ห้องเม่าปีกเหล็ก

สภาวะตลาดหลัง Circuit Breaker จะเป็นอย่างไรต่อไป

โดย SiTh LoRd PaCk
เผยแพร่ :
49 views

เรียกได้ว่า "ทึ่ง" กันไปตามๆกันสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่เข้าตลาดมาได้ไม่นาน จะต้องเจอกับบททดสอบครั้งใหญ่ของตลาดหุ้นไทยที่เจอกับ Circuit Breaker ติดกัน 2 วันติด ไม่ใช่แค่หุ้นไทยเท่านั้น แต่หุ้นทั่วโลกก็เจอเหมือนกับเรา เพียงแค่ของเรา "ลงหนัก" กว่าเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นของประเทศอื่น

คำถามที่น่าสนใจ คือ ตลาดหุ้นหลัง Circuit Breaker จะเป็นอย่างไรต่อไป ... ?

จากที่เคยเห็นและผ่านสภาวะตลาด Circuit Breaker มาครบ 5 ครั้งแล้ว พอจะบอกลักษณะได้ 3 ประการ ดังนี้ครับ

 

1. ตลาดจะแกว่งตัว 40-60 จุด ต่อวันเป็นเรื่องปกติ
วันไหนที่บวกแรง ก็จะบวกแรงระดับ 20-40 จุด แต่ถ้าร่วงแรงก็จะร่วง 30-50 จุด ต่อวัน แต่ด้วยสภาวะตลาดหุ้นไทยที่เป็น Bear Market ก็จะเห็นภาพของการลงจะลงแรง "ทั่วทั้งตลาด" มากกว่าภาพของการขึ้นที่ช้า "เป็นกลุ่ม"

เราสามารถอธิบายตามหลักจิตวิทยาได้ว่า เวลาหุ้นลง จะเกิด Panic Sell คือคนอยากขายมากกว่าจะซื้อหุ้น บางคนอาจจะอยากลดพอร์ตถือเงินสด บางคนมีเงินแต่ไม่อยากซื้อหุ้น รอหาจุดต่ำสุดก่อน ค่อยซื้อ ทำให้หุ้นยิ่งลงหนักเข้าไปอีก ..
ในขณะที่หุ้นขึ้น ด้วยปริมาณเงินที่เข้ามาเก็งกำไร (หรือซื้อเพื่อถือยาว) มีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้นการเข้าซื้อจะเป็นลักษณะ "Rotation" หมุนเวียนกันเป็นกลุ่มๆ วันนี้หุ้นกลุ่มนี้ขึ้น อีกกลุ่มลง วันถัดไปก็สลับกลุ่มกันเล่น

 

2. ตลาดจะวิ่งแบบ V-Shape ทั้งขึ้นและลง
แน่นอนว่าเวลาฟื้นตัว จะฟื้นแบบ V-Shape แต่เวลาลงก็จะเป็นแบบ V-Shape ด้วยเช่นเดียวกัน อาจจะมีการเปิดกระโดด ที่ภาษานักเทคนิเคิลเรียกกว่า "แก๊ป" (Gap) คือหุ้นเปิด gap นั้นเอง เป็นช่วงเวลาของความผันผวนหนัก ถ้าใจไม่แข็งพอหรือสนใจแต่ราคาหุ้นมากเกินไป อาจจะโดนตลาดหลอกให้ขายหุ้น หรือเข้าซื้อหุ้นได้ นั้นเองครับ

 

3. สภาวะผันผวนหนักเช่นนี้ อาจจะกินระยะเวลายาวนาน 4-5 เดือน
ความผันผวนหนักแบบนี้ จะอยู่กับเราไปอีกประมาณ 4-5 เดือน ด้วยปริมาณการซื้อขายที่น้อยลงเรื่อยๆ เข้าสู่สภาวะ "ซบเซา" ปริมาณการซื้อขายเบาบาง เหลือเพียงผู้เล่นไม่กี่คน เช่นนักลงทุนสถาบัน กองทุน นักลงทุนรายย่อยบางกลุ่มที่เน้นการถือยาวเป็นหลัก

 

สรุปแล้ว หลังจากหุ้นไทยโดน Circuit Breaker เราจะเจอกับสภาวะที่หุ้นผันผวนหนัก แกว่งตัว 30-50 จุดต่อวัน และกินระยะเวลาไปอีกหลายเดือน ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ลดลงเรื่อยๆ จนเข้าสู่สภาวะซบเซา น่าเบื่อ ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น คนออกจากตลาดไปกันหมด คนเลิกคุยถึงเรื่องหุ้น

แต่ทั้งนี้ก็อยากฝากข้อคิดด้วยว่าสภาวะตลาดที่ลงมามาก ก็จะมีกลุ่มคนที่ขาดทุนหนัก และกำไรมาก อยู่ที่ว่าเราจะจัดการกับพอร์ตตัวเองอย่างไร มองเห็นโอกาสได้หรือไม่
.. อยู่ที่ตัวเราเองแล้วครับว่าจะเลือกยืนอยู่ฝ่ายไหน


SiTh LoRd PaCk