SEAFCO : พร้อมแล้วสำหรับการกลับมาอย่างแข็งแกร่ง
• รีวิวไตรมาส 1/2568 SEAFCO รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2568 โดยมีผลขาดทุนหลักจำนวน 61.9 ลบ. พลิกจากกำไรปกติที่ 34.8 ลบ. ในไตรมาส 1/2567 และมากกว่าผลขาดทุนปกติจำนวน 26.9 ลบ. ในไตรมาส 4/2567
• มีอะไรใหม่ เมื่อวันที่ 27 พ.ค. SEAFCO เข้าร่วมงาน SET Opportunity Day เพื่อชี้แจงผลประกอบการไตรมาส 1/2568 และแนวโน้มปี 2568 โดยมีทิศทางในเชิงบวก ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1) ปริมาณการเทคอนกรีตในเดือนเม.ย.เฉลี่ยอยู่ที่ 648 ลบ.ม./วัน (+35% YoY, +161% QoQ) เทียบกับ 180 ลบ.ม./วัน ในไตรมาส 1/2568 บ่งชี้ว่ารายได้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ QoQ ในไตรมาส 2/2568 2) SEAFCO คาดว่ารายได้และกำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้น QoQ ตั้งแต่ไตรมาส 2–4/2568 3) SEAFCO มีแผนเพิ่มการประมูลงานภาครัฐหลังจากขยายกำลังการผลิตในไตรมาส 3/2568 และ 4) SEAFCO มองว่าแนวโน้มการก่อสร้างภาคเอกชน โดยเฉพาะอาคารสูง มีการชะลอตัว แต่คาดว่าจะมีการชดเชยด้วยโอกาสจากโครงการภาครัฐที่เพิ่มขึ้น
• Backlog ณ สิ้นเดือนเม.ย. SEAFCO มี backlog อยู่ที่ 2.7 พันลบ. (+163% YoY, +51% QoQ) โดยส่วนใหญ่มาจากโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีส้มจำนวน 6 สถานี รวมมูลค่า 2 พันลบ. ที่น่าสังเกตคือ 74% ของ backlog ปัจจุบันเป็นลักษณะงานแรงงานอย่างเดียว ซึ่งมีอัตรากำไรสูงกว่างานที่รวมทั้งแรงงานและวัสดุ โครงการเหล่านี้คาดว่าจะรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2568 ถึงไตรมาส 2/2569
• แนวโน้ม จากปริมาณคอนกรีตที่เทเฉลี่ยในเดือนเม.ย.ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คาดว่ารายได้ของ SEAFCO จะปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน QoQ ในไตรมาส 2/2568 พร้อมกลับมามีกำไรปกติ และคาดว่ารายได้จะยังเติบโตต่อในไตรมาส 3 และ 4/2568 ตามความก้าวหน้าของงานก่อสร้าง แม้การลงทุนภาคเอกชนจะชะลอตัว แต่คาดว่าจะได้รับการชดเชยด้วยโครงการภาครัฐที่จะเปิดประมูลในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ทั้งนี้ เรายังคาดว่าการลงทุนภาครัฐจะยังคงแข็งแกร่ง แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัวก็ตาม
• แนะนำ “ซื้อ” Target Price 3.43 บาท สะท้อน PER ปี 2568 ที่อยู่ในระดับต่ำเพียง 7.6 เท่า โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณ backlog ที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2561
