ห้องเม่าปีกเหล็ก

Michael Lee-Chin นักลงทุนสวนกระแสอีกท่าน ที่คนไทยควรรู้จัก

โดย SiTh LoRd PaCk
เผยแพร่ :
151 views

(Credit ภาพ : nationwideradiojm.com)

การลงทุนสวนกระแส หรือ Contrarian Investor คือการลงทุนรู้แบบหนึ่งที่คล้ายๆกับการลงทุนแบบเน้นคุณค่าโดยการเล่นกับราคาหุ้น ในขณะที่การลงทุนแบบ VI จะเน้นซื้อหุ้นที่ดีในราคาที่ยุติธรรม

ถ้าพูดถึงการลงทุนแบบสวนกระแสแล้วนักลงทุนชาวไทยยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ที่น่าจะโดงดังมาก คือ แอนโทนี่ โบลตั้น ผู้จัดการกองทุนชาวอังกฤษ ที่ตอนนี้ได้เกษียนอายุตัวเองไปแล้ว

และนี้ก็เป็นคนอีกคนที่ชาวไทยควรรู้จักเป็นอย่างยิ่ง นักลงทุนท่านนี้ ชื่อ Michael Lee-Chin นักลงทุนและนักธุรกิจชาวจาไมก้าผู้ก่อตั้งบริษัท Portland Holdings Inc. บริษัทโฮลดิ้งที่ไปถือหุ้นธุรกิจดีๆคล้ายๆเบิร์กไซด์ฮาธาเวย์ของวอเร็น บัฟเฟตต์ก็ไม่ผิดนัก แต่ Michael Lee-Chin จะเน้นหนักไปที่สายการท่องเที่ยว สื่อสาร กลุ่มสุขภาพ และโรงพยาบาล นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทกองทุน  AIC Limited ที่ประเทศแคนาดา เขายังเป็นประธานกรรมการของธนาคารแห่งชาติจาไมก้าอีกด้วย รัฐบาลแคนาดายังยกย่องให้เขาเป็นนักธุรกิจชาวแคนาดาและก้าวขึ้นสู่มหาเศรษฐีที่ในแคนาดาและรวยที่สุดในจาไมก้าด้วยมูลค่าทรัพย์สินมากกว่า 2 พันล้านเหรียญแคนาดา

ไมเคิล ลี ชิน ยังเป็นนักบริจาคที่ใจกว้างอีกด้วย เขาได้สร้างพิพิธภัณฑ์ Royal Ontario Museum ที่รวบรวมงานศิลปะ วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยโตรอนโต้ได้ศึกษาเข้าชมฟรี และยังให้ทุนสนับสนุนก่อตั้งมูลนิธิแก่โรงพยาบาล Joseph Brant Hospital เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ยากจนให้มีโอกาสได้รับการรักษา

ไมเคิล ลี ชิน เกิดที่ประเทศจาไมก้าในปี 1951 เขาเป็นลูกผสมกันระหว่างพ่อชาวจีนที่หลีภัยสงครามมาอยู่ในประเทศจาไมก้าและแต่งงานกับแม่ของเขาซึ่งเป็นคนท้องถิ่น ต่อมาพ่อกับแม่ก็หย่าร้างกันตั้งแต่เขาอายุได้ 7 ขวบ ทำให้เขาใช้ชีวิตกับพ่อเลี้ยงทำงานอยู่ในร้านขายของชำ และแม่ของเขาทำงานเป็นเซลล์ขายเครื่องสำอางค์ Avon และพนักงานทำความสะอาดห้องสมุดประชาชน

ไมเคิล ลี ชิน เติบโตขึ้นท่ามกลางความปากกัดตีนถีบของครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวยมากนัก เขาทำงานเป็นพนักงานขนกระเป๋าให้กับโรงแรมแห่งหนึ่ง ต่อมาเขาก็ไปทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดและปูเตียงให้กับเรือสำราญ Jamaica Queen cruise ship ในปี 1970 เขาเดินทางไปแคนาดาเพื่อสอบชิงทุนรัฐบาลให้ได้เรียนต่อ และเขาก็ได้รับมันจริงๆ เขาเลือกที่จะเรียนต่อสายวิศวกรรมศาสตร์ภาคโยธาของมหาวิทยาลัยแม็คมาสเตอร์ หลังจากเรียนจบเขาก็ทำงานในสายวิศวะให้กับรัฐบาลจาไมก้า และแต่งงานกับภรรยาชาวแคนาดา แต่เนื่องจากอุปสรรคของครอบครัวที่ปรับตัวไม่ได้ทำให้เขาต้องย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในแคนาดาแทน ที่ซึ่งเต็มไปด้วยวิศวะจบใหม่ระดับหัวกะทิ เขาจึงมุ่งหน้าไปสายการเงินแทนที่จะมาแย่งตำแหน่งกับเด็กรุ่นใหม่ที่เพิ่งจะจบวิศวะ

เขาทำงานในตำแหน่งที่ปรึกษาทางการเงินในบริษัท IGM Financial ในปี 1979 เกิดเศรษฐกิจตกต่ำในประเทศแคนาดา หุ้นหลักทรัพย์หลายตัวมีราคาที่ถูกมาก เขาจึงทำเรื่องกู้เงินกับแบงค์ 5 แสนเหรียญแคนาดาเพื่อมาซื้อหุ้น Mackenzie Financial Group บริษัทการเงินเล็กๆแห่งหนึ่ง

ในปี 1987 เขาได้ลงทุนซื้อบริษัทจัดการกองทุนด้วยมูลค่า 2 แสนเหรียญและควบรวมกับบริษัทตัวเขาเอง Mackenzie Financial Group และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น AIC บริษัทจัดการกองทุนส่วนบุคคลและรับบริหารเงินให้กับนักลงทุน ปัจจุบันพอร์ตของบริษัท AIC มีมูลค่ามากกว่า 6 พันล้านเหรียญ

ไมเคิล ลี ชิน สนใจด้านการลงทุนนอกเหนือจากการทำธูรกิจส่วนตัว นักลงทุนในดวงใจของเขา คือวอเร็น บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังของโลกและเป็นนักลงทุนเน้นคุณค่า เขาพยายามหาหนังสือมาอ่านเพื่อตามติดชีวิตบัฟเฟตต์ และศึกษาว่าเขามีวิธีลงทุนอย่างไร ... เขาเห็นว่าบัฟเฟตต์คัดเลือกธุรกิจดีมาไว้ในพอร์ตการลงทุน เขาคิดอยากจะทำแบบบัฟเฟตต์บ้าง จึงตั้งบริษัท Portland Holdings Inc. เพื่อรวมธุรกิจชั้นยอดมาไว้ในบริษัทโฮลดิ้งของเขาเอง แน่นอนว่ามีหุ้นเบิร์กไซด์อยู่ในนั้นด้วย

ต่อมาในปี 2007 บริษัทจัดการกองทุน Manulife ขอซื้อหุ้นเบิร์กไซด์ต่อจาก Portland Holdings Inc. ทำให้ ไมเคิล ลี ชิน ได้กำไรมหาศาลจากการลงทุนหุ้นเบิร์กไซด์ ต่อมาในปี 2009 เขาก็ได้ขายบริษัท AIC Limited ให้กับ Manulife และก้าวขึ้นสู่หนึ่งในมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในแคนาดา

ตอนที่ 2 เราจะมาดูกันครับว่ามหากาพย์การลงทุนของนักลงทุนสวนกระแสอย่าง Michael Lee-Chin จะเป็นอย่างไรบ้าง ...

ขอบคุณที่มา Bussiness Insider, Wikipidia

เรียบเรียงใหม่โดย SiTh LoRd PaCk


SiTh LoRd PaCk