ห้องเม่าปีกเหล็ก

PTTGC โบรกเกอร์ มองดาวน์ไซด์เริ่มจำกัด

โดย ัyoda
เผยแพร่ :
187 views

PTTGC ถือ 1 ปีราคาร่วง -24.69%

โบรกเกอร์ มองดาวน์ไซด์เริ่มจำกัด แนะ “ทยอยซื้อสะสม”

 

.

ในช่วงที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นสูงอาจจะเป็นกดดันให้กำไรบริษัทจดทะเบียนแต่ในเวลาเดียวกันก็มีธุรกิจบางประเภทได้รับอานิสงส์ด้วยเช่นกัน ซึ่งบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เองก็เป็นหนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์จากปัจจัยดังกล่าวจนทำให้ผลการดำเนินงานและราคาหุ้นตอบรับในเชิงบวก แต่หากมองราคาหุ้นย้อนหลัง 1 ปีมาถึงปัจจุบันก็จะพบว่าความเคลื่อนไหวของราคายังคงติดลบราว 24.69% หรือราคาลงอยู่ที่ระดับ 45.75 บาท

.

ซึ่งทำให้นักลงทุนบางรายตั้งข้อสงสัยขึ้นว่าจะโอกาสให้ลงทุนหรือควรจะรอจังหวะที่เหมาะสม ในวันนี้ทาง Wealthy Thai ขอนำคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญมาแบ่งปันให้แก่ผู้อ่านและผู้ที่สนใจ โดยนักวิเคราะห์จากบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ได้ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยกลยุทธ์ทยอยสะสมเพื่อลงทุนระยะยาวรับการฟื้นตัวของผลประกอบการปี 66 ซึ่งราคาในปัจจุบันที่ปรับตัวลงถือว่าสะท้อนความอ่อนแอของกำไรปี 65 ไปมากแล้วจึงมองว่าราคาหุ้นเหลือดาวน์ไซส์ได้อีกไม่มากนัก

.

สำหรับปี 66 ประเมินว่าผลประกอบการจะขยายตัวสูงจากปีก่อนหน้าสวนทางคู่แข่งโรงกลั่นปิโตรเคมีที่มีโมเมนตัมกำไรลดลงเมื่อเทียบปีก่อนหน้า เนื่องจากบริษัทได้ผ่านวัฏจักรปิดซ่อมบำรุงใหญ่ในปี 65 มาแล้ว ขณะเดียวกันความต้องการใช้ปิโตรเคมีในภูมิภาคฟื้นตัวจากการผ่อนปรนมาตรการควบคุมของจีนและราคาน้ำมันผันผวนลดลง

.

นอกจากนี้แรงกดดันจากอุปทานใหม่โดยเฉพาะ PE ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และยังมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของเอจีซีวีนิไทย (การควบรวมระหว่าง VNT และ AGC) สุดท้ายจะมีการรับรู้โครงการขยายกำลังผลิตHMC และโครงการ Kuraray GC ที่สามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงครึ่งหลังปี 65

.

ส่วนครึ่งปีหลังปี 65 คาดว่าแนวโน้มกำไรยังไม่สดใส เพราะการฟื้นตัวจะถูกถ่วงด้วยแผนปิดซ่อมบำรุงใหญ่โรงกลั่น 50 วัน (ช่วงเดือนต.ค. - ธ.ค.) ทำให้ได้รับประโยชน์จากโอกาสเกิด Gas-to-oil Switching ไม่เต็มที่ ขณะที่การฟื้นตัวของอัตรากำไรธุรกิจโอเลฟินส์ยังไม่ชัดเจน เนื่องจากนโยบาย Zero-Covid ของประเทศจีนที่ยืดเยื้อและสัดส่วนการใช้วัตถุดิบก๊าซ (Margin สูง) ถูกจำกัดด้วยปริมาณผลิตก๊าซในอ่าวไทย

.

ฟากนักวิเคราะห์จากบล.เอเชีย เวลท์ ให้คำแนะนำ “ถือเก็งกำไร” ด้วยภาพรวมของความต้องการที่ยังมีปัจจัยกดดันจากภาพรวมเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ค่าการกลั่นและ Spread Margin ที่อ่อนแอ รวมทั้งยังไม่มีปัจจัยบวกสนับสนุนการลงทุนระยะสั้นซึ่งในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นได้สะท้อนรับข่าวกำลังผลิตใหม่ที่เข้ามาต่อเนื่องในปี 65 – 66 ไปแล้ว

.

โดยกำไรสุทธิปี 65 ประเมินว่าจะอยู่ที่ 1.6 หมื่นล้านบาทลดลง 64% จากปีก่อนหน้าและปี 66 ไว้ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.5%จากปีก่อนหน้า โดยภาพรวมในปี 65 ยังคงมีปัจจัยลบจากการรับรู้การขาดทุนจาการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินจำนวนมากโดยเฉพาะที่เกิดขึ้นในช่วงเดือน 6 ปี 65 ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่อ่อนแอ ต้นทุนในการดำเนินงานและต้นทุนทางการเงินที่ปรับเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยกดดัน

.

อย่างไรก็ตามผลกระทบจากการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินจะเริ่มลดลงตั้งแต่ครึ่งปีหลังปี 65 ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางผลประกอบการในปี 66 ขณะที่เราคาดหมายจะเห็นการฟื้นตัวของส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในปี 66

 

 


ัyoda