การเปรียบเทียบกราฟแท่งกับกราฟเส้นหรือกราฟราคาปิด
กราฟแท่งมีข้อดีตรงที่พฤติกรรมของราคาทั้งหมดจะเกิดอยู่แต่ในช่วงเวลาที่ชัดเจน แต่ก็มีปัญหาตรงที่ราคามักขึ้นอยู่กับข่าวลือและเหตุการณ์ที่ไม่แน่นอนซึ่งแทบไม่เกี่ยวข้องเลยกับแนวโน้ม กราฟแท่งจึงมีความอ่อนไหวจนทำให้การเคลื่อนไหวของราคาผิดพลาดหรือเกิดความเข้าใจผิดได้มากขึ้น
ส่วนกราฟเส้นนั้นมีข้อเสียคือมันจะไม่มีการป้องกันสัญญาณ whipsaw แต่มันสามารถกรองออกไปได้มากพอสมควร และกราฟราคาปิดแบบนี้มักสามารถระบุรูปแบบราคาได้ง่ายกว่า เนื่องจากมันจะแสดงเป็นแนวโน้มอ้างอิงเป็นรูปกราฟิกที่ดูง่ายกว่า Charts 7-4 และ 7-5 แสดงกราฟแท่งและกราฟเส้นในช่วงเวลาเดียวกันของ XL Capital ซึ่งเห็น whipsaws 2 ชุดอยู่ในการฟอร์มตัว H & S ในกราฟแท่ง (Charts 7-4) ในขณะที่เราจะไม่สามารถเห็นมันในกราฟราคาปิด
Chart 7-4 ราคารายสัปดาห์ของ XL Capital ในระหว่างปี 1997-2002
Chart 7-5 ราคารายสัปดาห์ของ XL Capital ในระหว่างปี 1997-2002
การลากเส้น neckline ของ H & S กลับหัว ( reverse H & S) บนกราฟราคาปิดจะทำได้ง่ายกว่า เนื่องจากเป็นเส้นแนวระนาบและมีความสำคัญมากกว่า
บ่อยครั้งที่ผู้ขายสังเกตการฟอร์มตัวของรูปแบบ H & S ด้านบนและทำนายจุดที่เส้นราคาหลุดผ่านแนวรับลงมา ซึ่งไม่ใช่เทคนิคที่ถูกต้องนักเพราะมันมีหลักฐานมารองรับเพียงอย่างเดียวและเราจะไม่มีวันรู้จนกว่าจะเห็นทีหลังว่าแนวโน้มจะยังดำเนินต่อไปหรือไม่ หรือสัญญาณการกลับตัวมาจากราคาที่ราคาทะลุลงไปต่ำกว่าเส้น neckline อย่างเด็ดขาดหรือไม่ แต่มันจะสามารถใช้งานได้ดีขึ้นถ้ามีตัวบ่งชี้อื่นอีกหลายๆ ตัว มาสนับสนุนทิศทางของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม อย่างไรก็ตามถึงรูปแบบราคาที่ไม่สมบูรณ์จะไม่สามารถบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้มได้ แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมก็เห็นว่ามีนักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์แนวโน้มขาลงจาก H & S ด้านบน ที่ไม่สมบูรณ์เหล่านี้ ดังนั้นผมจึงอยากจะขอให้จำไว้ว่าในการวิเคราะห์กราฟเชิงเทคนิค แนวโน้มที่มีอยู่จะถือว่ายังไม่น่าเชื่อถือจนกว่าจะได้มีหลักฐานที่มีน้ำหนักอื่นมาพิสูจน์รองรับ และ H & S ด้านบนที่ไม่สมบูรณ์ จะยังไม่ถือว่าเป็นหลักฐานแต่เป็นเพียงสถานการณ์หนึ่งที่อาจเป็นไปได้เท่านั้น
รูปแบบ H & S อาจเกิดขึ้นได้ใน 10 ถึง 15 นาทีหรือใช้เวลาหลายทศวรรษในการพัฒนา โดยทั่วไปยิ่งมีระยะเวลาที่ยาวนานมากยิ่งขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีจำนวนของรูปแบบการกลับตัวที่จุดสูงสุด (ระยะการแจกจ่าย Distribution) มากตามไปด้วย และมันก็ยิ่งยืนยันแนวโน้มขาลงที่ยาวนานขึ้นเช่นกัน การฟอร์มรูปแบบ H & S ที่มีขนาดใหญ่กว่ามักซับซ้อนมากกว่าและประกอบด้วยรูปแบบ H & S ขนาดเล็กจำนวนมาก ดังที่แสดงในรูปที่ 7-6
บทความตอนที่ผ่านๆ มาอ่านได้จาก: http://www.chiangmaifx.com/price-patterns.html
www.facebook.com/275391639215535/photos/pcb.1603468543074498/1603467323074620/