร 1 ใบ มีมารจิ้นประมาณ 40%
.
SYNEX หวังปิดดีล M&A ปีนี้ 1 ราย
ด้าน นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX กล่าวว่า ที่ผ่านมาซินเน็คฯ เป็นผู้นำตลาดในการเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอที ครอบคลุมสินค้ากว่า 70 แบรนด์ชั้นนำ มีช่องทางการจัดจำหน่ายกว่า 6,000 ราย และมีศูนย์บริการและพันธมิตรกว่า 75 แห่ง
.
โดยมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ และจุดเปลี่ยนต่างๆ ทั้งในทางเศรษฐกิจ และพฤติกรรมของผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็น Lifestyle การเข้าถึง Digital Platform & Connected devices การทำงานแบบ Hybrid Security&Privacy การเข้าถึงความบันเทิงต่าง ๆ รวมถึงการกลับมาของธุรกิจท่องเที่ยว วิสัยทัศน์ของบริษัท จึงมุ่งเน้นเพื่อตอบสนองและคว้าโอกาสเหล่านั้นไว้ โดยมุ่งมั่นก้าวสู่การเป็น No.1 IT Ecosystem
.
ขณะที่ปี 2566 ประเมินว่ารายได้จะเติบโต Double digit growth หรือ ระดับ 10% มองจะเป็นอีกก้าวสำคัญที่ซินเน็คฯ จะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การนำเสนอสินค้าและผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า Commercial จากการขายแบบเดิมไปสู่การนำเสนอแบบ Solution-Based โดยเป็นการนำเสนอ Solution เพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้าได้ครอบคลุมมากขึ้น และเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซินเน็คฯ จึงเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพเพื่อเข้ามาเติมเต็มระบบนิเวศให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
.
ทั้งนี้บริษัทยังคงมองหาการเข้าร่วมธุรกิจควบรวม-เข้าซื้อกิจการ (M&A) ต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มบริการ (Service) โดยคาดหวังจะสามารถสรุปได้ 1 รายในปีนี้ จากปัจจุบันที่ยังอยู่ในช่วงเจรจา มีเข้ามาประมาณ 3-4 ราย
.
สำหรับความร่วมมือของกลุ่มบริษัท ระหว่าง TKS และ AIT เป็นอีกดีลที่จะเข้ามาสนับสนุนให้บริษัทขยายบริการไปยังกลุ่มธุรกิจผู้รับเหมาระบบสารสนเทศและการสื่อสาร (SI) ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เป็นโอกาสบุกตลาดใหม่ๆ ที่มีการเติบโต ตอบโจทย์ลูกค้าในยุค Digital Transformation จากก่อนหน้านี้ ได้ขยายเข้าไปในกลุ่มสินค้าระบบเครือข่ายและความปลอดภัย (Network & Security) ที่ได้ร่วมมือกับ Cybertron ลุยเรื่อง Cybersecurity และล่าสุดจับมือ Alibaba could ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับโซลูชั่นฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ให้บริการของซินเน็คฯ ได้อย่างครอบคลุมทุกมิติ
.
นอกจากนี้ ในด้านบริการที่เป็นจุดแข็งของบริษัท ได้มีการแยกธุรกิจโซลูชั่นบริการด้านไอที ในชื่อ Service Point ., LTD. เพื่อสนับสนุนบริการหลังการขายให้พาร์ทเนอร์ ซึ่งปัจจุบันได้รับความไว้วางใจในการแต่งตั้งซินเน็คฯ ให้เป็น authorized service center ให้สินค้าไอทีและสมาร์ทโฟนกว่า 21 แบรนด์ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง สร้างความมั่นใจให้พันธมิตรใน Ecosystem ของกลุ่มบริษัท TKS และ SYNEX
.
สำหรับปี 2566 บริษัท มองตลาดสินค้าคอนซูเมอร์ ยังคงเติบโต รับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ ทั้งการเรียนการสอน การทำงาน หรือธุรกรรมออนไลน์ อีกทั้ง กลุ่มสินค้าเกมมิ่งมีแนวโน้มที่จะเติบโตไปอีกไกล จากพฤติกรรมของเกมเมอร์ยุคใหม่ และความนิยมจากกีฬา E-Sport ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ สะท้อนซินเน็คฯ อยู่ในธุรกิจสินค้าเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่เติบโตเป็นเมกะเทรนด์ขาขึ้น
.
“ปีนี้เรามีดีลใหญ่กันตั้งแต่ต้นปีในกลุ่มของบริษัท การลงทุนของ TKS ในครั้งนี้ก็เป็นผลให้ ซินเน็คฯแข็งแกร่งมากขึ้นในส่วนของกลุ่มสินค้าคอมเมอร์เชียล ก็คาดหวังว่า จะสามารถทำให้เราสร้างการเติบโตได้อย่างโดดเด่น เป็นอีก New S-Curve ให้ซินเน็คฯในพอร์ตของธุรกิจ B2B นอกจากนี้ในปี 2566 เรายังมุ่งมั่นบริหารงานโดยคำนึงถึงสังคม สิ่งแวดล้อม และบรรษัทภิบาล (ESG) สร้างการเติบโตทุกมิติอย่างยั่งยืน เพื่อสะท้อนการเป็นผู้นำไอทีอีโคซิสเต็มอย่างเต็มรูปแบบ” นางสาวสุธิดา กล่าว