หุ้นไทย vs คริปโต บทความการลงทุนดีๆจากเซียนหุ้นอัจฉริยะ

หุ้นไทย vs คริปโต

ช่วงที่ผ่านมาผมใช้เวลาในการศึกษาคริปโตพอสมควรไม่ว่าจะเป็นอ่านเองไปตั้งคำถามหรือแม้แต่ให้ผู้เชี่ยวชาญมาสอน
ตอนนี้ผมคิดว่าผมมีความรู้เบื้องต้นยังไม่ได้เก่งไม่ได้เชี่ยวชาญอะไรในโลกของ คริปโต แต่ก็คิดว่าพอเข้าใจบ้างระดับหนึ่ง
พอดีช่วงที่ผ่านมาผมได้รับคำถามจากคนว่าจะเล่นหุ้นไทยหรือคลิปโตดีหลายครั้งก็เลยเขียนผ่านบทความนี้ในการให้มุมมอง
ถ้าคุณยังไม่ได้มาลงทุนในทั้งสองอย่างนี้ บทความนี้ผมขออธิบายแบบง่ายง่ายให้คุณเข้าใจความแตกต่างก่อน

1. ในด้านความเสี่ยง ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบแห่ตามไม่ชอบศึกษาหาความรู้มีความโลภเต็ม 100 แต่มีความรู้เป็นศูนย์ผมคิดว่าคุณไม่เหมาะทั้งกับตลาดหุ้นและคลิปโต เพราะถ้าคุณเข้ามาในหุ้นคุณก็จะหมดตัวกับหุ้นปั่นคุณเข้าไปโลกคลิปโตคุณก็อาจจะโดน rug pull(เชิดเงินหนี)

แต่ถ้าคุณเป็นคนที่พร้อมจะศึกษาหาความรู้ในสิ่งที่คุณจะลงทุนก็ต้องบอกว่าโลกของคลิปโตมีความเสี่ยงและโอกาสมากกว่าหุ้นไทย

1. ความเสี่ยงอย่างแรกเลยคือเรายังไม่เห็นคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ประสบความสำเร็จยาวนานพอและพิสูจน์ได้ว่าเป็นคนที่คำแนะนำไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงแบบในวงการหุ้นถ้าคุณอยู่ในวงการหุ้นคำแนะนำหรือคำพูดของวอร์เรนบัฟเฟสเป็นเหมือนคัมภีร์ของนักลงทุนพื้นฐานเพราะเขาอยู่ในตลาดมากกว่า 80 ปีและเขามีระดับความสำเร็จในด้านการลงทุนเป็นอันดับหนึ่งของโลกดังนั้นคุณสามารถเชื่อถือแนวคิดและหลักการเค้าได้แต่ในโลกคลิปโตเป็นโลกที่ใหม่มากผมเองมีโอกาสฟังการวิเคราะห์เหรียญใน YouTube ของคนไทยเค้าพูดถึงเหรียญบางเหรียญแต่พูดถึงโอกาสที่เหรียญจะไปหลายเท่าตัว โดยการเอา mkt cap ชนกัน เหรียญที่ทำรูปแบบคล้ายกัน แล้วบอกว่าเหรียญที่ยังมีมูลค่าต่ำกว่ามีโอกาสที่จะไปได้อีกเยอะแต่ถ้าไปดูรายละเอียดจะรู้ว่าในอีกสามปีข้างหน้าจะมีเหรียญใหม่ออกมามหาศาล(คล้ายหุ้นเพิ่มทุน)เรียกว่ามากกว่าเท่าตัว ซึ่งก็ไม่เห็นว่าเค้าจะพูดมุมนี้ อันนี้คนที่ฟังแล้วไม่ได้ไปดูข้อมูลต่อก็อาจจะรู้สึกว่าเหรียญนั้นถูกเกินกว่าความเป็นจริง แบบนี้ก็เป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่ง ถ้าเราไม่ศึกษาเรื่องระบบ tokenomic แล้วไป re check ข้อมูลเอง ดังนั้นพอเป็นโลกใหม่ที่ยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญที่เราแน่ใจได้หลักการที่เราศึกษาจริงๆแล้วจะถูกหรือผิดก็ยังยากที่จะตอบได้ บางทีเราไปฟังคนอื่นพูดคิดว่าน่าจะใช้หลักการนี้วิเคราะห์แต่จริงๆคนที่พูดให้เราฟังก็ยังศึกษาไม่แตกฉาน

ความเสี่ยงในแง่ของเงินสูญหาย ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ที่เล่นเหรียญในปัจจุบันน่าจะไม่ได้เล่นใน platform ไทย ซึ่งเวลาคุณเอาเงินออกไปข้างนอกมีคนที่ถูก hack wallet เยอะเลย บางคนก็ถ่าย seed phase เก็บไว้ พอเปิดมาดูอีกทีเหรียญโดนโอนออกจนกระเป๋าเกลี้ยง บางคนก็โอนเหรียญผิดถูกบ้างก็ตามคืนมาไม่ได้ แต่ถ้าคุณอยู่ในตลาดหุ้นแล้วคุณมันเข้าไปดูพอร์ตของตัวเองบ่อยบ่อยคุณมี Marketing ที่พอเชื่อถือได้และไม่มอบอำนาจหรือเซ็นอะไรแปลกแปลกโดยที่คุณไม่ได้อ่านให้ดีก่อนแทบจะไม่มีความเสี่ยงเรื่องหุ้นของคุณในพอตหายเลย คุณสามารถเอาเวลาส่วนใหญ่ให้กับการวิเคราะห์หุ้นที่น่าลงทุน แต่ถ้าคุณอยู่ในโลกคลิปโตคุณจะต้องใช้เวลาไปกลับ การระมัดระวังเรื่องการถูกแฮ็คหรือการเข้าไปลงทุนใน platform ที่อาจจะปิดหนี ดังนั้นความเสี่ยงมากกว่าตลาดหุ้นมหาศาล
ยกเว้นว่าคุณลงทุนใน platform ไทย ที่ได้รับการรับรองจาก กลต แบบนั้นคุณจะปลอดภัยขึ้นเยอะมากแต่ก็จะไม่มีเหรียญหลายเหรียญที่น่าสนใจให้คุณซื้อและสภาพคล่องก็สู้ exchange ต่างประเทศไม่ได้

เหรียญมีโอกาสมากกว่าโตเร็วกว่าก็จริงแต่ก็มีความแน่นอนมากกว่าด้วย เพราะก็อปปี้กันง่าย หลายเหรียญเหมือนเป็นกระแสอยู่แป็ปเดียวก็ดับไปเลย เรียกว่าสเกลง่าย แต่ล้มหายตายจากง่ายด้วย

2. ในด้านของโอกาสโลกคริปโตผมคิดว่ามีโอกาสมากกว่าตลาดหุ้นไทย สาเหตุที่เป็นแบบนั้นเพราะโลกคริปโตยังใหม่อยู่เปรียบไปก็เหมือนหุ้นตัวเล็กที่ทำธุรกิจหลากหลายฐานยังเล็กก็ย่อมโตได้ไว โตได้ไวก็ย่อมสะท้อนที่ราคาของเหรียญ ช่วงที่ผ่านมาผมอ่านเกี่ยวกับวิธีการวิเคราะห์เหรียญเหล่านี้เยอะพอสมควรเรียกว่าปริ้นออกมาอ่านจนเปลี่ยนตลับหมึกไปหลายรอบแล้ว ค่อนข้างรู้สึกสนุกเหมือนสมัยลงทุนหุ้นใหม่ใหม่ อ่านแล้วทำให้รู้ว่าหลายเหรียญมีรูปแบบธุรกิจที่น่าสนใจจริงๆ และเนื่องจากเหรียญเหล่านี้สามารถระดมทุนได้จากผู้คนทั่วโลกทำให้การเติบโตเป็นไปได้มากกว่าหุ้นไทยในกรณีที่บริษัทไม่ได้ขยายออกไปต่างประเทศ

ในแง่การสเกลธุรกิจโลกคริปโต
บางเหรียญเพิ่งก่อตั้งมาเพียงแค่หนึ่งปีมียอด tvl ในระบบตีเป็นเงินบาทกว่า 400,000 ล้านบาทไทย บางเหรียญมีค่า fee 3,000 กว่าล้านบาทไทย โดยที่เพิ่งก่อตั้งมาไม่กี่เดือน (นำรายได้รายอาทิตย์มาคูณบัญญัติไตรยางค์จบปีอาจจะได้มากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้ก็ได้) ตัวผมเองยังไม่ได้แนะนำให้เพื่อนที่พอร์ตเล็กลงทุนในคลิปโตเพราะผมดูแล้วความเสี่ยงยังสูงเกินไปแต่สำหรับเพื่อนผมบางคนที่พอร์ตใหญ่ก็มีบางคนที่แบ่งเงินมาลงทุนแบบน้อยมากในระดับที่หายไปทั้งก้อนก็ไม่เดือดร้อนชีวิต

คลิปโตบางเหรียญออกแบบมาว่าค่าธรรมเนียมที่ได้ส่วนนึงเอาไปไล่ซื้อเหรียญมาเผาทิ้งไปจากระบบ ทำให้เวลาถ้าธรรมเนียมโตเยอะเยอะ ราคาของเหรียญเลยจะขึ้นไวมาก เรื่องแบบนี้โลกบนความเป็นจริง ยังไม่เห็นใครทำถ้าผู้บริหารบริษัทไหนบอกว่าเราจะนำกำไรที่ได้ปีนี้ไปไล่ซื้อหุ้นคืนแล้วก็ลดทุนจดทะเบียนไปเรื่อยเรื่อยผมยังไม่เคยเจอเลยในประเทศไทย มีแต่แบบบอกว่าจะนำกำไรไปขยายอะไรต่อซึ่งผมคิดว่ามันสมเหตุสมผลกว่าเพราะถ้าราคาหุ้นสูงขึ้นเรื่อยเรื่อยก็ต้องยิ่งใช้เงินจำนวนมากในการซื้อหุ้นคืนสู้เอาไปขยายงานที่ได้มาจิ้นดีดียังเข้าท่ากว่า

3. ความผันผวนของโลกคริปโตโตมีมากกว่าหุ้นไทยมหาศาล ความผันผวนจริงๆแล้วเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยงจะเป็นด้านไหนขึ้นอยู่กับตัวคุณ ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ได้มี money managament ที่ดี โลกคริปโตจะโหดร้ายกับคุณมากกว่าตลาดหุ้น (โดยเฉพาะถ้าคุณชอบเล่น 10x 25x ในไบแนน)แต่ถ้าคุณบริหารจัดการพอร์ตได้ดีมันก็จะมีโอกาสให้คุณซื้อบ่อยกว่าเนื่องจากความผันผวน
คำแนะนำที่น่าจะใช้ได้กับทั้งสองวงการคือห้ามนำเงินที่ต้องใช้ในสองปีข้างหน้ามาลงทุนเด็ดขาด

4. ความเข้าถึงความเข้าใจ ยิ่งเราเข้าใจมากเราก็ยิ่งมีความเสี่ยงน้อยลงถ้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังไงคุณก็มีโอกาสทำความเข้าใจธุรกิจมากกว่าคุณอาจไปพูดคุยกับเจ้าของธุรกิจได้คุณเห็นสินค้าก่อนเขาเห็นสำนักงานของเขาคุณวิเคราะห์ลูกค้าของเขาได้ง่ายแต่ ในโลกคลิปโตผมคิดว่าแทบไม่มีใครที่เคยได้เจอกับ founder เมืองนอก และรูปแบบการดำเนินงานก็อยู่ในหน้าจอคอมเป็นหลัก

5. ตลาดหุ้นเลือกธุรกิจที่ตอบสนองต่อคนที่รับความผันผวนได้น้อยกว่าเช่นถ้าคุณเลือกลงทุนในโรงไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายไฟ 20 ปีข้างหน้าแล้วคุณแทบจะคำนวณได้เลยว่าตลอดระยะเวลาที่คุณลงทุนหุ้นจะได้ส่วนแบ่งกำไรของบริษัทเงินปันผลเท่าไหร่แต่เรื่องแบบนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นกับโลกคลิปโต เพราะไม่มีคลิปโตไหนที่สามารถมั่นใจรายได้ที่จะมีความสม่ำเสมอต่อเนื่องได้

โดยรวมผมคิดว่าถ้าคุณไม่มีความรู้เรื่องบล็อกเชนเบื้องต้นหรือเคยศึกษาแล้วไม่ชอบ และรับความผันผวนเงินต้นได้ต่ำกว่า และไม่ได้ต้องการผลตอบแทนสูงมากแค่มากกว่าฝากแบงค์หรือซื้อหุ้นกู้ในระยะยาวตลาดหุ้นน่าจะตอบโจทย์กว่า แต่ถ้าคุณเก่งไอทีมีความรู้บล็อกเชน รับความผันผวนได้มาก ใช้ hardware wallet เป็น อ่านภาษาอังกฤษเก่ง คุณอาจเหมาะกับคริปโตมากกว่า

ผมศึกษาเรื่องพวกนี้แล้วก็รู้สึกสนุกดีที่ได้รู้และเข้าใจว่าโลกยุคใหม่มีรูปแบบเหรียญอย่างไรบ้าง ...