ไขข้อสงสัย China Evergrande
บริษัทอสังหาฯ ยักษ์ใหญ่จีนล้มละลาย
กระทบต่อตลาดหุ้นไทยหรือไม่ ?
.
จากประเด็นศาลสูงฮ่องกงมีคำสั่งให้บริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป (China Evergrande Group) ยุติกิจการและขายสินทรัพย์เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ที่สูงถึง 2.39 ล้านล้านหยวน หรือ ประมาณ 3.33 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
.
ส่งผลให้ China SEC ฮ่องกงสั่งระงับการซื้อขายหุ้น ซึ่งนับเป็นจิตวิทยาลบ และสร้างความกังวลว่าประเด็นดังกล่าวจะลุกลามไปยังบริษัทอื่นๆ หรือไม่ และจะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยอย่างไร
.
Wealthy Thai ได้สอบถามไปยังนายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ AISA ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ซึ่งให้มุมมองว่า จากกรณีที่ China SEC ฮ่องกงสั่งระงับการซื้อขายหุ้น China Evergrande บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีน หลังจากศาลสูงฮ่องกงมีคำสั่งให้ทำการขายสินทรัพย์และปิดกิจการ (Liquidation) มองเป็น 2 มุม คือ ส่งผลกระทบจิตวิทยาเชิงลบและกระทบต่อราคา Commodity
.
ทั้งนี้ ประเมินผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนระยะสั้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบและหุ้นต้นน้ำ อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
.
ในส่วนความกังวลว่าสถานการณ์จะลุกลามไปยังบริษัทอื่นหรือไม่นั้น มองว่าการล้มละลายของ China Evergrande เป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้อยู่แล้ว เชื่อว่ารัฐบาลจีนน่าจะมีการป้องกัน และไม่น่าจะยอมให้เกิดการลุกลามที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพรวของเศรษฐกิจจีน
.
สำหรับกลยุทธ์ หากนักลงทุนสนใจหุ้นกลุ่มพลังงานและต้นน้ำ แนะนำให้ เก็งกำไร เนื่องจากกลุ่มพลังงานยังมีความผันผวน ประเมินระยะกลางราคาน้ำมันดิบอาจฟื้นตัวในกรอบ 80-90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
.
ทั้งนี้ ติดตามการรายงานงบของ PTTEP ซึ่งจะประกาศในวันนี้ (30 ม.ค. 67) อย่างไรก็ตาม มองหุ้นกลุ่มโรงกลั่นมีความโดดเด่นกว่า โดยระยะสั้นค่าการกลั่นมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น หุ้นแนะนำ ได้แก่ TOP
.
ด้านบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) ระบุว่า คาดตลาดในภูมิภาคอาจได้รับจิตวิทยาเชิงลบจากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นจีน-ฮ่องกงเช้าวันนี้ จากความกังวลวิกฤตอสังหาริมทรัพย์จีน หลังศาลฮ่องกงมีคำสั่งให้ China Evergrande ขายสินทรัพย์และปิดกิจการ