GULF ลุ้นงบ Q1 พุ่ง จ่ายไฟเข้าระบบเพิ่ม
หุ้นวิชั่น – GULF ลุ้นงบ Q1/68 พุ่งแรง! ประกาศผล 8 พ.ค. นี้ โบรกคาดกำไรทะลุ 6,100 ล้านบาท หนุนโดย COD โรงไฟฟ้าใหม่และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม ขณะที่ครึ่งปีหลังยังมีอัพไซด์จากโครงการโซลาร์ 7 แห่ง (700 MW) และศูนย์ข้อมูล (Data Center) ขนาด 25 MW ที่จะทยอยรับรู้รายได้ รวมถึงต้นทุน LNG ที่ลดลง หนุนการทำกำไรต่อเนื่อง

บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) คาดกำไรปกติไตรมาส 1/2568 ที่ 6.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% YoY และ 7% QoQคาดว่า GULF จะรายงานกำไรที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้ง YoY และ QoQ โดยได้รับแรงหนุนจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น จากการเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการ GPD หน่วยที่ 3–4 (+1.3 GW) ในช่วงปลายไตรมาส 1/2567 และไตรมาส 4/2567 โครงการ HKP หน่วยที่ 2 (+770 MW) ในช่วงต้นไตรมาส 1/2568 และ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 5 แห่ง รวมกำลังผลิต 585 MW ในช่วงปลายไตรมาส 4/2567นอกจากนี้ เรายังคาดว่าส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อยจะเพิ่มขึ้น โดยหลักมาจาก ADVANC และผลขาดทุนจากโครงการ Jackson ที่ลดลง หลังหักผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 100 ล้านบาท คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 6.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% YoY และ 24% QoQ
ทั้งนี้ คาดว่ากำไรไตรมาส 2/2568 ของ GULF จะปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อย โดยได้รับแรงหนุนจากอัตรากำไรของโรงไฟฟ้า SPP ที่เพิ่มขึ้นจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ยังไม่เห็นการเติบโตที่แข็งแกร่ง เนื่องจากไม่มีการขยายกำลังการผลิตขนาดใหญ่ในช่วงดังกล่าวโครงการใหม่จะเริ่มทยอย COD (เดินเครื่องเชิงพาณิชย์) ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เป็นหลัก ซึ่งรวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 7 แห่ง รวมกำลังการผลิต 700 MW และศูนย์ข้อมูล (Data Center) ขนาด 25 MW ที่จะทยอยเพิ่มขึ้น รวมถึงการลดต้นทุนจากการนำเข้า LNG คงคําแนะนํา “ซื้อ” GULF และราคาเป้าหมายที่ 61.00 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดว่า GULF จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 5 พันล้านบาท (+29% QoQ, +44% YoY)โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากกำลังการผลิตใหม่รวม 837 MW ที่เริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ ได้แก่ โรงไฟฟ้า HKP (IPP) หน่วยที่ 2 กำลังผลิต 337 MW โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 500 MW รวมถึงส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ INTUCH
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ น่าจะกลับมาบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาสนี้ เทียบกับที่เคยขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาส 1/2567 และ 4/2567 อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรจากธุรกิจโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากราคาก๊าซปรับเพิ่มขึ้น 4.7% QoQ (อยู่ที่ 331 บาท/MMBtu) แม้ยังลดลง 6% YoYในขณะที่ค่า Ft ลดลง 3 สตางค์ต่อหน่วย เหลือ 0.367 บาท/kWh นอกจากนี้ GULF จะเริ่มรับรู้ผลประกอบการจาก GMT ในไตรมาสนี้ ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมสูงขึ้นเมื่อหักรายการพิเศษและผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน คาดว่ากำไรปกติอยู่ที่ 4.9 พันล้านบาท (+16% QoQ, +23% YoY) คงคำแนะนำซื้อ GULF ที่ราคาเป้าหมายปี 2025 ที่ 57.7 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 ของ GULF (ยังไม่รวมผลจากการควบรวมกับ INTUCH) เพิ่มขึ้น 36.9% QoQ มาอยู่ที่ 5.3 พันล้านบาทโดยได้รับแรงหนุนหลักจากรายการพิเศษ ซึ่งคาดว่าจะมีการบันทึกกลับเป็นกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) และตราสารอนุพันธ์สุทธิ จำนวน 138.5 ล้านบาทจากเดิมที่ขาดทุนอยู่ที่ 858.2 ล้านบาทในไตรมาสก่อน เบื้องต้นยังคงประมาณการและราคาเหมาะสม (FV) ปี 2568 ของ GULF ที่ 68.25 บาทต่อหุ้นโดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรอปรับปรุงตัวเลขทางบัญชีของงบการเงินไตรมาส 1/2568 จาก GULFเพื่อรวมผลจากการควบรวมกับ INTUCH ซึ่งจะเริ่มมีผลใช้ตั้งแต่งวดไตรมาส 2/2568 เป็นต้นไปGULF ยังคงโดดเด่นด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอีกทั้งในช่วงที่ผ่านมา ราคาหุ้นมีการปรับฐานลงมา จนเห็น upside ที่เปิดกว้างมากมองเป็นโอกาสในการเข้าสะสมเพื่อลงทุนระยะยาว
บริษัท หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) GULF น่าจะรายงานกำไรหลักสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 5.1 พันล้านบาท (+8% QoQ และ +23% YoY) (คิดเป็น 23% ของกำไรปี 2568F ของเรา) และกำไรสุทธิที่ 5.3 พันล้านบาท สู่การเติบโตปานกลาง โดยเน้นที่อัตราการทำกำไรในระยะยาวGULF กำลังเปลี่ยนผ่านจากหุ้นที่เติบโตสูง ไปสู่การเติบโตในระดับปานกลาง หลังจากมีฐานกำไรที่ใหญ่ขึ้น โดยตลาดดูเหมือนจะรอการกลับมาของ GULF สู่ระดับ ROE ตัวเลขสองหลัก ภายใต้ฐานทุนที่ใหญ่ขึ้น (>150,000 ล้านบาท) ซึ่งทำให้บริษัทสามารถกู้ยืมได้สูงถึง 1 ล้านล้านบาท (เทียบกับอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุน หรือ net IBD/E ที่ 0.8 เท่า ณ สิ้นไตรมาส 4/2567)GULF วางงบลงทุน (CAPEX) ที่ประมาณ 90,000 ล้านบาทในช่วงปี 2568–2572 โดยขณะนี้บริษัทเข้าสู่ช่วง “เก็บเกี่ยวผลตอบแทน” จากการลงทุนจำนวนมากที่ผ่านมา 80% ของงบ CAPEX จะเน้นลงทุนในพลังงานหมุนเวียน 15% ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยสร้างความมั่นคงในกำไรระยะยาว โดยธุรกิจผลิตไฟฟ้าจะคิดเป็นประมาณ 60% ของกำไรรวมของบริษัทคงคำแนะนำ ‘ซื้อ’ แต่ปรับลดราคาเป้าหมายใหม่เป็น 54.00 บาท จากเดิม 63.00 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดกำไรปกติไตรมาส 1/2568 ของ GULFI (GULF เดิมก่อนการควบรวมกิจการ) อยู่ที่ 5,187 ล้านบาท เติบโต 9% QoQ และ 25% YoY ทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาส โดยได้รับแรงหนุนจาก:รายได้รวมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 29,400 ล้านบาท (+8% QoQ, -7% YoY) หลังพ้นช่วง Low Season ของธุรกิจโรงไฟฟ้า IPP ซึ่งส่งผลให้รายได้จากค่าความพร้อมจ่ายและการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3,095 ล้านบาท (+30% QoQ, +73% YoY) จากการเริ่มรับรู้กำไรจากการ COD โรงไฟฟ้าหินกอง หน่วยที่ 2 ขนาด 377 MWe เป็นไตรมาสแรก และส่วนแบ่งกำไรจากโครงการลม BKR2 ที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล
รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจาก INTUCH ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1,900 ล้านบาท ตาม ARPU ที่สูงขึ้นของ ADVANC และการลดต้นทุนระหว่างกันของ ADVANC-TTTBB ในตลาดบรอดแบนด์จากการประเมินของเรา กำไรของ GULFI ที่ระดับดังกล่าวจะสามารถเทียบเคียงกับกำไรปกติของ GULF (NewCo) ที่ประมาณ 5,946 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 23% ของประมาณการทั้งปีงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2568 ที่ 53.25 บาท/หุ้น มี Upside 16.4%
ที่มา..
รายงานโดย ณัฏฐ์ชญา ปุริมปรัชญ์ภัทร บรรณาธิการข่าว Hoonvision