Margin มีหลายประเภทได้แก่ Gross margin ,Ebit margin,Net profit margin
2ชนิดหลังเราสามารถใช้ตัวเลขจากงบที่บริษัทให้ได้เลย แต่ gross margin เราต้องคำนวนเอง โดยวิจารณญาน และประสบการณ์ จะบอกเราว่าควรจะพิจารณาจากรายได้อะไรเป็นหลัก
Gross margin คือกำไรขั้นต้น หมายถึง รายได้หักต้นทุนขาย ซึ่งได้แก่ ค่าวัตถุดิบ ค่าแรง ค่าขนส่ง ค่าเช่า เป็นต้น
Ebit margin คือกำไรก่อนภาษีและต้นทุนทางการเงิน หรือกำไรขั้นต้นที่หัก ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ เช่นค่าโฆษณา ค่าตอบแทนผู้บริหารแล้ว
Net profit margin คือ กำไรสุทธิหลังหักภาษีและต้นทุนทางการเงินเรียบร้อยแล้ว
ทั้งสามตัวเราจะคิดเป็นเปอร์เซ็นเพื่อให้เปรียบเทียบได้ง่าย
เราใช้ Net profit คำนวณ eps ก็จริง แต่มันรวมผลกระทบของการกู้เงิน และนโยบายภาษีไว้ด้วย ซึ่งบางบริษัทอาจจะได้รับยกเว้นภาษี หรืออาจจะกู้เงินเยอะเป็นบางช่วง เพื่อขยายงาน
ส่วน Ebit margin จะรวมค่าใช้จ่ายในการโฆษณา ซึ่งบางช่วงเวลาบริษัทอาจจะกำลังทำตลาด จึงใช้งบโฆษณาสูงกว่าปกติได้
แต่ Margin ประเภทที่แสดงความสามารถในการแข่งขันของบริษัทได้ดีที่สุดคือ gross margin เพราะแสดงถึงการลดต้นทุน หรือเพิ่มสินค้าที่สร้างกำไรได้มากขึ้น และสะท้อนสถาพเศรษฐกิจ หรือ นโยบายรัฐ เช่น การปรับค่าแรง และราคาวัตถุดิบ
จากตัวอย่างข้างบนจะเห็นชัดว่า ถึงแม้ยอดขายปรับตัวลดลงแต่มี gross margin ดีขึ้น และสุดท้ายกลับมีกำไรมากขึ้น ในความเป็นจริง การที่จะหาที่มาของกำไรที่เพิ่มขึ้นแบบพิสดารนี้ เราต้องติดตามข่าวของบริษัทและอ่านหมายเหตุประกอบงบเสมอ แต่ applejob จะเฉลยให้ว่า การลดต้นทุน ประกอบกับบริษัทกำลังขยายการลงทุนในต่างประเทศ จึงมีส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้น จาก 10 ล้านในปีที่แล้วเป็น 20 ล้านในปีนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่มีนัยยะ ทำให้ ถึงแม้ยอดขายจะลดลง แต่กลับกลายเป็นกำไรโตขึ้นได้ในทีุ่สุด
ในการลงทุนระยะยาว เราต้องติดตามผลประกอบการณ์ของบริษัท และประเมิณไปเรื่อยๆ gross profit ที่ลดลงเล็กน้อยในรายไตรมาส ไม่ได้บอกกะไรมากนัก แต่กับหุ้นวัฏจักร การติดตามดู gross profit จำเป็นมาก เพราะมันแสดงถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาสินค้าปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง