หุ้น ร้านกาแฟ เจ้าไหน? ปรับราคาแล้วบ้าง

ปัญหาเงินเฟ้อ ส่งผลกระทบแทบจะทุกธุรกิจ ไม่เว้นแม้กระทั่งธุรกิจร้านกาแฟที่เริ่มแบกรับกับราคาต้นทุนวัตถุดิบหลักหลายรายการที่ปรับตัวสูงขึ้นไม่ไหว จึงทยอยประกาศแจ้งลูกค้าล่วงหน้าว่าจะปรับขึ้นราคาเครื่องดื่มแต่ละเมนูใหม่
.
โดยประเดิมด้วยร้านกาแฟ "อินทนิล คอฟฟี่" ซึ่งบริหารงานโดยบริษัทย่อยของบมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ที่ได้ขอปรับราคาเมนูเครื่องดื่มร้อนและเย็นขึ้นทุกรายการ เมนูละ 5-10 บาท ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 1 ก.ย.65 เป็นต้นไป
.
ถัดมา All Cafe ภายในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกของเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ เครือซีพี ได้ตั้งป้ายแจ้งลูกค้าว่ามีความจำเป็นในการปรับราคาเครื่องดื่ม All Café ขึ้นจากราคาเดิมในอัตรา 5 บาททุกรายการ (ยกเว้นกลุ่มท็อปปิ้ง) เนื่องด้วยต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง เพื่อรักษาคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าไว้ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.65 เป็นต้นไป
.
* "เต่าบิน" ยันยังไม่ขึ้นราคา
ขณะที่ นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่าเบื้องต้นยังไม่มีการพูดคุยเรื่องการปรับขึ้นราคาเครื่องดื่มในตู้เต่าบินกับผู้บริหาร บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่ถือหุ้นใหญ่ตู้เต่าบินเลย ส่วนด้านราคาขายของตู้เต่าบินตอนนี้ยังไม่มีการปรับขึ้นเลยตั้งแต่เริ่มต้นมา ซึ่งราคาของเครื่องดื่มกาแฟก็เริ่มต้นที่ระดับ 25 บาท
.
ด้านยักษ์ใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจร้านกาแฟอีก 2 บริษัทอย่าง OR เจ้าของธุรกิจร้านคาเฟ่ อเมซอน และ PTG เจ้าของแบรนด์ร้านกาแฟพันธุ์ไทยและคอฟฟี่เวิลด์ ยังไม่ได้รับคำตอบจากผู้บริหารว่าจะปรับขึ้นราคาตามจ้าวอื่นๆหรือไม่
.
* โบรกฯ คาดหากขึ้น 5 บ./แก้ว จะหนุนกำไร 360 ลบ./ปี
ส่วนบทวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย ระบุว่าทิศทางการปรับขึ้นราคาสินค้าของ All Cafe เครื่องดื่มกาแฟสดของร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven จะส่งผลดีต่อกำไรของ CPALL เพิ่มขึ้นประมาณ 320 ล้านบาทต่อปีหรือ 1.6% อัพไซด์ต่อกำไรปี 66 ส่วนของ OR หากปรับราคาขายตาม 5 บาทต่อแก้วจะเพิ่มกำไรประมาณ 360 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9% อัพไซด์ต่อกำไรปี 66
.
นอกจากนี้บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่า TACC จะได้ Sentiment เชิงบวก จากกรณีเครื่องดื่ม All Café ปรับราคาขาย เพราะเป็น Supplier หลักให้ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่มีโอกาสได้ปรับขึ้นราคาขายตาม ส่วนด้านแนวโน้มกำไรคาดชะลอตัวบ้างจากไตรมาสก่อนตามปัจจัยฤดูกาล แต่จะกลับมาเร่งตัวในช่วงไตรมาส 4/65 เพราะเป็นช่วง High Season ทั้งเครื่องดื่มและธุรกิจ Character โดยยังคาดกำไรปี 65-66 ที่ระดับเติบโต 9% และ +15% ตามลำดับ พร้อมแนะนำ “ซื้อ” และคงราคาเป้าหมายที่ 8.70 บาท
***********************************