“เลือกตั้ง-ดอกเบี้ยหนุนศก.-ต่างชาติซื้อต่อเนื่อง”...
ปัจจัยหนุน “หุ้นไทย” ปีกระต่ายไปไกลเกิน 1,800 จุด !!!

.
Fun of Funds: “ปีกระต่าย” เป็นอีกปีที่ “ตลาดหุ้นไทย” ดูเจิดจ้ากลับมาอยู่ในเรดาห์นักลงทุนทั่วโลกอีกครั้ง
.
เพราะนี่คือหนึ่งในสองประเทศนอกจาก “จีน” ที่เศรษฐกิจปีนี้ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากปีก่อน ในขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ในโลกชะลอตัว และบางแห่งยังเสี่ยงเข้าสู่ภาวะ “เศรษฐกิจถดถอย” (Recession) อีกด้วย
.
“หุ้นไทย” ปิดสิ้นปี22 ที่ระดับ 1,679.03 จุด +0.7% แต่ปี23 นี้ ตลาดให้เป้ากันมีลุ้นเห็น 1,800 จุด มีอัพไซด์ประมาณ 7% ก็ถือว่ายังโอเคในสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวเช่นนี้
.
อะไรคือเสน่ห์ของ “หุ้นไทย” ในปีกระต่ายนี้ ตามทีมงาน ‘โต๊ะกองทุน Wealthythai’ ไปอัพเดทพร้อมๆ กันได้เลย
.
“หุ้นไทย” ดูดี “ไม่ถูก-ไม่แพง”...แต่ก็มีตลาดอื่นที่น่าสนใจกว่าโดยเปรียบเทียบ “จีน-เวียดนาม” ถูกกว่า
.
โดย “ชาคริต พืชพันธ์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายบริหารกองทุน บลจ.เอ็มเอฟซี มองว่า “หุ้นไทย” ปีนี้น่าจะดีกว่าในปีก่อนเป็นไปตามแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศไทยที่เติบโตดีกว่าปีที่แล้ว ถือว่าเป็นตลาดที่โดดเด่นกว่าตลาดอื่นๆ ในภูมิภาค ในแง่ของมูลค่าก็ถือว่า “ไม่ถูก-ไม่แพง” เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต แต่ถ้ามองโดยเปรียบเทียบก็มีตลาดอื่นที่น่าสนใจกว่าเช่นกันและ “ถูกกว่า” ด้วย ได้แก่ “จีน-เวียดนาม” ซึ่งนั่นอาจจะทำให้เม็ดเงินต่างชาติที่จะไหลเข้าไทยในปีนี้อาจจะไม่มากเท่าปีก่อนที่เข้ามากกว่า 2 แสนล้านบาท เพราะเขาก็คงกระจายไปที่ 2 ตลาดนี้ด้วยเช่นกัน
.
“เรามองเป้าหมายดัชนี SET Index ปีนี้ไว้ที่ 1,770 – 1,800 จุด ที่ Forward P/E 16.25 เท่า โดยในกรณีแย่สุดมองกรอบล่าวไว้ที่ระดับ 1,580 จุด น่าจะรับอยู่ โดยภาพรวมต้องถือว่าหุ้นไทยทุกกลุ่มน่าสนใจแตกต่างกันออกไป แต่ก็ต้องเลือกหุ้นที่ลงทุนด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ลักษณะที่จะดียกกลุ่มอะไรแบบนั้น ซึ่งกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ กลุ่มที่เกี่ยวกับ Commerce, การบริโภคในประเทศ, ท่องเที่ยว (ต้องเลือก), แบงก์-สถาบันการเงิน โดยเฉพาะปีนี้ดอกเบี้ยไทยขาขึ้น ตัวส่วนต่างรายรับดอกเบี้ย (NIM) จะปรับตัวดีขึ้น คุณภาพสินทรัพย์ก็จะดีขึ้นแต่ก็ต้องเลือกหุ้นลงทุนเช่นกัน”
.
มองบวก “หุ้นไทย” ให้เป้าสูง 1,874 จุด อัพไซด์กว่า 14%...มั่นใจพื้นฐานศก.ดี-ดอกเบี้ยหนุน
.
เช่นเดียวกับ “ณัฐพล จันทร์สิวานนท์” กรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการลงทุน บลจ.แอสเซท พลัส ที่ยกให้ “หุ้นไทย” เป็นหนึ่งในตลาดที่น่าสนใจลงทุนในปีนี้ มีเซอร์ไพรส์เชิงบวกจากการที่จีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาด เศรษฐกิจไทยในปีนี้ก็ขยายตัวต่อเนื่องจาก 3.2% ในปีก่อน เป็น 3.8% ในปีนี้ โตสูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งสหรัฐและยูโรโซนขยายตัวได้เพียง 0.4% และติดลบ 0.1% ตามลำดับ ปีนี้ยังมีการเลือกตั้ง ที่จะตามมาด้วยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ตามมา เงินเฟ้อก็มีแนวโน้มชะลอตัวลงในปี23 และ 24 ตามราคาน้ำมันและอาหารสดที่คาดว่าจะปรับตัวลงมา
.
“ปี22 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 182,783 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 22 ปี และคาดว่ายังจะเข้ามาต่อเนื่องในปีนี้ด้วย การกลับมาแข็งค่าของเงินบาททำให้แบงก์ชาติไม่จำเป็นต้องรีบเร่งขึ้นดอกเบี้ยด้วย คาดการณ์ กนง. มีแนวโน้มปรับดอกเบี้ยขึ้นอีก 2-3 ครั้ง จาก 1.25% เป็น 1.75-2.00% เพื่อลดช่องว่างระหว่าง ดอกเบี้ยนโยบายไทยและสหรัฐ โดย กนง. ยังคงการปรับนโยบายการเงินแบบยืดหยุ่นและทันต่อสถานการณ์ซึ่งดีต่อตลาดหุ้น ในขณะที่นักท่องเที่ยวปีนี้จะกลับมาสู่ระดับปกติที่ประมาณ 20 ล้านคน เรามองเป้าหมายดัชนี SET Index ปีนี้ไว้ค่อนข้างดีที่ระดับ 1,874 จุด ที่ P/E 17 เท่า คิดเป็นอัตราผลตอบแทนคาดหวังประมาณ 14.43% โดยกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ ท่องเที่ยว และค้าปลีก ในกรณีแย่ดัชนีที่ 1,543 จุด”
.
เศรษฐกิจไทยในปีนี้แม้จะทรงดี แต่ภายใต้มรสุมเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัว ก็เป็นหนึ่งในความเสี่ยงที่อาจจะทำให้ไปได้ไม่ดีเท่าที่หลายฝ่ายคิดได้เช่นกัน แต่ในปีกระต่ายนี้ “หุ้นไทย” ก็พร้อมกลายร่างเป็น “กระทิงเขียว” ที่โดดเด่นและฉุดไม่อยู่ตลาดหนึ่งในโลกเลยทีเดียว