ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงเพราะปัจจัยภายในล้วนๆ :
และปัจจัยภายในประเทศที่ว่านั้นก็คือความอ่อนแอของเศรษฐกิจของไทยและผลประกอบการ Q3/2019 ของบริษัทจดทะเบียนฯ ของไทย และอาจจะมีปัจจัยอื่นๆที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเช่นการประกาศตัด GSP ของทรัมป์ต่อสินค้าไทยในอนาคต เป็นต้น
การปรับตัวในครั้งที่ผ่านๆมาเพราะปัจจัยภายนอกเป็นดังนี้ คือ :
1) ปี พ.ศ 2561 :
1.1) Set Index ทําจุดตํ่าสุดในรอบปีที่แล้วคือปี พ.ศ 2561 ที่ 1,546 จุด เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 ส่วน Down Jones ก็ทําจุดตํ่าสุดในรอบปีที่แล้วเช่นเดียวกันที่ 21,712 จุด เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 ส่วนสาเหตุนั้น เกิดจากการที่เฟดปรับดอกเบี้ย Fed Fund Rate บ่อยและถี่เกินไปถึง 4 ครั้ง ในปี พ.ศ 2561
2) ปี พ.ศ 2562 :
2.1) Set Index ทําจุดตํ่าสุดครั้งแรกในรอบปีที่ 1,599 จุด เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2562 ส่วน Down Jones ก็ทําจุดตํ่าสุดครั้งแรกในรอบปีเช่นเดียวกันที่ 24,680 จุด เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ปี พ.ศ 2562 ส่วนสาเหตุนั้น เกิดจากการปรับขึ้นภาษีสินค้านําเข้าจากจีนจาก 10% เป็น 25% สําหรับสินค้าจํานวน 200,000 ล้าน USD เดิม โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศทวีตผ่าน @realDonaldTrump เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ปี พ.ศ 25622.
2.2) Set Index ทําจุดตํ่าสุดครั้งที่สองในรอบปีที่ 1,590 จุด เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562 ส่วน Down Jones ก็ทําจุดตํ่าสุดครั้งที่สองในรอบปีเช่นเดียวกันที่ 25,339 จุด เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562 ส่วนสาเหตุนั้น เกิดจากการปรับขึ้นภาษีสินค้านําเข้าจากจีนจาก 0% เป็น 10% สําหรับสินค้าจํานวน 300,000 ล้าน USD โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศทวีตผ่าน @realDonaldTrump เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ปี พ.ศ 256 และในขณะเดียวกันกับการเกิด Inverted Yield Curve ครั้งแรกในรอบ 12 ปี เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562
2.3) Set Index ทําจุดตํ่าสุดครั้งที่สามในรอบปีที่ 1,509 จุด เมื่อวันที่ 26 กันยายน ปี พ.ศ 2562 ส่วน Down Jones ก็ทําจุดตํ่าสุดครั้งที่สามในรอบปีเช่นเดียวกันที่ 25,507 จุด เมื่อวันที่ 23 กันยายน ปี พ.ศ 2562 ส่วนสาเหตุนั้น เกิดจากการปรับขึ้นภาษีสินค้านําเข้าจากจีนจำนวน 300,000 ล้าน USD เดิม จาก 10% เป็น 15% และให้มีผลวันที่ 1 กันยายน ปี พ.ศ 2562 ครึ่งหนึ่ง และวันที่ 15 ธันวาคม ปี พ.ศ 2562 อีกจํานวนครึ่งหนึ่ง และจำนวน 250,000 ล้าน USD เดิม จาก 25% ที่เก็บอยู่แล้วเป็น 30% เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562โ ดยทรัมป์ทวีตผ่าน @realDonaldTrump เมื่อวันที่ 23 กันยายน ปี พ.ศ 2562
2.4) Set Index ทําจุดตํ่าสุดครั้งที่สี่ในรอบปีที่ 1,603 จุด เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562 ส่วน Down Jones ก็ทําจุดตํ่าสุดครั้งที่สี่ในรอบปีเช่นเดียวกันที่ 26,078 จุด เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562 ส่วนสาเหตุนั้น เหตุการณ์ PMI ภาค Manufacturing ของสหรัฐอเมริกาที่ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562 ตกตํ่าที่สุดในรอบ 10 ปี
การปรับฐานของ Set Index ลงมาปิดที่ 1,593 จุด โดยทําจุดตํ่าสุดที่ 1,592 จุด เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562 จึงน่าจะเป็นปัจจัยภายในประเทศล้วนๆเพราะ Down Jones ปิดที่ 26,958 จุด เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562
เพราะฉะนั้น ผู้โพสต์จึงมีความเห็นว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะปรับฐานไปซักระยะเวลาหนึ่ง และอาจจะปรับตัวลงไปทําจุดตํ่าสุดใหม่ในรอบปีได้ ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2562 นี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่จะมีการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯ และการเซ็นต์สัญญาการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับชิลีระหว่างวันที่ 16 - 17 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562 และถ้าไม่มีปัจจัยข่าวร้ายจาก 3 ข่าวดังกล่าวข้างต้นใหม่ๆเข้ามาอีก ตลาดหุ้นไทยก็น่าจะปรับตัวเป็นขาขึ้นไปได้จนถึงต้นปีหน้าคือปี พ.ศ 2563 โดยให้สังเกตุดูพัฒนาการใน 3 ด้าน ดังนี้ คือ :
1) ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงและกําหนดการเซ็นต์สัญญาการค้าก็ยังคงเหมือนเดิมคือในวันที่ 16 - 17 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2562
2) เรื่อง Brexit ก็กําลังรอการอนุมัติจาก EU ให้ยืดกําหนดเส้นตายของ Brexit ออกไปจากวันที่ 31 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562 ที่น่าจะรู้ผลภายในสัปดาห์หน้า
3) เฟดก็น่าจะลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในการประชุม FOMC ในวันที่ 30 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562
และที่สําคัญ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังมีอารมภ์ปั่นหุ้นอยู่ดังนี้ คือ :
" The Federal Reserve is derelict in its duties if it doesn’t lower the Rate and even, ideally, stimulate. Take a look around the World at our competitors. Germany and others are actually GETTING PAID to borrow money. Fed was way too fast to raise, and way too slow to cut! " ( 24/10/2019 )
แปลเป็นไทยว่า :
" ธนาคารกลางสหรัฐถูกปลดออกจากหน้าที่หากไม่ได้ลดอัตราดอกเบี้ยลง และเป็นการกระตุ้น ดูคู่แข่งของเราทั่วโลก เยอรมนีและประเทศอื่น ๆ กำลังจ่ายเงินเพื่อกู้ยืมเงิน เฟดเร็วเกินไปที่ปรับขึ้นและช้าเกินไปที่ปรับลง! "
เพราะฉะนั้น ถ้ารอเปิด Long S50H20 ได้ที่ Set Index ที่ 1,510 จุด ก็จะดีมาก!
หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก ( www.settrade.com ), ( www.set.or.th ) และ SETSMART
2) โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Index Futures ตามการปั่นและทุบหุ้นของทรัมป์ได้ใน longtunbysak.blogspot.com และ Group Facebook
ที่ https://www.facebook.com/groups/2088093934817836/