ห้องเม่าปีกเหล็ก

MoneyTalk Special กลยุทธ์วีไอ

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
59 views
MoneyTalk Special กลยุทธ์วีไอ 2565 (1)
อาจารย์ โจ ลูกอีสาน
ดำเนินรายการ โดย ดร ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ ดร นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
 
อาจารย์ โจ พูดถึงดัชนีหุ้นไทยในปี2564 เพิ่มขึ้น 13% รวมปันผลอีก2-3% คิดเป็น 15-16%
ถ้านับย้อนหลัง5ปี ตอนนั้นดัชนี 1570 จุด จนถึง ตอนนี้ ดัชนี 1630 จุด
ผลตอบแทนคิดเป็น ราว1%ต่อปีถ้ารวมปันผลอีก 2% แล้วจะได้ประมาณ 3% ต่อปี ซึ่งค่อนข้างต่ำ
 
 
ปี2565 ผลตอบแทนไม่หนีไปจากอดีต และมีปัจจัยทั้งบวกและลบ ที่มีผลต่อตลาดหุ้น
ปัจจัยบวกคือ Covid ซึ่งมีมาตั้งสองปี ใกล้จบแล้ว คาวมรุนแรงน้อยลง จนใกล้เป็นเหมือนไข้หวัดใหญ่ สุดท้ายก็จบ
และจะเกิด Pent-up demand นักท่องเที่ยวก็กลับมาเที่ยวเมืองไทยบ้าง
และอีกปัจจัยคือ รัฐบาลจะครบเทอม และมีการเลือกตั้งใหม่ ดังนั้นน่าจะมีการผลักดัน Mega project ออกมาเยอะ
ส่วนปริมาณเงินของFED หลังจากลดQE ก็ส่งผลกระทบตลาดหุ้น ถ้าเรามองแคบลงมาที่ไทย ส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยอย่างไร
 
 
บทบาทของสถาบันการเงินไทย ในตลาดหุ้นไทย เมื่อก่อนเป็นพระเอก โดยผ่านกองทุนประหยัดภาษี LTF
ปี2564 บทบาทกองทุนน้อยลงเยอะ ปริมาณการซื้อขายจากเมื่อก่อน 10% ตอนนี้เหลือแค่ 6%
เพราะว่า ยกเลิกLTF เปลี่ยนมาเป็น SSF ซึ่งมีนโยบายลงทุนหุ้นต่างประเทศ นอกเหนือลงหุ้นไทย
ทำให้ปริมาณเงินที่มาซื้อหุ้นไทยหายไปเยอะ เพราะว่า
 
1.ตลาดหุ้นต่างประเทศ 4-5ปีที่ผ่านมา ได้ผลตอบแทนดี เลยไปซื้อกองทุนต่างประเทศแทนลงทุนหุ้นไทย
 
2.ตลาดคลิปโตบูมมาก นักลงทุนบางส่วนสนใจ ก็เลยถอนเงินจากการลงทุนในSETไปหา คลิปโตแทน
 
3.มีการเก็บภาษีการซื้อ / ขายหุ้นไทย
 
อาจารย์ โจ concern ว่าตลาดหุ้นไทยขึ้นมา10กว่า% หุ้นขนาดใหญ่ ขึ้นไม่เยอะ
แต่หุ้นในตลาดMAI ขึ้นเยอะ PE 50-60 เท่า , ผลตอบแทน 60-70%
 
หุ้นที่ขึ้น 20 ตัวแรก มีแค่ 5 ตัวที่มีพื้นฐานดี ที่เหลือก็ลากๆไปกัน
หรือบริษัทที่ได้ประโยชน์จากCovid ปีหน้า Covidก็หายไป บริษัทก็ไม่ได้ประโยชน์
 
 
ตลาดหุ้นปี2565 ก็น่ากังวลเหมือนกัน
อาจารย์นิเวศน์ เสริมว่า รอบนี้ ดัชนีหุ้นไทยขึ้นมาได้เพราะมีการเก็งกำไร
SET50 ขึ้นมา 3% ,SET ขึ้นมา13% และ MAI ขึ้นมา 63%
 
ปี 64 อาจารย์นิเวศน์ บอกว่า ไม่ซื้อ RMF , ยอมจ่ายภาษี และ เอาเงินที่ขายได้
ไปซื้อหุ้นต่างประเทศดีกว่า
อาจารย์บอกว่า ให้รออีก 5 ปีเพื่อขายกองทุนไม่ไหว
 
 
อาจารย์โจ พูดถึง การลงทุนในปี2564 มีการตัดสินใจครั้งสำคัญ โดยการปรับพอร์ตเชิงกลยุทธ์ โดยดูที่ผลตอบแทน
Port ลงทุนต่างประเทศในปี2564 จากเดิม ลงทุนหุ้นต่างประเทศ คือ เวียดนาม ประมาณไม่ถึง10%
ปีนี้ลงทุนต่างประเทศ 50% ส่วนอีก 35% ลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง 35% . เวียดนาม 10% และ
ตลาดหุ้นUS และ ตลาดหุ้นฟิสิบปินส์ 5%
 
Port ที่ลงทุนในหุ้นไทย 50% และต่างประเทศ 50%
เป็นการลงทุนหุ้นไทย ประมาณ ครึ่งนึง ถือว่าconservative ยังมีข้อได้เปรียบบางอย่าง
 
 
หลักการคัดเลือกหุ้นแบบวีไอ
 
1.หุ้นแนว Growth บริษัทโตจากโดยการไปกินแชร์ของคนอื่นๆ โดยต้องมีต้นทุนที่ต่ำกว่า
 
2.หุ้นวัฐจักร มีบางตัวราคายังถูกกว่าช่วงก่อนCovid , พอ Covid หายไป หุ้นวัฐจักรก็จะกลับคืนมา
แต่ละปีก็มีอุตสาหกรรมที่ดี และ ราคาหุ้นก็ขึ้นไปสลับกันไปทุกปี
 
 
จริงๆ ส่วนตัวไม่อยากซื้อหุ้นต่างประเทศ แต่ต้องการกระจายความเสี่ยง
ก็เลยไปซื้อหุ้นฮ่องกง ปรากฏว่า โดนรับน้อง ราคาหุ้นลงไปอีก20% เพราะโดนทางรัฐแทรกแซง
 
ตอนนี้ ราคาหุ้น HK ที่ถูกอยู่แล้ว ก็ถูกขึ้นไปอีก
 
ช่วงนี้ ศึกษาในตลาดหุ้นฮ่องกง ยังรู้สึกสนุก หุ้นส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดเล็ก
 
คำถามยอดฮิตที่ถามอาจารย์โจ ว่าสนใจลงทุนคลิปโตไหมครับ
 
อาจารย์โจบอกว่า ไม่ยุ่งกับอะไรที่อยู่ในกระแส ซึ่งถือเป็นข้อดี
ยอมรับได้ที่เห็นคนอื่นได้กำไร แต่ยอมรับไม่ได้ถ้าตัวเองขาดทุน ดังนั้นต้องมีการบริหารจัดการความเสี่ยงได้ดี
 
สรุป คือ หลักการในการลงทุนไม่เปลี่ยนแปลง แต่วิธีการอาจเปลี่ยนได้
 
สุดท้ายขอขอบคุณ ดร ไพบูลย์ และ ดร นิเวศน์ ครับ

คนเล่นหุ้น