YLG ชี้ราคาทองคำเริ่มเข้าสู่ Sideway Up หากอ่อนตัวไม่ต่ำโซน 1,939 ดอลล์ ทำให้มุมมองเชิงบวกเพิ่มขึ้น

บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล (YLG) ประเมินราคาทองคำ วันที่ 12 เมษายน 2565 ว่า หากราคาอ่อนตัวลงไม่ต่ำกว่าโซน 1,939 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะทำให้มุมมองเชิงบวกเพิ่มขึ้น ราคาทองคำเริ่มเข้าสู่สภาวะ Sideway Up เบื้องต้นประเมินแนวต้านระยะสั้นในโซน 1,969-1,974 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับสำคัญโซน 1,923 ดอลลาร์ต่อออนซ์

โดย YLG แนะเปิดสถานะซื้อ 1,939-1,923 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขายเพื่อทำกำไรที่ 1,969-1,974 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด 1,923 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

ขณะที่ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยระหว่างวันราคาทองคำฟื้นตัวโดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนตัวลงจากระดับสูงสุดของดัชนีดอลลาร์ เนื่องจากสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น ขานรับผลการนับคะแนนการเลือกตั้ง “รอบแรก” ของฝรั่งเศสที่จะขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ทั้งนี้นายเอ็มมานูเล มาครง ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของฝรั่งเศส คว้าชัยชนะเลือกตั้งรอบแรก โดยได้คะแนนเสียง 27.8% ตามมาด้วยนางมารีน เลอเปน ผู้ท้าชิงจากพรรคขวาจัดซึ่งได้คะแนนเสียง 23.1% ซึ่งหากนายมาครงสามารถคว้าชัยอีกครั้งในศึกการเลือกตั้งรอบตัดเชือก (runoff election) ในวันที่ 24เม.ย.นี้ จะลดความไม่แน่นอนทางการเมืองได้เป็นอย่างมาก 

ปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือน บริเวณ 1,969.09 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดีราคาทองคำลดช่วงบวกในเวลาต่อมา โดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไร หลังจากราคาทองคำอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป (overbought) ประกอบกับดัชนีดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวัน 

ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2.793% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2019 ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทำให้ราคาทองคำร่วงลงมาปิดตลาดบริเวณ 1,953.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้จับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคของสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI เดือน มี.ค.จะพุ่งขึ้น 8.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1981