ห้องเม่าปีกเหล็ก

ยังมีหวัง! หุ้นไทยมีโอกาสเกิด Election Rally

โดย หมาฝัน
เผยแพร่ :
156 views

ยังมีหวัง! หุ้นไทยมีโอกาสเกิด Election Rally

ช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนเลือกตั้ง

ลุ้นกระแสเงินฟันด์โฟลว์ไหลเข้า ดันดัชนีฟื้น

.

จากสถิติช่วงก่อนการเลือกตั้งและและหลังการเลือกตั้งดัชนีมักจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีหรือเกิด Election Rally ซึ่งการการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พ.ค. นี้ หลายฝ่ายก็คาดหวังว่าดัชนีจะตอบรับในเชิงบวกเช่นเดียวกัน แต่หากดูข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์จะพบว่า ตั้งต้นปี 2566 จนถึงปัจจุบัน SET Index ยังให้ผลตอบแทนติดลบที่ 6.38% ขณะเดียวกันนักลงทุนต่างชาติก็ยังทยอยขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง

.

แต่วานนี้ (8 พ.ค. 66) นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยสูงถึง 4.1 พันล้านบาท จึงเกิดเป็นข้อสงสัยว่า นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ Election Rally หรือไม่ และมีโอกาสที่เงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติจะไหลเข้าหุ้นไทยต่อเนื่องไหม

.

โดย Wealthy Thai ได้สอบถามไปยังนายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ซึ่งให้มุมมองว่า มีความเป็นไปได้ที่แรงซื้อหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันวานนี้รวมกว่า 6.1 พันล้านบาทจะเป็น Election Rally เพราะก่อนหน้านี้เรามีวันหยุดยาวจำนวนมาก อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติก็อยู่ในลักษณะทยอยขายหุ้นไทยออกมาต่อเนื่อง

.

ดังนั้นเมื่อผ่านวันหยุดยาว และมีความชัดเจนจากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ของสหรัฐ จึงทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งหุ้นไทยก็ได้รับอานิสงส์ด้วย หลังจากช่วงที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยค่อนข้างมาก

.

สำหรับ Election Rally หากดูสถิติย้อนหลัง จะพบว่าคนที่เข้าซื้อจะเป็นนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก ค่าเฉลี่ยของนักลงทุนต่างชาติที่เข้าซื้อหุ้นไทยในช่วงก่อนและหลังการเลือกตั้งมีไม่มาก เพียงแต่ว่ารอบนี้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยออกมาเยอะ จึงคาดหวังว่าแรงขายในระยะถัดไปจะชะลอตัวลง ประกอบกับเริ่มเห็นแรงซื้อในฝั่งนักลงทุนสถาบันในเดือนที่ผ่านมาค่อนข้าวชัด ก็คาดหวังว่าในช่วงนี้จะเห็น Election Rally ได้บ้าง

.

อย่างไรก็ตาม ด้วยตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นแรง จึงมองว่าระยะสั้นดัชนีอาจไม่ได้ปรับตัวขึ้นแรงอย่างต่อเนื่อง เว้นแต่ว่าตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่จะประกาศในคืนวันพุธนี้จะออกมาในเชิงบวก ก็อาจจะเป็นแรงหนุนให้ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวได้ ทั้งนี้ หากผลการเลือกตั้งออกมาเสียงขาด สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็จะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นเช่นเดียวกัน

.

ส่วนกลยุทธ์การลงทุน ก่อนหน้านี้เราแนะนำให้นักลงทุนเข้าสะสมในช่วงที่ตลาดปรับตัวลงบริเวณ 1,590 -1,500 จุด ซึ่งดัชนีปรับลงไปแตะบริเวณดังกล่าวก่อนจะรีบาวน์ขึ้นมา เพราะฉะนั้นกลยุทธ์การลงทุนจึงเป็นการถือลงทุนต่อเนื่อง โดยแนะนำหุ้นที่อ้างอิงกับการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก เช่น หุ้นกลุ่มค้าปลีก หุ้นอาหาร หุ้นเครื่องดื่ม หุ้นโรงไฟฟ้า และหุ้นสื่อสาร

.

นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์น่าจะได้รับอานิสงส์จากอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่คาดจะถึงจุดพีคในช่วงกลางปีนี้ หลังจากนั้นจะเป็นภาพของการคงอัตราดอกเบี้ยหรือปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ดังนั้นกลุ่มไฟแนนซ์จึงน่าสนใจ ในขณะที่หุ้นส่งออกและพลังงานที่อ้างอิงกับเศรษฐกิจโลก เรายังไม่แนะนำลงทุน เพราะเชื่อว่าในประเทศน่าจะแข็งแรงกว่าปัจจัยภายนอก

 

 


หมาฝัน