Good Morning News โดยกองทุนบัวหลวง, มิตรแท้ตลอดเส้นทางลงทุน
3 ตุลาคม 2559
.............................
ณัฐพัช กิตติปวณิชย์, Fund Management
Guru Quotes
“ความเชื่อมั่นและความไว้วางใจเป็นรากฐานของธุรกิจธนาคาร แต่ขณะนี้เกิดอิทธิพลบางอย่างในตลาดที่กำลังคอยบั่นทอนความไว้เนื้อเชื่อใจที่ว่า”
John Cryan, Deutsche Bank’s CEO
General News
• อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนประจำเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี สะท้อนว่าราคาน้ำมันเริ่มหดตัวลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคาอาหารและเครื่องดื่มยังเพิ่มขึ้น แต่ทว่าอัตราเงินเฟื้อพื้นฐานยังไม่บ่งบอกถึงภาวะฟื้นตัวที่ชัดเจนนัก ทั้งนี้ธนาคารกลางยุโรปคาดว่า เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.6% ในตอนปลายปี 2018
• อัตราว่างงานในยูโรโซนประจำเดือน ส.ค. ทรงตัวอยู่ที่ 10.1% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2011 โดยเยอรมนีและสาธารณรัฐเช็กเป็นประเทศที่มีอัตราว่างงานต่ำสุด 3.9% และ 4.2% ตามลำดับ ขณะที่สเปนและกรีซนั้นว่างงานสูงเป็นอันดับต้นๆ 19.5% และ 23.4% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม อัตราว่างงานของคนหนุ่มสาว (ต่ำกว่า 25 ปี) ยังคงสูงถึง 20.7% จนต้องเป็นประเด็นที่ถูกบรรจุไว้ในวาระของแผนพัฒนาใน EU Summit เมื่อเดือนที่ผ่านมา
• ยอดค้าปลีกของเยอรมนีเร่งตัวขึ้นเป็น 3.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี สูงกว่าคาดการณ์ของตลาด ซึ่งจะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจเติบโต ในขณะที่การค้าระหว่างประเทศยังซบเซา และรัฐบาลเยอรมนีเชื่อว่า อัตราการจ้างงานที่อยู่ในระดับสูง ค่าแรงที่ปรับสูงขึ้น และเสถียรภาพของราคา จะช่วยผลักดันให้เกิดการบริโภคครัวเรือน จนขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีนี้ให้โต 1.7%
• เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรในไตรมาสที่สองคาดว่าจะเติบโตจากไตรมาสก่อน 0.7% ซึ่งสูงขึ้นจากการประเมินครั้งก่อนที่ 0.6% ด้วยอานิสงส์จากภาคบริการที่ขยายตัว 0.4% ซึ่งคิดเป็น 75% ของมูลค่าทางเศรษฐกิจ ถึงแม้จะถูกกระทบด้วยความไม่แน่นอนช่วงก่อนประชามติก็ตาม
• การขยายตัวของ ราคาที่อยู่อาศัยในสหราชอาณาจักรประจำเดือน ก.ย. ชะลอตัวลงเล็กน้อยเหลือ 5.3% เนื่องจากอุปสงค์หดตัวลงจนใกล้เคียงกับอุปทาน โดยในกรุงลอนดอนนั้นราคาพุ่งพรวดรวดเร็วที่สุดในไตรมาส 3 ขณะที่ราคาในเวลส์กลับหดตัวลง
• ค่าใช้จ่ายรายบุคคลของสหรัฐฯ (PCE) ในเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้น 1.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี เร่งขึ้นจาก 0.8% ของเดือนก่อนหน้า นอกเหนือจากราคาพลังงานที่สูงขึ้นแล้ว ยังได้แรงหนุนจากดัชนีพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น 1.7% อีกด้วย ทั้งนี้ PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯคอยติดตาม ตัวเลขดังกล่าวจึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเร็วๆ นี้
• อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นในเขตโตเกียวประจำเดือน ก.ย.ปรับตัวลง 0.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งยังชะลอตัวในอัตราเดียวกับเดือนก่อนหน้า เท่ากับบ่งชี้ว่า มาตรการทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางยังไม่อาจหนุนให้ราคาปรับเพิ่มขึ้นได้ ขณะที่การใช้จ่ายภาคครัวเรือนก็ร่วงลงถึง 4.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี (คิดเป็น 60% ของมูลค่าเศรษฐกิจ) แสดงว่าการบริโภคภาคเอกชนยังเปราะบาง
• อัตราว่างงานในญี่ปุ่นประจำเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 3.1% จากเดือนก่อนหน้า 3.0% เนื่องจากภาคการเกษตรและป่าไม้ได้ลดการจ้างงาน 50,000 ตำแหน่ง ลงเหลือ 2.2 ล้านตำแหน่ง ทว่าตลาดแรงงานของประเทศยังคงตึงตัวอยู่มาก เพราะมีข้อเสนอจ้างงานถึง 137 ตำแหน่ง ต่อประชากร 100 คนที่กำลังหางาน
• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือน ส.ค. เร่งตัวขึ้นแตะ 4.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงสุดในรอบ 2 ปี ในทิศทางเดียวกับดัชนีผู้จัดการฝ่ายผลิตที่พลิกกลับมาขยายตัวในเดือน ก.ย. เป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน บ่งบอกว่าโรงงานอุตสาหกรรมทางภาคใต้กำลังกลับสู่สภาพปกติ หลังต้องเผชิญภัยแผ่นดินไหวเมื่อต้นปี จนผู้ประกอบการหลายรายต้องหยุดกิจการไว้ชั่วคราว นอกจากนี้ยอดผลิตรถยนต์ยังพุ่งขึ้นเป็น 8.8% เมื่อเทียบเป็นรายปีอีกด้วย
• สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายผลิต (PMI) ภาคการผลิตทรงตัวอยู่ที่ 50.4 เนื่องจากผลผลิตและยอดสั่งซื้อเพื่อส่งออกฟื้นตัว แต่ถูกฉุดโดยยอดสั่งซื้อรวม โดยดัชนีย่อยชี้ว่า บริษัทขนาดใหญ่นั้นมีผลประกอบการเหนือกว่าบริษัททั่วไป แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลจีนยังต้องพึ่งพาองค์กรขนาดใหญ่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะที่ดัชนี PMI นอกเหนือภาคการผลิตนั้น เพิ่มขึ้นสู่ 53.7
Equity Market
• SET Index (30 ก.ย.) ปิดที่ 1,483.21 จุด ลดลง -8.22 จุด หรือ -0.55% มูลค่าซื้อขายรวม 39,986.91 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยนั้นซื้อขายกันเบาบาง แล้วปิดในแดนลบตามตลาดในภูมิภาค เนื่องจากเกิดความกังวลเกี่ยวกับความเปราะบางของภาคธนาคารในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลกระเทือนต่อเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามการประชุม ครม.ในวาระมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่คาดว่าจะดำเนินการในช่วงปลายปี รวมทั้งงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสที่ 3 ด้วย
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
นักลงทุนสถาบัน +792.26 ล้านบาท
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -310.46 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติ -557.52 ล้านบาท
นักลงทุนทั่วไป +75.73 ล้านบาท
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วง -0.04% ถึง 0.00% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 111,236.66 ล้านบาท ในวันนี้มีการประมูลตั๋วเงินคลังอายุ 2 เดือน มูลค่า 2,500 ล้านบาท