“ความล้มเหลวก็เป็นแค่ข้อมูลตัวหนึ่ง ที่เราแปะป้ายเอาไว้ว่ามันคือความล้มเหลว ซึ่งมันทำให้เรารู้ว่า หากวิธีนี้มันไม่ได้ผล งั้นฉันก็จะลองแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่นดู”
ไม่ว่าคุณจะเป็นประเภทไหนก็ตาม คุณสามารถเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตัวเองให้มีกรอบความคิดแบบเติบโตได้ทั้งนั้น
หมั่นเอาใจใส่กับวิธีคิดของตัวเองต่อสิ่งเล็กๆ น้อยๆ รอบตัว จะทำให้เราค่อยๆ พัฒนาวิธีคิดของตัวเองให้ดีขึ้นได้
ในโลกแห่งอุดมคติ ความคิด ประสบการณ์ และความเชื่อที่เรามี มักจะแปรเปลี่ยนไปตามสถานการณ์และบุคคลที่เราพบปะที่จะช่วยขัดเกลา สร้างเสริม หรือเปลี่ยนแปลง ให้เหมาะกับตัวเรา
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง หาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะมีคนจำนวนมากที่เคยชินกับการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ อยู่ในกลุ่มคนเดิมๆ ไปเที่ยวสถานที่เดิมๆ กินอาหารเดิมๆ เสมือนหุ่นยนต์ที่ถูกป้อนข้อมูลให้คิดและทำซ้ำๆจนกลายเป็นเรื่องปกติกระทั่งถึงวันหนึ่งที่เริ่มรู้สึกว่า“ต้องการความเปลี่ยนแปลงในชีวิต”นั่นแหละจึงจะลุกขึ้นมาปรับปรุงวิถีชีวิตของตนเอง
เนื่องจากทุกคนมีความต้องการที่ไม่มีที่สิ้นสุด เรามักจะไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี เช่น เราต้องการรถคันที่ใหม่กว่า อยากเที่ยวสถานที่ที่สวยงาม อยากทำงานที่ใฝ่ฝัน หรืออยากเริ่มทำธุรกิจด้วยตัวของเราเอง
ทุกครั้งที่เราทำตามเป้าหมายสำเร็จ เรามักจะมีเป้าหมายใหม่ที่ท้าทายขึ้นเสมอ
อย่างไรก็ตามชีวิตไม่ได้มีเพียงความสุขที่เราได้จากการทำบางอย่างสำเร็จเท่านั้น (เพราะเรามีความต้องการที่ไม่จบสิ้น) แต่เป็นการได้ทำอะไรสักอย่างที่มีความหมายระหว่างการเดินทางไปยังเป้าหมายต่างหาก เพราะไม่ว่าเราจะยึดติดกับความสุขและสนุกสนานกับชีวิตมากขนาดเพียงใด สุดท้ายแล้วมันก็จะลดลงและจากเราไป เหลือเพียงแค่ความทรงจำที่ดี ความสุขในใจที่เป็นฝ่ายให้ การได้ทำสิ่งที่มีประโยชน์ต่อคนอื่นและใช้ชีวิตอย่างมีความหมายเท่านั้น
คนที่มีความสุขและได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก นั้นถือว่าเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย เพราะได้ใช้เวลากับสิ่งที่สำคัญและมีค่ากับตัวเอง
การที่เรามีความสุขทุกครั้งที่ทำสิ่งที่เราตั้งเป้าหมายได้สำเร็จนั้นเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่เคยคิดหรือไม่ว่าหรือจริง ๆ แล้วเราก็อยากเป็นเพียงแค่ผู้ให้บ้าง
อย่างที่เราเห็นว่าความสุขที่แท้จริงนั้นย่อมได้มาจากการทำตัวให้เป็นประโยชน์สำหรับผู้อื่นและการใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์มีจุดเริ่มต้นมาจากการเปลี่ยนวิธีการคิดของเราเอง เราไม่จำเป็นต้องทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่มีผลกระทบมากมาย มันอาจจะเป็นสิ่งเล็ก ๆ เช่น การช่วยคนชราข้ามถนน การให้เงินสนับสนุนเลี้ยงดูเด็กกำพร้า การเรียนรู้สิ่งใหม่ หรือช่วยเพื่อนร่วมงานของเรา อะไรก็ได้ที่ทำให้เรารู้สึกอิ่มใจที่ได้ทำมัน นี่ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่าแล้ว
“ความสุข” เป็นคำที่แต่ละคนให้ความหมายที่แตกต่างกันออกไป เราไม่ควรปล่อยให้สังคมเป็นตัวกำหนดนิยามความสุขให้กับเรา แต่เราควรค้นหาความหมายของมันด้วยตัวของเราเอง
“เม่าชรา”