ห้องเม่าปีกเหล็ก

ความมั่งคั่งของ "พิชญ์" หายไป

โดย Edrink
เผยแพร่ :
245 views

ความมั่งคั่งของ "พิชญ์" หายไป 4.5 หมื่นล้านบาท เมื่อหุ้นเหมือง bitcoin อย่าง JTS ราคาร่วงหลุด 100 บาท

 

Wealthy Thai ได้ทำการสำรวจข้อมูลความมั่งคั่ง หรือความรวยของ พิชญ์ โพธารามิก ในช่วงที่ผ่านมาพบว่าความมั่งคั่งหายไปกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท หลังจากที่ราคาหุ้นของ JTS ที่เคยวิ่งไปเกือบ 600 บาทต่อหุ้นนั้น ดิ่งตัวลงมาแรงจนหลุดราคา 100 บาทต่อหุ้น มิหนำซ้ำราคาหุ้นในพอร์ตอย่าง JAS และ MONO ก็ปรับลดลงด้วยเช่นกันนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ความร่ำรวยของ “พิชญ์” หายไป


ความมั่งคั่งหรือความร่ำรวยของ “พิชญ์ โพธารามิก” หายไปกว่าเกือบครึ่งแสนล้านบาท หลังจากที่ราคาหุ้นของบริษัทที่เขาอยู่ทั้ง 3 บริษัทนั้น กำลังดิ่งเข้าหาจุดต่ำสุดของปีนี้ โดยก่อนหน้านี้ความร่ำรวยของ พิชญ์ โพธารามิก เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเมื่อราคาหุ้น JTS ทะยานขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 594 บาทต่อหุ้น ดันมูลค่าบริษัททะลุกว่า 4.2 แสนล้านบาท


โดยในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้น  JTS ปรับตัวลดลงอย่างน่าใจหาย หลังจากที่ในช่วงตั้งแต่ต้นปี ราคาหุ้นของ JTS ไต่ระดับขึ้นมาเรื่อยๆจนปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 594 บาท ไทม์ไลน์ราคาหุ้นของ JTS ก็ปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง จากระดับที่ใกล้เคียงกับ 600 บาทต่อหุ้น จนราคาหุ้นทำระดับ Low ของปีนี้ ที่ 88 บาท 


สิ่งที่ราคาหุ้น JTS ต้องเผชิญไม่ว่าจะเป็นกระแสของคริปโทที่กำลังเข้าสู่ในช่วงขาลง เพราะราคา Bitcoin ปรับลดลงจนนักลงทุนที่ชอบความเสี่ยงแบบหวือหวายังต้องกระโดดของจากวงการคริปโท ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่ามาจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในช่วงนั้นกำลังปรับตัวขึ้นสูง


ส่งผลให้เฟดจะต้องทำการปรับขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงนโยบายการดึงเงินกลับ จึงทำให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างเงินดิจิทัลจะต้องได้รับผลกระทบจากส่วนนี้ไปด้วยเช่นกัน จึงทำให้ความเซ็กซี่ของธุรกิจเหมืองขุดคริปโทของ JTS หมดลงไปด้วยเช่นกัน แต่ยังคงต้องจับตาดูว่ากระแสคริปโทจะกลับมาได้อีกเมื่อไหร่


ไม่เพียงแต่ราคาหุ้นของ JTS แต่ราคาหุ้น JAS และ MONO ที่ “พิชญ์” ถืออยู่ในมือก็ปรับลดลงด้วยเช่นกัน ซึ่งจากการสำรวจข้อมูล Wealthy Thai พบว่าหายนะของราคาหุ้น JTS ที่ดิ่งตัวจนหลุดราคาหลักร้อยบาท จากระดับราคาสูงสุดที่ 594 บาท และต่ำสุดที่ 88 บาท 


โดย “พิชญ์” ถือหุ้น JTS จำนวน จำนวน 67,748,400 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 9.59% ซึ่งเมื่อตอนราคาหุ้น JTS ขึ้นไปสูงสุดที่ 594 บาท ทำให้ “พิชญ์” มีความมั่งคั่งอยู่ที่กว่า 40,242 ล้านบาท และเมื่อตอนที่ JTS ปรับลดลงไปต่ำสุดที่ 88 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้ความมั่งคั่งเหลือแค่เพียง 5.9 พันล้านบาท เท่ากับว่าความรวยหายไปกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท


รวมไปถึงราคาหุ้นของ JAS ที่ทำจุดสูงสุดในปีนี้ได้ 4.20 บาทและดิ่งลงต่ำสุดของปีที่ราคา 2.48 บาท ซึ่ง “พิชญ์” ถือหุ้น JAS จำนวน 4,696,043,783 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 54.65%  โดยการที่ราคาหุ้น JAS ปรับตัวลดลงมากว่า 69% ส่งผลให้ความมั่งคั่งของ “พิชญ์” หายไปจำนวน 8,077 ล้านบาท


เช่นเดียวกับราคาหุ้น MONO ที่ก่อนหน้านี้เคยทำราคาสูงสุดที่ 3.10 บาท และในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นเคยวิ่งลงไปหาจุดต่ำสุดของปีที่ 1.38 หรือปรับตัวลดลงไปกว่า 55.48% เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งจากข้อมูลระบุว่า “พิชญ์ โพธารามิก” ถือหุ้น MONO จำนวน 2,052,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 59.12%นั้น ทำให้ความมั่งคั่งหายไปกว่า 3,529 ล้านบาท 


ดังนั้นหากดูภาพรวม จะพบว่าความมั่งคั่งหรือความร่ำรวยของ “พิชญ์ โพธารามิก” หายรวมกันไปกว่า 4.58 หมื่นล้านบาท แค่เพียงในระยะเวลาไม่กี่เดือน หลังจากที่ราคาหุ้น JTS ดิ่งแรงจนหลุดหลักร้อยบาท และราคาหุ้น JAS กลับไปสูงระดับต่ำสุดที่ 3.10 บาท เช่นเดียวกับราคาหุ้น MONO ที่ปรับลดลงหาจุดต่ำสุดของปีนี้

 

 


Edrink