เปิดประวัติ “บอย ท่าพระจันทร์"
ตำนานกระเพาะปลา

.
บอย ท่าพระจันทร์ หรือ อรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย เป็นเซียนพระชื่อดังที่ได้เข้ามาในวงการหุ้นด้วยการเป็นนักลงทุนสายเทรด
.
เส้นทางในวงการพระเครื่อง
เส้นทางในวงการพระเครื่องของ บอย ท่าพระจันทร์ เริ่มตั้งแต่ตอนที่เขาได้บวชเณร ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเหรียญไหนจริง เหรียญไหนปลอม บรรดาเณรที่บวชอยู่ด้วยกันได้เอาพระเครื่องมาโชว์กันอย่างสนุกสนาน แต่ตัวเขานั้นกลับไม่มีพระเครื่องเป็นของตัวเองเลย
.
ทำให้เมื่อสึกออกมาแล้วเด็กชายบอยได้นำรถของเล่นของตัวเองไปแลกกับพระเครื่องของเพื่อน ๆ แถวบ้าน นั่นคือจุดเริ่มต้นของความหลงไหลพระเครื่องของบอย ท่าพระจันทร์อย่างแท้จริง รู้เพียงแต่ว่าชอบพระเครื่องจึงสะสมมาเรื่อย ๆ
.
ตั้งแต่นั้นมาตนจึงเริ่มหันมาสนใจอย่างจริงจัง ส่องพระทุกวัน หาความรู้ทุกวัน จนไปสะดุดตากับพระองค์หนึ่ง ก็ค่อย ๆ ศึกษาหารายละเอียดจนรู้ว่าองค์ละ 1 ล้านบาท แต่สุดท้ายก็เป็นพระปลอม
.
ประสบการณ์ครั้งนั้นสอนให้ บอย ท่าพระจันทร์ หันมาศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับพระเครื่องอย่างจริงจัง ด้วยความอยากรู้ว่าพระรุ่นไหนปลอม รุ่นไหนจริง พยายามหาซื้อหนังสือพระมาอ่าน มาค้นคว้า โดยพระเครื่องที่ บอย ท่าพระจันทร์ เริ่มศึกษาอย่างจริงจังคือ "หลวงปู่โต๊ะ" วัดประดู่ฉิมพลี
.
ด้วยความรักในการดูพระเครื่องอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ทำให้บอยเข้าไปคลุกคลีอยู่กับเซียนพระในตลาดพระเครื่องที่ใหญ่ที่สุดในเวลานั้นคือ “ท่าพระจันทร์” โดยช่วงแรกก็อาศัยครูพักลักจำจากผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ แลกกับการเฝ้าตู้เช็ดตู้พระเครื่องพลางเดินหาพระเครื่องมาปล่อยทำกำไรสั่งสมประสบการณ์อยู่หลายปี บวกกับความที่ชอบศึกษาหาความรู้ใส่ตัวอยู่ตลอดจนทำให้จากเด็กคนหนึ่งที่ไต่เต้าจากไม่มีอะไร เติบโตมาจนดูพระเก่งกาจสามารถฟันธงเรื่องพระแท้และปลอมได้ กล้าจ่ายตังค์หลักแสนหลักล้านได้ จนเซียนพระด้วยกันให้การยอมรับอย่างมากมายจนเป็นที่ยอมรับในวงการพระเครื่อง
.
บอย ท่าพระจันทร์ กล่าวว่า “เซียนกับการพลาดพลั้งนั้นเป็นของคู่กัน ‘สาเหตุหลัก ๆ มาจากความโลภเป็นส่วนใหญ่ เช่นพระงองค์นึงปล่อยได้ 5 แสน เจ้าของเอา 4-5 หมื่น ด้วยความที่เราอาจจะรีบหรือลนกลัวเจ้าของไม่ปล่อยเราตัดสินใจไปด้วยความรวดเร็วไม่ได้ไตร่ตรองโดยละเอียดนั่นคือโอกาสที่เราพลาดแล้ว พระที่เราพลาดส่วนใหญ่ไม่ใช่พระเหรียญ จะเป็นพระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อชิญที่เราไม่ชำนาญ”
.
“ถ้าคุณจะอยู่ในวงการพระโดยที่คนที่ยอมรับคุณว่าเป็นเซียน เซียนคนไหนไม่เคยโดนพระปลอม เซียนคนนั้นขี้โม้ เซียนคนไหนไม่เคยโดนพระเก๊ แปลว่าเซียนคนนั้นไม่เคยจ่ายตังค์” บอย ท่าพระจันทร์ กล่าว
.
สู่การเป็นเซียนหุ้นนักเทรด
เริ่มต้นจากการเข้าไปเรียนหลักสูตรพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือหลักสูตร RE-CU ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตอนนั้นในคลาสมีคนเรียนทั้งหมด 160 คน คนในคลาสจะพูดคุยกันแต่เรื่องหุ้น ซึ่งเขามีความรู้เป็นศูนย์ และก็ยังไม่ได้สนใจเรื่องหุ้น
.
จนกระทั่งมาเจอลูกค้าคนหนึ่งมาบอกว่า มีหุ้น IPO ตัวใหม่ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นไทย มียอดจัดสรรหุ้นอยู่จำนวนหนึ่ง ตอนนั้นราคาหุ้นละ 11.40 บาท ‘บอย’ จึงได้ขอลงทุนไปประมาณ 1 ล้านหุ้น
.
รวมเป็นเงินลงทุน 11.40 ล้านบาท จึงโทรหาเพื่อนที่เล่นหุ้นขอแบ่งกันคนละครึ่ง วันที่เปิดเทรดวันแรกราคากระโดดขึ้นมา 13.40 บาท ได้กำไร 2 ล้านบาท แบ่งกันคนละครึ่ง พอได้เงินมาก็เริ่มรู้สึกว่า “ทำไมได้เงินง่ายขนาดนี้” จึงเริ่มสนใจวงการหุ้น
.
“ตลาดเช่าพระเครื่อง เทรดกันปีละประมาณ 1 แสนล้านบาท ถือว่าเป็นมูลค่าที่สูงมาก แต่สำหรับตลาดหุ้นแสนล้านใช้เวลาเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น” นี่คือคำกล่าวของ”อรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย” หรือ ”บอย ท่าพระจันทร์” เซียนพระเบอร์ต้นๆของประเทศ ที่ได้ผันตัวเองมาศึกษา และเรียนรู้การลงทุนในตลาดหุ้น
.
การเช่าพระ(ซื้อขาย)ด้วยมูลค่าหลักพันล้านบาท ในระยะเวลาอันสั้น สำหรับวงการพระถือว่ายากมาก แต่สำหรับตลาดหุ้นง่ายมาก ประเด็นดังกล่าวน่าจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ บอย ท่าพระจันทร์ ก้าวเข้าสู่วงการหุ้น
.
ตำนานกระเพาะปลาเก่า
กระเพาะปลาเก่าที่เป็นของแท้ มีราคาสูงมากในตลาด โดยเชื่อกันว่า กระเพาะปลาเป็นอาหารที่ในเมืองจีนนิยมบริโภคมาอย่างยาวนานกว่า 1 พันปี โดยในตำราจีนระบุว่า กระเพาะปลามีสรรพคุณบำรุงเลือด ตับ และไต เลือดลมไหลเวียนดี เพิ่มกำลังวังชา เพิ่มอายุวัฒนะ และอื่น ๆ อีกมากมาย
.
ทำให้กระเพาะปลากลายเป็นหนึ่งในเครื่องบรรณาการจากหัวเมืองชายฝั่งทะเล ที่ถวายให้แก่ฮ่องเต้ และเป็นสิ่งที่ชาวบ้านทั่วไปนิยมรับประทาน ในช่วงโอกาสพิเศษ เช่น วันเกิด วันตรุษจีน หรืองานแต่งงาน
.
ปัจจุบันกระเพาะปลาที่ติดหนึ่งในอันดับที่มีราคาแพงสุด อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาทต่อกิโลกรัม เป็นสายพันธุ์กิมจี้ ซึ่งเป็นชนิดปลาน้ำลึกที่หาได้ยาก และได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายของประเทศจีนแล้ว กระเพาะปลาเพศผู้ จะมีราคาที่สูงกว่าเพศเมีย เนื่องจากกระเพาะปลาเพศผู้จะมีความหนา เนื้อแน่น และไม่ละลายในปาก รวมถึงเชื่อว่า มีสรรพคุณที่มากกว่า ขณะที่กระเพาะปลาเพศเมีย มีความบางและอ่อนนุ่มมากกว่า
.
ล่าสุดเจ้าตัวได้โพสต์ภาพกระเพาะปลา ‘ปลากิมจี้’ ที่รับซื้อมาในราคา 11.5 ล้านบาท โดยระบุว่า "กิมจี้ตัวผู้ รับซื้อกิโล 20 ล้าน+(ตัวใหญ่ยิ่งแพง) หลานบอกว่า อากง หวงมากๆ มี 3 ตัว ขายไปสมัยก่อน 2ตัว (ได้เงินไป 800,000 บาท 10 ปีก่อน) แต่ตัวในรูปคือตัวสุดท้ายที่เหลือ เอามาขายให้ผม 11,500,000 บาท แบบจุกๆ ปล.ถ้าเจ้าของเก็บมาขายให้ผมทั้งหมด #จะได้เงินกี่บาทครับเนี่ย (ที่สำคัญ ตัวนี้เล็กกว่า 2 ตัวที่ขายไปเสียอีกครับ) กระเพาะปลาเก่ายิ่งตัวใหญ่ยิ่งแพงนะครับ"
.
“CoinPro Today เมื่อความรู้เป็นเรื่องสนุก”
บทความโดย คุณานันต์ CoinPro Today