สูตรลัด คัดหุ้นดี ด้วยอัตราส่วนทางการเงิน
.
สำหรับคนที่สนใจลงทุนในหุ้นพื้นฐาน แต่ไม่รู้จะเริ่มวิเคราะห์บริษัทจากตรงไหน วันนี้ลงทุนบอน์ได้รวบรวมสูตรลัดคัดหุ้นดี ด้วยอัตราส่วนทางการเงินที่น่าสนใจมาให้
.
ซึ่งอัตราส่วนทางการเงิน เปรียบเหมือนเป็นตัวที่บ่งบอกถึงสุขภาพของบริษัท คนส่วนใหญ่นิยมใช้เปรียบเทียบผลการดำเนินงานของบริษัทในอดีตที่ผ่านมาและเทียบกับบริษัทอื่นที่ทำธุรกิจคล้ายกัน เพื่อค้นหาหุ้นดี น่าลงทุน
.
1.Price to Earnings (P/E) - อัตราส่วนราคาต่อกำไร
เป็นอัตราส่วนเปรียบเทียบระหว่างราคาตลาดของหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น ใช้ดูความถูกแพงของหุ้นเมื่อเทียบกับกำไร และแสดงให้เห็นว่า ใช้เวลากี่ปีในการถือครองเพื่อคืนทุน
ดังนั้น ค่า P/E ยิ่งน้อยยิ่งดี
.
2.Debt to Equity (D/E) - อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน
เป็นการเอาหนี้ของบริษัททั้งหมดมาหารด้วยส่วนของผู้ถือหุ้นทั้งหมด เพื่อดูว่า สินทรัพย์ของบริษัทมาจากการกู้ยืม หรือมาจากทุนของบริษัท และใช้วัดระดับหนี้ของบริษัท ก่อหนี้เกินตัวหรือไม่ ถ้ามีหนี้สินมาก อาจทำให้มีภาระจ่ายดอกเบี้ยสูงตามไปด้วย
ดังนั้น ค่า D/E ยิ่งน้อยยิ่งดี
.
3.Return On Equity (ROE) - ผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น
เป็นความสัมพันธ์ระหว่างผลกำไรของกิจการเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้น บอกว่า นำส่วนของผู้ถือหุ้นไปสร้างผลตอบแทนได้ดีแค่ไหน
ดังนั้น ค่า ROE ยิ่งมากยิ่งดี
.
4.Return On Assets (ROA) - ผลตอบแทนต่อสินทรัพย์
เป็นความสัมพันธ์ระหว่างผลกำไรของบริษัทเทียบกับสินทรัพย์ทั้งหมด บอกว่า นำสินทรัพย์ไปสร้างกำไรได้ดีแค่ไหน
ดังนั้น ค่า ROA ยิ่งมากยิ่งดี
.
5.Earning per Share (EPS) - กำไรต่อหุ้น
เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่เปรียบเทียบระหว่าง กำไรสุทธิ (Net Profit) และ จำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว (Outstanding Shares)
.
6.Dividend Yield - อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน
เป็นการวัดอัตราผลตอบแทนของเงินปันผลเมื่อเทียบกับราคาหุ้น โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ใช้วัดความสามารถในการจ่ายเงินปันผล ถ้ามีค่านี้สูงแสดงว่ามีการจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูง
ดังนั้น ค่า Dividend Yield ยิ่งมากยิ่งดี
.
