Huawei ท้าชน Nvidia: AI Chip สัญชาติจีนกับสงครามซิลิคอนระดับโลก
แม้ Huawei จะยอมรับอย่างเปิดเผยว่า “ประสิทธิภาพชิป AI ของตนยังเทียบ Nvidia ไม่ได้”
แต่ปีนี้ บริษัทกลับเปิดตัว Roadmap อย่างเป็นทางการครั้งแรกในประวัติศาสตร์
พร้อมส่งสัญญาณชัดเจนถึงโลกว่า จีนจะไม่ยอมเป็นผู้ตามในสนาม AI Infrastructure อีกต่อไป
..

Roadmap ของ Huawei: AI Chip รุ่น Ascend มาแน่ถึงปี 2028
Huawei เปิดตัว Roadmap ของชิป Ascend รุ่นใหม่ตลอด 4 ปีข้างหน้า โดยเริ่มจาก 910C ในปี 2025 และไล่ขึ้นไปถึงรุ่น 970 ในปลายปี 2028
• 1Q26: รุ่น 950PR มีแบนด์วิดท์เพิ่ม 2.5 เท่าเทียบกับ 910C
และเป็นชิปรุ่นแรกที่ใช้ “AI memory chip” ซึ่ง Huawei ออกแบบเอง
• 4Q26: รุ่น 950DT สเปกคล้าย 950PR แต่ใส่แรมเพิ่มอีก
• 4Q27: รุ่น 960 มีพลังประมวลผลและแรม เพิ่ม 2 เท่า จาก 950PR
• 4Q28: รุ่น 970 มีความเร็ว interconnect สูงกว่ารุ่นก่อน และยัง แรงกว่าเดิม 2 เท่า
จุดที่น่าสนใจคือ รุ่น 970 ตั้งเป้าไว้ที่ 4 Tbps interconnect bandwidth
เทียบกับ 1.8 Tbps ของ Nvidia ในปัจจุบัน
Huawei กำลังวางเดิมพันว่า ถ้าแพ้เรื่อง node และ raw compute power ก็จะชนะด้วยการ “จัดกลุ่ม-กระจายงานแบบ super cluster”
..
กลยุทธ์ของ Huawei: ไม่ชนะที่ “1 ชิป” แต่จะชนะด้วย “1 ล้านชิป”
แม้ Ascend 950 รุ่นล่าสุดยังมี performance เพียง 6% ของ Nvidia รุ่น VR200
แต่นั่นไม่ได้ทำให้ Huawei ถอย
Xu Zhijun ประธานบริษัท ประกาศว่า
กลยุทธ์ของจีนไม่ใช่ทำชิปแรงกว่า Nvidia ชิปต่อชิป แต่จะใช้ “การเชื่อมต่อระดับเครือข่าย” และ “การจัดการคลัสเตอร์ขนาดใหญ่” เพื่อชดเชยช่องว่าง
นั่นคือที่มาของคำว่า
“เราจะต่อกรกับ Nvidia ด้วย SuperPod และเทคโนโลยี clustering ในระดับชาติ”
โดย Huawei ตั้งเป้าใช้จุดแข็งดั้งเดิมของตน — ที่เคยเป็นผู้นำตลาดอุปกรณ์สื่อสารระดับโลก — มาเสริมในโลก AI Infrastructure
ซึ่งต้องการการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่าง GPU ที่เร็วในระดับ Tbps
..
เมื่อ AI Chip กลายเป็นเกมภูมิรัฐศาสตร์
สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ Roadmap นี้เปิดเผยก่อนการพูดคุยระหว่าง Xi Jinping กับ Donald Trump เพียง 1 วัน
แสดงให้เห็นว่า Huawei กำลัง ใช้การ์ด AI Chip เป็นเครื่องมือในการต่อรองเชิงนโยบายระดับประเทศ
จีนรู้ว่า Nvidia เป็นเส้นเลือดใหญ่ของ AI โลก
จึงเลือก “หยุดซื้อ” บางชิ้นส่วนจาก Nvidia
และพยายามสร้าง ecosystem ภายในที่ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจาก TSMC, Hynix หรือ ASML
แม้ Huawei ยังไม่เปิดเผยว่าใครจะผลิตชิปรุ่นใหม่ให้
แต่การประกาศ Roadmap ครั้งนี้ ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า จีนอาจเริ่มสร้าง Foundry ระดับกลางที่เพียงพอต่อ Ascend Series ได้ภายในประเทศ
..
ความเสี่ยงที่ยังอยู่: ประสิทธิภาพจริง, Yield และการผลิต
วิเคราะห์จาก Bernstein และ Jefferies ยังไม่ปักใจเชื่อว่าชิปรุ่น 910D หรือ 950PR จะผลิตได้จริงในปริมาณมาก
เพราะ Huawei ยังขาดเครื่องจักรชั้นสูง (เช่น EUV ของ ASML)
และมีประวัติว่าชิปรุ่นก่อนหน้านี้ Yield ต่ำจนต้องเลื่อนเปิดตัว
อย่างไรก็ตาม Huawei เคยทำให้โลกช็อกด้วย Mate 60 Pro ที่ใช้ชิป 7nm ในปี 2023
แม้ไม่มี TSMC และไม่ได้ใช้กระบวนการผลิตระดับโลก
..
มุมมองของนักลงทุน
แม้ Huawei ยังตามหลัง Nvidia ในด้านเทคโนโลยี core
แต่สิ่งที่เห็นคือการ เดินหมากเชิงระบบ เพื่อ “ทดแทน” มากกว่า “เลียนแบบ”
1. ไม่เน้นชิปแรงตัวเดียว แต่เน้นจัดคลัสเตอร์ได้ล้านตัว
2. ไม่พึ่งผู้ผลิตภายนอก แต่สร้าง supply chain ในประเทศ
3. ไม่เปิดตัวเงียบแบบเดิม แต่เปิด Roadmap + Media Blitz เต็มรูปแบบ
นี่อาจเป็น “ปฏิบัติการทวงคืนอำนาจ AI” ของจีนอย่างเป็นทางการ
..
คำถามที่ต้องคิดต่อ
• การกระจายแรงคำนวณด้วย clustering จะจริงได้ในเชิง commercial หรือยังเป็นแค่ทฤษฎี
• รัฐบาลจีนจะกล้าทุ่มงบมหาศาลเพื่อ scale ระบบ SuperPod หรือไม่
• Nvidia จะตอบโต้ด้วยการลดราคา / ตัดฟีเจอร์สำหรับจีนหรือไม่
• ผู้ผลิตอื่นอย่าง Alibaba, Baidu, หรือ SMIC จะเข้าร่วม ecosystem Huawei หรือไปทางอื่น
..
Disclaimer
บทความนี้เพื่อการวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและความเสี่ยงด้วยตนเองก่อนตัดสินใจ
ที่มาเนื้อหา. หุ้นพอร์ทระเบิด