เจาะหุ้นค่าเงินบาทอ่อน หุ้นไหนได้ประโยชน์

เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่วงที่ Fund Flow ไหลออกนั้น ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง จากประสบการณ์ของผู้เขียนที่อยู่ในตลาดหุ้นไทยมานาน พอจะมองออกว่าประเด็นต่อไปที่นักลงทุนจะกลับมามอง คือ หุ้นไหนจะได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ซึ่งก็หนีไม่พ้นหุ้นกลุ่มส่งออกนั้นเอง ...

ในตอนแรกนักลงทุนต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยอยู่ในสภาวะ "ขาลง" เนื่องมาจากปัจจัยที่มากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Trade War การขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐ การขู่จะถอนเงินลงทุนจากจีน ปัจจัยของเศรษฐกิจในยุโรปที่ยังอ่อนแอ ค่าเงินของประเทศในเอเชียที่อ่อนค่าอย่างรวดเร็ว
แต่นี้คือ "เหตุ" ที่นำมาใส่ "ผล" หมายถึง ผลลัพธ์เกิดก่อน คนจึงใส่เหตุเข้าไปเพื่ออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้านักลงทุนเข้าใจสิ่งนี้ ตลาดหุ้นขาลงก็จะไม่น่ากลัว

ค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว

เราลองมาดูกันว่าหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อน มีอะไรบ้าง และความเห็นของนักวิเคราะห์ช่วงนี้เป็นอย่างไร

ปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ KBANK ให้ความเห็นว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการปรับพอร์ตของต่างชาติไม่ว่าจะเป็นทั้งตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร แต่อย่างไรก็ตามทิศทางที่อ่อนค่าของเงินบาท ก็เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทยที่เน้นในเรื่องการส่งออกและเน้นในเรื่องการท่องเที่ยว แต่จะไม่เป็นผลดีต่อกลุ่มที่นำเข้าสินค้าโดยเฉพาะกลุ่มพลังงานและกลุ่มที่นำเข้าวัตถุดิบในการผลิต

ไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ ให้ความเห็นว่าการปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทยเป็นไปในทางเดียวกับตลาดภูมิภาค ล่าสุดต่างชาติขายหุ้นไทยไปแล้วมากกว่า 165,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าสมัยวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ที่ขายไปเพียง 162,000 ล้านบาทเท่านั้น และการขายครั้งนี้เป็นการขาย "หนีตาย" ทั้งที่เศรษฐกิจไทยเริ่มดูดีขึ้น ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มที่ดี โดยรวมหุ้นไทยถือว่าไม่แพง
ส่วนต่างชาติจะหยุดขายหุ้นไทยเมื่อไรนี้ เป็นเรื่องตอบยากและไม่มีใครรู้ แต่คิดว่าจะเริ่มลดน้อยลงแล้ว

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ได้รวบรวมหุ้นส่งออกที่จะได้รับประเด็นบวกจากค่าเงินบาทอ่อน คือหุ้นในกลุ่มส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และหุ้นกลุ่มอาหาร HANA,SVI,KCE,DELTA, AH,SAT,CPF,TU,TFG และ GFPT

นักลงทุนต่างชาติขายไปแล้ว YTD 179 แสนล้านบาท

บทวิเคราะห์ Kss ให้ความเห็นว่า Fund Flow มีแนวโน้มจะไหลออกอย่างต่อเนื่อง และปัจจัยบวกในประเทศคือการจัดการเลือกตั้งมีความชัดเจนมากขึ้น คือ 24 กมภาพันธ์ ช้าสุดคือ 5 พฤษภาคม กลยุทธ์หุ้นในช่วงนี้คือ "เน้นตั้งรับ ไม่ไล่ราคา" หุ้นที่น่าสนใจเพราะเชื่อว่าผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว คือ CPF BANPU และหุ้นที่มีโอกาสทำ Window Dressing คือ AOT BH CPALL CPN CBG และ MINT

บทวิเคราะห์ Finansia แนะนำหุ้นเด่น คือ CPF ให้ราคาเป้าหมาย 28 บาท จะได้รับประโยชน์จากสงคราม Trade War สหรัฐจะหันมาสั่งเนื้อหมูจากเวียดนามมากขึ้นทำให้ราคาหมูพุ่งขึ้นสูง และประโยชน์อีกเด้งคือ ค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ราคาหุ้นน่าจ Bottom Out ไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจำเป็นจะต้องติดตามเรื่อง หุ้นเข้า-ออก SET50 SET100
โดยหุ้นที่เข้า SET50 คือ BGRIM DELTA GLOW KTC RATCH TOA
ส่วนหุ้นที่ออกคือ BCP KCE PSH SAWAD TPIPP WHA

และหุ้นที่เข้า SET100 คือ BLA ERW PRM RS THANI TTW
ส่วนหุ้นที่ออกคือ ANAN BA BEC BIG JMART JWD MC MONO THCOM TTA UNIQ

** นี้ก็เป็นแนวทางกลยุทธ์หุ้นช่วงนี้ครับ นักลงทุนจำเป็นจะต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนการตัดสินใจลงทุนเสมอครับ

ขอบคุณแหล่งข้อมูล
http://www.settrade.com/C17_ResearchList.jsp?select_category=all&select_security_type=all

https://kaohoon.com/content/237601

https://www.thairath.co.th/content/1316401