หุ้นไทยปิดบวก 9.80 จุด รับร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้สหรัฐผ่านฉลุย – ราคาน้ำมันดิบปรับสูงขึ้น
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 2 มิถุนายน ปิดที่ระดับ 1,531.20 จุด เพิ่มขึ้น 9.80 จุด (+0.64%) โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวสูงสุดที่ 1,534.49 จุด ต่ำสุดที่ 1,524.52 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,523.30 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 601.82 ล้านบาท ขณะที่กองทุนขายสุทธิ 79.63 ล้านบาท
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค ตอบรับปัจจัยบวกวุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 63 ต่อ 36 เสียง ผ่านร่างกฎหมายการขยายเพดานหนี้ จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อลงนามบังคับใช้ต่อไป รวมถึงนักลงทุนยังคาดการณ์ธนาคารสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.นี้ เนื่องด้วยอัตราดอกเบี้ยสหรัฐปัจจุบันขึ่นมาอยู่ที่ระดับ 5% สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ราว 4% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของเฟด ทำให้ภาพรวมผ่อนคลายมากขึ้น
ขณะที่ราคาน้ำมีนดิบก็ปรับตัวขึ้น ทำให้มีแรงหนุนต่อหุ้นกลุ่มน้ำมันในวันนี้ อีกทั้งนักลงทุนก็รับปัจจัยลบเกี่ยวกับการเมืองในประเทศไปพอสมควรแล้ว
แนวโน้มสัปดาห์หน้า คาดตลาดฯ ยังมี Momentum เชิงบวก โดยแนะติดตามการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนพ.ค.ของสหรัฐในวันนี้ ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นราว 190,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงาน คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 3.5% จากระดับ 3.4% ในเดือนเม.ย. รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อของไทยในวันอังคารหน้า คาดจะปรับตัวลงสู่ระดับ 1.5% หนุนตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ต่อ ให้แนวรับไว้ที่ 1,520 จุด และแนวต้าน 1,550 จุด
5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด
– DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,568.97 ล้านบาท ปิดที่ 99.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
– SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,392.93 ล้านบาท ปิดที่ 105.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
– AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,349.43 ล้านบาท ปิดที่ 70.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
– KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,305.52 ล้านบาท ปิดที่ 131.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
– TTB มูลค่าการซื้อขาย 1,228.38 ล้านบาท ปิดที่ 1.67 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท