TISCO คาดต้นทุนถูกกดดัน แต่ไม่กังวลเรื่องเงินปันผล
คาด credit cost อยู่ระดับต่ำอีก 1-2 ไตรมาส เราคาดว่าค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) จะยังอยู่ในระดับต่ำที่ 20-30bps/ไตรมาส ไปอีก 1-2 ไตรมาสก่อนที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 50bps ตั้งแต่กลางปี 2567 เป็นต้นไป
TISCO คงอัตราสำรองต่อหนี้สูญ (coverage ratio) ระดับสูงสุดที่ราว 150% เทียบกับที่ 206% ในไตรมาส 3/2566 และคาดว่าสัดส่วนหนี้เสีย (NPL ratio) จะค่อย ๆ สูงขึ้นจากสัดส่วนสินเชื่อที่มีอัตราตอบแทนสูงที่มากขึ้นและคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนตัวลงจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ระดับสูง TISCO คาดว่า credit cost อาจเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 50bps ในปี 2567 เทียบกับที่ 25bps ในไตรมาส 3/2566 และคาดจะค่อย ๆ ปรับเพิ่มขึ้นในปี 2568
แผนเพิ่มการเติบโตสมเหตุสมผล เรามองว่าแผนเพิ่มการเติบโตของ TISCO ที่มุ่งเน้นไปยังสินเชื่อที่มีอัตราตอบแทนสูงและสินเชื่อธุรกิจนั้นสมเหตุสมผลเนื่องจากกลุ่มอื่น ๆ ค่อนข้างมีสัดส่วนผลตอบแทนเทียบกับความเสี่ยงที่คุ้มค่าน้อยกว่า ผู้บริหารเห็นการแข่งขันที่รุนแรงในกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่จากธนาคารบางแห่งและเลือกที่จะไม่แข่งขันในตลาดนี้
ดังนั้น ผู้บริหารจึงตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อทะเบียนรถยนต์เป็นหลักประกันขึ้นต่อเนื่องซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยที่ 14% เฉลี่ยสูงกว่าอัตราตอบแทนเฉลี่ยของสินเชื่อเช่าซื้อที่ 4.5% ขณะเดียวกัน ผู้บริหารตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อธุรกิจขึ้นเช่นกันเนื่องจากอัตราสินเชื่อแบบลอยตัวจะบรรเทาผลกระทบจากต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ผู้บริหารคาดว่าสินเชื่อจะเติบโตขึ้นที่กรอบ 5-10% และคาดว่าอัตราเติบโตอาจใกล้กับระดับกรอบล่างของเป้าหมาย
เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2566-68 ลง 1%/6%/10% จาก credit cost และสัดส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่สูงขึ้น แนะนำ “ซื้อ” แต่ลดราคาเป้าหมายเป็น 112.25 บาท
