มีหุ้นอยู่ประเภทหนึ่ง ที่มีนักลงทุนจำนวนมากให้ความสนใจ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการกระแสเงินสดไว้ใช้จ่าย เช่น นักลงทุนเต็มเวลา นักลงทุนวัยเกษียณ นักลงทุนที่เทียบผลตอบแทนการลงทุนกับดอกเบี้ยธนาคาร หุ้นประเภทนั้นคือ “หุ้นที่จ่ายปันผลสูงๆ” ซึ่งพอดีตอนนี้ ตรงกับช่วงเวลาจบไตรมาส 1 ขึ้นต้นไตรมาส 2 ในทางปฏิทินหุ้นถือกันว่าเป็นเทศกาล “จ่ายปันผล” นั่นเองก็มีตั้งแต่การประชุมผู้ถือหุ้น ขออนุมัติจ่ายปันผล ประกาศปันผลกำหนดวัน XD และการจ่ายปันผลจริงๆ
คำถามที่น่าสนใจ คือ “หุ้นปันผลเยอะๆดีจริงไหม?
คำตอบของผมคือ “มีทั้งดีและไม่ดี”
เราต้องไม่ลืมพื้นฐานที่ว่า การที่หุ้นหรือกิจการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะมอบผลตอบแทน(กำไร)ให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ สามารถทำได้ 2 ทาง คือ
หนึ่ง..กำไรจากการขายหุ้น ที่มีราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าต้นทุนที่ซื้อมา (Capital Gain Yield)
สอง..กำไรจากเงินปันผล (Dividend Yield)
ที่มาของผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นทั้งสองข้อ มาจากกฏพื้นฐานสำคัญที่สุดว่า .. กิจการต้องทำธุรกิจมีกำไร!!!
ซึ่งกำไรสุทธิทุกไตรมาส ทุกปีนั้น กิจการสามารถเลือกที่จะจ่ายปันผลออกมาตอบแทนผู้ถือหุ้นก็ได้ หรือ เก็บกำไรนั้นไว้เพื่อรักษาสภาพคล่อง หรือนำไปลงทุนขยายกิจการก็ได้ หาไม่แล้ว หากกิจการจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนก็กลายเป็นต้องกู้ยืม ส่งผลให้มีภาระดอกเบี้ยจ่ายและค่า D/E (Debt to Equity ratio) สูงขึ้น หรือแย่ไปกว่านั้นบางกิจการอาจเรียกเพิ่มทุน เรียกเงินสดจากผู้ถือหุ้น ซึ่งไม่มีใครชอบ
แล้วความน่าลงทุน กับการจ่ายปันผล สัมพันธ์กันหรือไม่? ขอยกตัวอย่างต่อไปนี้
1. บางกิจการกำลังเติบโตอยู่ในช่วง Growth อาจจะมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บกำไร ไว้ขยับขยายกิจการ ขยายสาขา ขยายโรงงาน ขยายโครงข่าย จึงยังไม่จ่ายปันผล หรือ จ่ายปันผลเป็นหุ้น แทนที่จะจ่ายออกเป็นเงินสดจริงๆโดยที่มีรายได้และกำไรเติบโตขึ้นตลอด ก็จัดเป็นกิจการที่ดี มีอนาคตหุ้นที่ไม่จ่ายปันผล(หรือปันผลเป็นหุ้น)แบบนี้ก็จัดว่าน่าลงทุน
2. บางกิจการที่เติบโตเต็มที่ จนกลายเป็นหุ้นแข็งแกร่ง มีแผนขยายกิจการ แต่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนมาก อาจจะจ่ายปันผลได้สูงตั้งแต่ 3% ขึ้นไป มีลักษณะเป็นหุ้นห่านทองคำ หรือบางคนเรียก cash cow แม่วัวที่รีดนมได้เรื่อยๆ แบบนี้ก็ตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการเงินปันผลได้เป็นอย่างดี แถมยังได้ความแข็งแกร่งของกิจการด้วยหุ้นจ่ายปันผลสูงแบบนี้ก็น่าลงทุน
3. บางกิจการอยู่ในธุรกิจที่โตช้า หรือไม่โตอีกแล้ว อยู่ในอุตสาหกรรมตะวันตกดิน โรงงานก็มีอยู่เท่านั้น สาขาก็มีอยู่เท่านี้ สินค้าก็จะมีอยู่แค่นั้น แทบไม่มีความต้องการใช้เงินลงทุนใหม่ แต่กิจการยังพอมีกำไรทุกปี กำไรเท่าไหร่จ่ายปันผลได้หมด เป็นหุ้นที่จ่ายปันผลได้เยอะ แต่กิจการไม่เติบโตอีกแล้ว จะไม่มีแผนการขยายหรือพัฒนาอะไรต่อได้อีก แบบนี้ผมเห็นว่าไม่น่าลงทุน
ถึงตรงนี้ ผู้อ่านคงพอจะเห็นภาพว่า การจ่ายปันผลได้มากๆ ไม่ได้เป็นตัวแปรหนึ่งเดียวในการตัดสินใจลงทุนหรือไม่ลงทุน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของกิจการคือ กำไร และ อนาคตของกิจการ อย่าลืมว่า หากกิจการสามารถเอาเงินที่จะจ่ายปันผล ไปลงทุนขยายกิจการ แล้วทำให้กิจการเติบโตขึ้น รายได้เพิ่ม กำไรเพิ่ม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้นั้น ที่สุดแล้ว … ราคาหุ้นก็จะเพิ่มขึ้น
เพราะฉะนั้นบทสรุปของการเลือกหุ้นเพื่อการลงทุน อย่าดูที่เงินปันผลเพียงอย่างเดียว ต้องดูว่ากิจการนั้น มีรายได้เพิ่ม มีกำไรเพิ่ม เติบโตอย่างต่อเนื่องหรือไม่ อย่างไรด้วยครับ.
บทความโดย : อธิป กีรติพิชญ์ (Facebook Fanpage : นิ้วโป้ง Fundamental VI)